กรุงเทพฯ 18 ก.ค.-เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 1 เดือนครึ่ง ด้านบริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย
จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,345 และ 1,335 จุด
ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,380 และ 1,400 จุด
ตามลำดับ
บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด รายงานว่า เงินบาททยอยอ่อนค่าลงในสัปดาห์นี้ ท่ามกลางแรงกดดันจากปัจจัยในประเทศ
ทั้งความกังวลต่อความเสี่ยงของการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 ในประเทศ และปัจจัยทางการเมือง นอกจากนี้ยังมีแรงซื้อเงินดอลลาร์ฯ
ตามปัจจัยทางเทคนิค หลังเงินบาทอ่อนค่าผ่านระดับ 31.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ
ไปได้ โดยเงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 1 เดือนครึ่งที่ระดับ
31.76 บาทต่อดอลลาร์ฯ ช่วงปลายสัปดาห์ ก่อนฟื้นกลับมาบางส่วน
แต่ภาพรวมเงินบาทยังเป็นทิศทางอ่อนค่าสอดคล้องกับสกุลเงินส่วนใหญ่ในเอเชีย
หลังสหรัฐฯ–จีนมีประเด็นตึงเครียดเพิ่มมากขึ้น
ในวันศุกร์ (17 ก.ค.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 31.72 เทียบกับระดับ 31.29 บาทต่อดอลลาร์ฯ
ในวันศุกร์ก่อนหน้า (10 ก.ค.)
ด้านหุ้นไทยเคลื่อนไหวผันผวนตลอดสัปดาห์ โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,359.58 จุด
เพิ่มขึ้น 0.67% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 55,044.27 ล้านบาท ลดลง 22.75%
จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai ลดลง 0.14% จากสัปดาห์ก่อน มาปิดที่ 302.33 จุด
สัปดาห์ถัดไป (20-24 ก.ค.)
ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 31.50-31.90 บาทต่อดอลลาร์ฯบริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย
จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,345 และ 1,335 จุด
ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,380 และ 1,400 จุด
ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/63
สถานการณ์โควิด-19 ทั้งในและต่างประเทศ ความชัดเจนเกี่ยวกับการปรับ ครม. รวมถึงประเด็นขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ-จีน
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่
ยอดขายบ้านใหม่และยอดขายบ้านมือสองเดือนมิ.ย. รวมถึงดัชนี PMI Composite เดือนก.ค.
(เบื้องต้น) ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่
ดัชนี PMI
Composite เดือนก.ค. (เบื้องต้น) ของยูโรโซนและญี่ปุ่น บันทึกการประชุมของ
BOJ
ตลอดจนการกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR เดือนก.ค. ของจีน –สำนักข่าวไทย