จ่อเลิกจัดนิทรรศการดอกไม้ชุมชนหัวตะเข้ หลังคนแห่ถ่ายรูป หวั่นโควิด-19

กทม.17ก.ค.-ผู้จัดงานโพสต์ เตรียมพิจารณายุติการจัดนิทรรศการดอกไม้ RakDok Floral Weeks ที่ชุมชนตลาดหัวตะเข้ หลังมีประชาชนไปถ่ายรูปกับดอกไม้จำนวนมาก เกิดความกังวลเรื่องโรคโควิด-19 โดยศุกร์-เสาร์-อาทิตย์นี้จัดอยู่ ก่อนหารือสรุปไปต่อหรือยุติ ซึ่งจะแจ้งให้ทราบโดยเร็ว


จากกรณีที่บริษัท เรนฟอเรสท์(ประเทศไทย) จำกัด  โดย “โจ้ เรนฟอเรสท์” (Joe Rainforest) นักจัดดอกไม้ชื่อดัง ได้จัดงาน RakDok Floral Weeks ที่ชุมชนตลาดหัวตะเข้ เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ โดยนำดอกไม้ไปตกแต่งให้ประชาชนได้ถ่ายรูปฟรี ซึ่งเมื่อประชาชนทราบข่าวก็แห่กันไปถ่ายรูปกับดอกไม้อย่างล้นหลาม จนเกิดกระแสความกังวลเรื่องความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อของโรคโควิด-19 นั้น

ล่าสุด Joe Rainforest  ทีมงานรักดอก โพสต์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก “รักดอก RakDok” ลงวันที่ 17.07.20 ว่า เรียนประชาชนที่จะเดินทางมาชมนิทรรศการและผู้รับผลกระทบจากการจัดนิทรรศการ RakDok Floral Weeks อันเนื่องมาจากปัญหาและข้อสงสัยหลายด้านในการจัดนิทรรศการ ทั้งการแสดงความคิดเห็นผ่านคอมเม้นต์หน้าเพจและหน้านิทรรศการ ทางเพจขออธิบายชี้แจงเป็นข้อๆ ดังต่อไปนี้


1.ผมมาที่นี่ในวันที่รุ่นพี่เปิดร้าน วันที่เห็นว่ามีคนเดินในตลาดหัวตะเข้เพียงวันละไม่กี่คน เงียบเหงาไม่ค่อยมีคนมาเดิน ถึงแม้แต่วันเสาร์อาทิตย์ ก็แทบไม่มีผู้คน

2. นั่นคือเหตุผลที่วางแผนจะมาตกแต่งสถานที่ให้ร้านกาแฟของรุ่นพี่ ด้วยหวังว่าดอกไม้ในร้านจะช่วยดึงคนมาอุดหนุนที่ร้านมากขึ้น เพราะนี่คือการลงทุนของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ถูกให้ออกจากงาน นำเงินเก็บที่พอมีอยู่มาเปิดร้านกาแฟ เพื่อให้มีรายได้มาจุนเจือครอบครัว

3.เมื่อผมมาที่ชุมชนบ่อยขึ้น เห็นว่าชุมชนนี้มีเสน่ห์ จึงเกิดความคิดว่า ถ้าตกแต่งสถานที่หลายจุด คงช่วยให้คนมาที่หัวตะเข้มากขึ้น เพราะก่อนมาที่นี่ ผมเองก็ไม่เคยรู้จักหัวตะเข้มาก่อน ดังนั้นนอกจากร้านรุ่นพี่ ร้านอื่นในชุมชนจะได้เป็นที่รู้จักมากขึ้นด้วย เพราะผมได้รับข้อมูลมาจากคนในชุมชนว่า พื้นที่นี้อยู่ในแผนฟื้นฟูมาตั้งแต่ปี2557 เพื่อพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวิถีชุมชน แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร จึงคิดว่ากิจกรรมเล็กๆครั้งนี้จะช่วยทำให้ชุมชนนี้เป็นที่รู้จักมากขึ้น


