fbpx

MEA ร่วม EVAT มอบผ้าใบรถตุ๊กตุ๊กป้องกัน COVID-19

กรุงเทพฯ 17 ก.ค.-MEA ร่วม EVAT มอบผ้าใบรถตุ๊กตุ๊กป้องกัน COVID-19 พร้อมสนับสนุนรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าสร้างอัตลักษณ์การท่องเที่ยวไทยในอนาคต


วันนี้ (15 กรกฎาคม 2563) นายวิลาศ เฉลยสัตย์ รองผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA ร่วมกับ นายกฤษฎา อุตตโมทย์ อุปนายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย (EVAT) ฝ่ายส่งเสริมการใช้ พร้อมด้วยคณะผู้แทนหน่วยงาน ร่วมจัดกิจกรรม Change Tuk Tuks to New Normal เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้โดยสาร และผู้ขับขี่รถตุ๊กตุ๊กในช่วงสถานการณ์เฝ้าระวังการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) พร้อมรณรงค์การใช้งานรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าที่จะช่วยลดผลกระทบจากสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศไทย ณ อาคารวัฒนวิภาส การไฟฟ้านครหลวงสำนักงานใหญ่ คลองเตย


รองผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงปัจจุบันที่มีกิจการร้านค้าต่างๆ และมีการเดินทางเพิ่มมากขึ้น รถตุ๊กตุ๊ก ซึ่งถือเป็นหนึ่งในยานพาหนะที่ใช้ในด้านการสัญจรของประชาชน และการให้บริการด้านการท่องเที่ยว จึงมีความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อระหว่างผู้ขับขี่และผู้โดยสาร จึงเป็นที่มาในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ ด้วยการมอบผ้าใบป้องกัน COVID-19 พร้อมติดตั้ง จำนวน 150 ชุด ให้กับกลุ่มผู้ขับขี่รถตุ๊กตุ๊กในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่อาจมีความเสี่ยง เช่น ถนนนานา ถนนสุขุมวิท ตลาดคลองเตย รอบสนามหลวง และบริเวณปากคลองตลาด


นอกจากนี้ MEA ในฐานะองค์กรที่มุ่งมั่นพัฒนาด้านพลังงานเพื่อวิถีชีวิตเมืองมหานคร เล็งเห็นถึงการสร้างความยั่งยืน และความรับผิดชอบต่อสังคม ด้วยการส่งเสริมนวัตกรรมด้านยานยนต์ไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยลดการปล่อยก๊าซที่ก่อให้เกิดภาวะเรือนกระจก รวมถึงการสร้างฝุ่นละอองที่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ โดยความร่วมมือกับ EVAT ในการลงพื้นที่สร้างความเข้าใจเรื่องรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าครั้งนี้ ยังเป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนให้เกิดการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น ซึ่ง MEA ยังคงดำเนินการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมต่าง ๆ ที่ช่วยส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคตอย่างต่อเนื่องอีกด้วย

#พลังงานเพื่อวิถีชีวิตเมืองมหานคร

Energy for city life, Energize smart living .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชี้อิสราเอล-อิหร่านส่งสัญญาณหาทางถอยจากสงคราม

