กรุงเทพฯ 13 ก.ค. – ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนหนุนตั้งศูนย์ฟื้นฟูเศรษฐกิจ เร่งช่วยเอสเอ็มอี เสริมสภาพคล่อง
นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยถึงกรณีที่ภาคเอกชนเสนอให้รัฐบาล จัดตั้งศูนย์ฟื้นฟูเศรษฐกิจจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ซึ่งรูปแบบการปฏิบัติงานเช่นเดียวกันศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ว่า เป็นแนวทางที่ดี เพราะรัฐบาลจะได้มีข้อมูลเศรษฐกิจที่มาจากหลายทาง โดยเฉพาะจะได้ข้อมูลโดยตรงจากภาคเอกชน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดย 2 ประเด็นหลักที่ต้องเร่งดำเนินการหลังสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ดีขึ้น คือ เรื่องการจ้างงาน เพื่อช่วยเหลือให้คนมีงานทำ เพื่อให้มีจำนวนคนตกงานน้อยที่สุด และเรื่องการช่วยเหลือธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมหรือเอสเอ็มอี โดยเฉพาะเรื่องการเสริมสภาพคล่องและเงินทุน
“การจัดตั้งศูนย์ฟื้นฟูเศรษฐกิจจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 คาดว่าจะมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และมีการระดมความเห็นจากภาคเอกชนต่าง ๆ ซึ่งการฟังเสียงของภาคเอกชนดีอยู่แล้ว เพราะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เหมือนกับ ศบค.ที่มีแพทย์เข้ามาร่วมในการให้ข้อมูลแก้ปัญหาโควิด-19” นายไพบูลย์ กล่าว
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า กล่าวว่า แนวคิดการจัดตั้งศูนย์ฟื้นฟูเศรษฐกิจลักษณะเดียวกับ ศบค.ถือว่าเป็นแนวคิดที่เป็นประโยชน์ต่อการแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจ จากผลกระทบของโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรีเข้าร่วมในศูนย์ดังกล่าวจะยิ่งทำให้ตลาดตอบรับในทางบวกมากขึ้น เนื่องจากที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรีมีบุคลากรที่ได้รับการยอมรับจากทุกวงการ และการทำงานลักษณะเดียวกับ ศบค.จะทำให้แต่ละคนสามารถช่วยงานรัฐบาลได้ โดยยังสามารถทำงานของตัวเองได้ตามปกติ และที่สำคัญหากศูนย์ฟื้นฟูเศรษฐกิจดังกล่าว สามารถเสนอแนวคิดต่าง ๆ ตรงถึงนายกรัฐมนตรีได้โดยตรงเหมือนที่ ศบค.เสนอแนวทางในการรับมือกับโควิด-19 จะยิ่งทำให้การฟื้นฟูเศรษฐกิจมีความหวังมากขึ้นอย่างชัดเจน
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ข้อเสนอภาคเอกชนตั้งศูนย์ฟื้นฟูด้านเศรษฐกิจ หลังสถานการณ์โควิด-19 หากรัฐบาลตั้งจริง ถือเป็นประโยชน์ต่อการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ โดยจะเห็นว่าที่ผ่านมาการทำงานของ ศบค. ถือว่าประสบผลสำเร็จ เพราะนายกรัฐมนตรีเป็นประธานและมีหน่วยงานต่าง ๆ ร่วมด้วย ทำให้แก้ไขปัญหาได้ตรงประเด็นและรวดเร็ว ที่สำคัญจะมีการรายงานความคืบหน้าปัญหาต่าง ๆ แต่ละวัน ทำให้ประชาชนรับรู้ข้อมูลข่าวสาร อีกทั้งการทำงานเป็นจุดเดียวกันไม่ซ้ำซ้อน โดยส่วนตัวเห็นด้วยหากรัฐบาลจัดตั้งศูนย์ดังกล่าว เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจเป็นไปในทิศทางเดียวกัน.-สำนักข่าวไทย