4. แพลนแรกของทางบริษัทฯ คือจัดดอกไม้เสร็จก็จะปล่อยให้แต่ละร้าน ดูแลชิ้นงานที่บริษัทฯมาตกแต่งให้ เหมือนการจัดแสดงผลงานศิลปะที่มีอยู่ทั่วไป ที่ศิลปินมาโชว์ผลงานแล้วปล่อยชิ้นงานทิ้งไว้ให้คนมาชม เสาร์อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ผมจะนำดอกไม้จำหน่ายในราคาที่ถูกเพื่อช่วยเหลือธุรกิจค้าส่งดอกไม้และชาวสวน ที่ต้องตัดดอกไม้ทิ้งจำนวนมากเพราะขายไม่ได้ และมี Workshop เล็กๆน้อยๆเพื่อให้ความรู้กับผู้มาร่วมงาน

5. นี่คืองาน RakDok Floral Weeks ของเพจ ซึ่งสเกลงานนี้ในมุมมองของผมถือว่าเล็กมากๆ เมื่อเปรียบเทียบกับงานอื่นอื่นที่เคยผ่านมา จึงไม่คิดว่าคนจะให้ความสนใจงานมากมายขนาดนี้ มากจนเราต้องยกเลิก Workshop เพราะต้องนำพื้นที่มาเพิ่มพื้นที่ว่างเพื่อลดความแออัด

6. จากที่เราวางแผนที่จะเข้ามาในทำกิจกรรมที่กล่าวมาเฉพาะในวันหยุด ทีมงานต้องมาคอยอำนวยความสะดวกให้ผู้เข้าชมงานทุกวัน โดยทางบริษัทฯ และทางโรงระหัดดูแลค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด

7. ตลอดเวลาการเตรียมงาน ทีมงานพยายามปฏิบัติตามระเบียบการที่ทางกระทรวงสาธารณสุขกำหนดเอาไว้  แต่ด้วยจำนวนผู้คนที่มางานมากเกินกว่าที่เราคิดไว้หลายเท่าจะทำให้ทีมงาน และคนในชุมชนอาจดูแลคนที่มาในงานได้ไม่ทั่วถึง

8. ก่อนหน้าได้มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขมาตรวจดูความเรียบร้อยและให้คำแนะนำในการป้องการการระบาดของโควิด-19 ซึ่งทางทีมงานก็ยินดีปฏิบัติตามคำแนะนำมาตลอด

9. เมื่อวันที่ 15 ก.ค.63  มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขมาที่โรงระหัดอีกรอบ เนื่องจากมีผู้ร้องเรียนว่าที่นี่มีความเสี่ยงต่อการระบาดของโควิด-19 และผู้ร้องเรียนมีความประสงค์ให้ยุติการจัดงานในครั้งนี้ แต่ทางทีมงานยังคงใช้ความพยายามแก้ไขปัญหา  ดั่งจะเห็นได้จากการปรับเปลี่ยนวิธีเข้าชมนิทรรศการที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่องานจะได้ดำเนินต่อไปได้ และชาวบ้านในชุมชนยังค้าขายได้จนครบกำหนดเวลาที่แจ้งไว้

10.ทางทีมงานจึงได้รับคำแนะนำต่างๆ เพื่อให้ทุกอย่างดำเนินต่อไปได้อย่างเรียบร้อยที่สุด จึงได้มีประกาศหลายฉบับออกมาเป็นระยะๆ และให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่รัฐตลอดเวลา

11.ทางบริษัทฯ เองปัจจุบันก็ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เช่นเดียวกับหลายภาคส่วน การจัดนิทรรศการในครั้งนี้ใช้ทุนส่วนตัวทั้งหมด พนักงานทุกคนเสียสละเวลามาจัดนิทรรศการโดยไม่มีเบี้ยเลี้ยงรายวัน เพื่อสร้างรอยยิ้มให้คนไทยได้มีกำลังใจต่อสู้กับปัญหาการระบาดของโควิด-19

12. วันนี้หัวตะเข้เป็นที่รู้จักจากคนทั้งประเทศแล้ว ผมคิดว่านิทรรศการนี้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้แล้ว นั่นคือทำหัวตะเข้ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ผมจึงพิจารณาโดยถี่ถ้วนแล้วว่าทางออกของปัญหาอันเนื่องจากการกลับมาของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ทีมงานเห็นด้วยที่ควรจะยุติการจัดงานในครั้งนี้

13.เบื้องต้นเนื่องจากพ่อค้าแม่ค้าบางคนในชุมชน ได้เตรียมสินค้าไว้จำหน่ายในช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์นี้ เพื่อให้ได้มีโอกาสระบายสินค้าที่เตรียมไว้ ดังนั้นวันศุกร์ เสาร์และอาทิตย์นี้จะยังคงมีนิทรรศการอยู่