เยรูซาเล็ม 19 เม.ย.- สื่ออิสราเอลมองว่า การที่อิหร่านพยายามปฏิเสธว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอิหร่านวันนี้ไม่ใช่การโจมตีแก้แค้นของอิสราเอล และการที่อิสราเอลยังคงนิ่งเฉยไม่ออกตัวว่าเป็นผู้กระทำ เป็นการส่งสัญญาณว่าทั้ง 2 ฝ่ายกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงครามในขณะที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น เว็บไซต์ไทมส์ออฟอิสราเอลรายงานว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันจากทางการอิสราเอลว่า ได้โจมตีอิหร่านในเช้าวันนี้ ขณะที่สื่อทางการอิหร่านรายงานเพียงว่า มีการเปิดใช้งานระบบป้องกันภัยทางอากาศ และปฏิเสธรายงานข่าวเรื่องมีการโจมตีที่ตั้งทางทหารในเมืองอิสฟาฮาน ที่อยู่ห่างจากกรุงเตหะรานลงไปทางใต้ 315 กิโลเมตร โดยระบุว่าเหตุการณ์ปกติ แต่เจ้าหน้าที่อิสราเอลและสหรัฐที่ขอสงวนนามเผยกับสื่อในสหรัฐว่า เป็นฝีมือของอิสราเอล หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐอ้างแหล่งข่าวอิหร่าน 3 คนว่า ฐานทัพอากาศในเมืองอิสฟาฮานถูกโจมตีแต่ไม่มีข้อมูลเรื่องความเสียหาย ไทมส์ออฟอิสราเอลมองว่า ลักษณะของการโจมตีอย่างจำกัด ซึ่งมีรายงานว่าเป็นการใช้โดรน ไม่ใช่ขีปนาวุธหรือปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ประกอบกับการที่อิสราเอลไม่ได้ยอมรับอย่างเป็นทางการ น่าจะเปิดทางให้รัฐบาลอิหร่านสามารถปฏิเสธเรื่องความจำเป็นที่จะต้องขู่โจมตีอิสราเอลเป็นครั้งที่ 2 หลังจากระดมยิงขีปนาวุธและโดรนมากกว่า 300 ลูกใส่อิสราเอลเมื่อเช้ามืดวันที่ 14 เมษายนตามเวลาอิสราเอล เป็นสัญญาณเบื้องต้นว่า ทั้ง 2 ประเทศอาจกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงคราม ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่า อิสราเอลจะแก้แค้นอิหร่านตามที่แสดงท่าทีมาตลอดทั้งสัปดาห์ว่า จะไม่ยอมปล่อยให้อิหร่านโจมตีโดยไม่ตอบโต้ จุดกระแสวิตกว่า การโจมตีตอบโต้กันไปมาจะบานปลายกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ดี มีสัญญาณว่ากองกำลังป้องกันอิสราเอลได้ลดความุรนแรงของแผนการโจมตีตามที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น.-814.-สำนักข่าวไทย  

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาในแท็งก์น้ำ ดาดฟ้าหอพัก

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาสภาพเปลือย ในแท็งก์น้ำบนดาดฟ้าหอพัก ย่านมีนบุรี เสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน คาดลงไปเล่นน้ำคลายร้อน

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

ข่าวแนะนำ

“บิ๊กโจ๊ก” ถอนคำร้องเอาผิด “เศรษฐา” อ้างไม่ติดใจแล้ว

“บิ๊กโจ๊ก” ยื่น ป.ป.ช. ขอถอนคำร้องเอาผิด “นายกฯ เศรษฐา” กรณีปฏิบัติหน้าที่มิชอบตาม ม.157 อ้างไม่ติดใจดำเนินคดีแล้ว

นายกฯ เชิญ 4 ธนาคารใหญ่ ถกลดดอกเบี้ยบ้านกลุ่มเปราะบาง

นายกฯ เชิญผู้บริหาร 4 ธนาคารใหญ่ เข้าหารือ ขอให้ทั้ง 4 ธนาคาร ช่วยลดราคาดอกเบี้ยเงินกู้บ้านให้กับประชาชน ส่วนความเคลื่อนไหวทางด้านการเมือง เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เผยส่งชื่อรัฐมนตรีให้นายกฯ พิจารณาแล้ว

สถานการณ์ชายแดนแม่สอดยังไม่น่าไว้วางใจ มีเสียงปืน-ระเบิดจากฝั่งเมียนมา

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก ยังไม่น่าไว้วางใจ หลังเช้านี้ได้ยินเสียงปืนและระเบิดจากการปะทะของกองกำลังกะเหรี่ยงกับทหารเมียนมา ดังขึ้นในรอบ 3 วัน ขณะที่บ่ายนี้ (23 เม.ย.) รมว.ต่างประเทศ เตรียมลงพื้นที่

เฮลิคอปเตอร์กองทัพเรือมาเลเซียชนกันกลางอากาศ-ดับแล้ว 10

กองทัพเรือมาเลเซียกล่าวในแถลงการณ์ว่า เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพเรือมาเลเซีย 2 ลำ ชนกันกลางอากาศในระหว่างการฝึกซ้อมสำหรับการแสดงในขบวนพาเหรดของกองทัพเรือ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 ราย