14. เบื้องต้นทีมงานได้ลดจำนวนคนเข้างาน เพื่อลดความเสี่ยงและจำนวนผู้คนที่จะเข้าชมนิทรรศการ ทางทีมงานยังไม่มีทีมงานที่จะพัฒนาระบบการจองทางออนไลน์ในระยะเวลาอันสั้นที่เหลืออยู่

15. ทีมงานยอมรับว่าคงไม่สามารถออกมารับผิดชอบอะไรได้หากมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากนิทรรศการครั้งนี้

16.บริษัทฯจะหารือหาทางออกให้กับปัญหาเพื่อเป็นการตัดความกังวลใจของประชาชนที่กังวลเรื่องโควิด-19 และความเดือดร้อนจากการจราจรติด ขัดภายในบริเวณตลาดหัวตะเข้ ว่าจะยุตินิทรรศการในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้หรือไปต่อ และจะแจ้งให้รับทราบโดยเร็วที่สุด

17.ทางบริษัทเรนฟอเรสท์(ประเทศไทย) จำกัด และทีมงานรักดอก ขอน้อมรับคำแนะนำต่างๆเพื่อนำไปปรับปรุงและพัฒนาการจัดนิทรรศการในครั้งต่อๆไป ต้องขออภัยชาวชุมชนหัวตะเข้อีกครั้ง สำหรับความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นในขณะนี้

จึงเรียนมาเพื่อทราบ Joe Rainforest ทีมงานรักดอก 17.07.20  

.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ. เผยเลื่อนคุย ‘ทหารไทย-กัมพูชา’ ไม่มีกำหนด

29 ก.ค.- โฆษกทบ. เผยเลื่อนคุย ‘ทหารไทย-กัมพูชา’ ไม่มีกำหนด ยังนัดหมายพบปะกันไม่ได้ แต่พยายามอยู่ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า พื้นที่กองทัพภาคที่ 2 โดยฝ่ายไทย พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาค1 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และฝ่ายกัมพูชา พล.อ.โปว เฮง ผบ.ภูมิภาคทหารที่ 4 และ พล.อ.แอก ซอมโอน ผบ.ภูมิภาคทหารที่ 5 ทั้ง 2 ฝ่ายยังนัดหมายพบปะไม่ได้ เลื่อนไป ยังไม่มีระบุเวลา (เดิมเวลา 10.00 น.) แต่ยังพยายามอยู่ -สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร​” ไม่แปลกใจ กัมพูชาไม่เป็นสุภาพบุรุษ

ทำเนียบ 29 ก.ค.- “แพทองธาร​” ไม่แปลกใจกับความไม่เป็นสุภาพบุรุษของ “กัมพูชา” หลังละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ชี้ต้องฟ้อง ปท. ที่เข้ามาเป็นพยานด้วย บอก​ จะถาม “ภูมิธรรม” ให้ ต้องออกแถลงการณ์โต้หรือไม่​ นางสาวแพทองธาร​ ชินวัตร​ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม​ กล่าวถึงกรณีกัมพูชาละเมิดข้อตกลง​หยุดยิง ว่า​ เมื่อสักครู่​ ได้อัปเดตกับทางทีมงาน​ มีการพูดคุยกันว่า​ ถ้าเป็นแบบนี้​ ก็ต้องมีการแจ้งให้ประเทศที่เข้ามาเป็นพยานได้ทราบด้วย​ ว่า​ เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น​ แต่ไม่แปลกใจกับความไม่เป็นสุภาพบุรุษอยู่แล้ว​ เมื่อถามว่ารัฐบาลจะต้องมีการออกแถลงการณ์อีกครั้งหรือไม่​ หลังจากกัมพูชาไม่หยุดยิง นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า เดี๋ยวอันนั้นจะสอบถามนายภูมิธรรม​ เวช​ย​ชัย​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี​.-315 -สำนักข่าวไทย

กองทัพไทยย้ำ! ใช้สิทธิป้องกันตนเองตามกฎหมายสากล

29 ก.ค.- กองทัพไทยย้ำ! ใช้สิทธิป้องกันตนเองตามกฎหมายสากล เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติและประชาชน หลังกัมพูชาจงใจละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ทำลายความเชื่อมั่นในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน ตามที่รัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชาได้ตกลงร่วมกันในการยุติการสู้รบทางทหารบริเวณแนวชายแดน โดยมีผลตั้งแต่เวลา 24.00 น. ของวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 เพื่อเปิดทางสู่สันติภาพและความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อนบ้านนั้น วันที่ 29 กรกฎาคม 2568 พลตรี วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ระบุกองทัพไทย ได้รับการยืนยันว่า ฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด หยุดยิงทุกพื้นที่ทันทีที่ถึงกำหนดเวลา โดยยึดมั่นในคำมั่นสัญญาที่รัฐบาลทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันให้ไว้ อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาหลังจากกำหนดหยุดยิง ฝ่ายกัมพูชายังคงใช้อาวุธยิงเข้ามาในเขตแดนของประเทศไทยอย่างต่อเนื่องในหลายจุด ถือเป็นการกระทำที่ จงใจละเมิดข้อตกลง และบ่อนทำลายความเชื่อมั่น ที่ควรมีต่อกันในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน กองทัพไทย ขอประณามพฤติกรรมดังกล่าวของฝ่ายกัมพูชา และขอยืนยันว่า ประเทศไทยมีความจำเป็นต้องใช้มาตรการโต้กลับ ภายใต้สิทธิในการป้องกันตนเองตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ไทยมิได้ใช้กำลังเพื่อรุกราน แต่เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และความปลอดภัยของประชาชน “เมื่อเราหยุด แต่เขาไม่หยุด…โลกต้องได้รับรู้ว่า กัมพูชาคือผู้ละเมิดข้อตกลงอย่างต่อเนื่อง และเป็นฝ่ายที่ไม่เคารพกติกาสากล ไม่ยึดถือข้อตกลงระหว่างประเทศใด ๆ ที่ได้ประกาศไว้ในเวทีระดับโลก และเป็นภัยต่อความมั่นคงของภูมิภาคและของโลก” การยอมรับพฤติกรรมเช่นนี้ เท่ากับเปิดช่องให้ความอยุติธรรมกลายเป็นบรรทัดฐานในระบบระหว่างประเทศ […]

ทบ. ประณาม “กัมพูชา” ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง

29 ก.ค.- ทบ. ประณาม “กัมพูชา”ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ขณะที่ไทยยึดมั่นพันธกรณีฯ อย่างเคร่งครัด แต่จำเป็นต้องปกป้องตัวเองตอบโต้อย่างเหมาะสม ขยับเวลาถกผู้นำหน่วยทหารในพื้นที่เป็น 10 โมงเช้า วันที่ 29 กค.68 เวลา 7.30 น. พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของฝ่ายกัมพูชาว่าตามที่รัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชาได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันในการยุติการสู้รบทางทหารบริเวณแนวชายแดน โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 24.00 น. ของวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 เพื่อเปิดโอกาสให้เกิดบรรยากาศแห่งความสงบ ลดความตึงเครียด และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อนบ้านนั้น กองทัพบกขอเรียนว่า ฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวอย่างเคร่งครัด โดยได้ทำการหยุดยิง บริเวณพื้นที่แนวชายแดน ไทย-กัมพูชา ทันทีที่ถึงกำหนดเวลา ด้วยความตั้งใจจริง และยึดมั่นต่อพันธกรณีที่ได้ตกลงร่วมกันของรัฐบาลทั้งสองประเทศ แต่เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งเมื่อถึง กำหนดเวลาดังกล่าว ฝ่ายไทยยังคงตรวจพบว่าฝ่ายกัมพูชาได้มีการใช้อาวุธโจมตีเข้ามาในเขตแดนของประเทศไทยอยู่หลายจุด ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างจงใจ เจตนาทำลายระบบความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน กองทัพบกจึงขอประณามต่อการกระทำดังกล่าว ฝ่ายไทยจำเป็นจะต้องใช้มาตราการโต้กลับอย่างเหมาะสม ภายใต้สิทธิอันชอบธรรมในการป้องกันตนเอง ยืนยันฝ่ายไทยไม่ได้ใช้กำลังทหารเพื่อรุกราน แต่เพื่อป้องกันการรุกล้ำและรักษาอธิปไตยของชาติ ภายใต้กฎกติกาสากล พลตรีวินธัย ยังระบุว่า เบื้องต้น การพบปะผู้นำหน่วยทหารในพื้นที่ มีการขยับเวลา […]