ตลท. 10 มี.ค. – FETCO ชี้โควิด-19 เป็นวิกฤติที่ไม่ได้ก่อ เชื่อตลาดหุ้นไทยจะกลับมาฟื้นได้เร็วในช่วงครึ่งปีหลัง ระบุรัฐต้องแก้ปัญหาให้ตรงจุด แนะนักลงทุนระยะสั้นไม่ควรเข้าช่วงนี้
นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) กล่าวว่า วานนี้ (9 มี.ค.)ตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงหนักท่ามกลางความวิตกกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการประกาศสงครามราคาน้ำมันของซาอุดีอาระเบียที่จะกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย ซึ่งยอมรับว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เข้าสู่ช่วงน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะนอกประเทศจีน เช่น อิตาลี เกาหลี สหรัฐอเมริกา ขณะที่จีนสถานการณ์เริ่มนิ่งแล้ว ซึ่งเชื่อว่าสถานการณ์จะเริ่มดีขึ้นเมื่อเข้าสู่ฤดูร้อนของประเทศจีน โดยมองภาพรวมวันนี้หลายตลาดหุ้นจะเริ่มกลับมาบวก
ขณะที่ตลาดหุ้นไทยปัจจัยที่ต้องติดตามวันนี้ คือ ผลการประชุมคณะรัฐมนตรีที่กระทรวงการคลังเตรียมเสนอมาตรการทางด้านการเงินและด้านภาษี เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งมองว่าเวลานี้จำเป็นแล้วที่ต้องนำมาตรการทางการคลังออกมาใช้ให้มากและรวดเร็ว เพื่อทดแทนกำลังซื้อภาคเอกชน พร้อมย้ำว่าเศรษฐกิจไทยมีพื้นฐานแข็งแกร่ง ไม่ได้มีปัญหา แต่เมื่อเกิดปัญหาขึ้น ทำให้การจับจ่ายใช้สอยของประชาชนสะดุด ภาครัฐจึงจำเป็นต้องกระตุ้นความเชื่อมั่นให้กับประชาชน
ขณะที่มาตรการด้านตลาดหุ้น คือ การขยายวงเงินการซื้อหน่วยลงทุนกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) ด้วยการเสนอลงทุนในหุ้นได้ลดหย่อนภาษีอีก 200,000 บาท จะเน้นช่วงลงทุนเมษายน-มิถุนายน ซึ่งมองว่าจะช่วยกระตุ้นการลงทุนกลับมาในตลาดทุนได้
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ารอบนี้วิกฤติที่เกิดขึ้นเราไม่ได้ก่อ ตลาดหุ้นจะฟื้นเร็ว เพราะเศรษฐกิจไม่ได้บอบช้ำมาก ธนาคารพาณิชย์ยังแข็งแกร่งมาก ภาวะที่เกิดขึ้นเป็นการชะงักงันชั่วคราวเท่านั้น ภาครัฐจึงจำเป็นต้องเร่งช่วยเหลือประชาชนและภาคธุรกิจให้ตรงเป้า ซึ่งเชื่อว่าสถานการณ์จะดีขึ้นภายในไตรมาส 2 ของปี 2563 และเริ่มฟื้นตัวครึ่งปีหลัง
ส่วนสถานการณ์ตลาดหุ้นจะเลวร้ายกว่านี้หรือไม่ ไม่สามารถตอบได้ แต่เชื่อว่าจะดีขึ้นได้ พร้อมแนะนำนักลงทุนระยะสั้นไม่ควรเข้ามาตลาดหุ้นช่วงนี้ แต่ถ้าสามารถถือได้ 2-3 ปี ค่อยพิจารณาอีกครั้ง เพราะปัจจัยที่เกิดขึ้นล้วนมาจากปัจจัยภายนอก สิ่งที่ทำให้ตลาดหุ้นมีภูมิคุ้มกันมากขึ้น คือ มาตรการภาครัฐที่ต้องสนับสนุนการลงทุนระยะยาว เพราะนี่เป็นบทเรียนหนึ่งที่เมื่อไม่มีเม็ดเงินลงทุนระยะยาวส่งผลให้ตลาดอ่อนไหว ภาครัฐจึงจำเป็นต้องทบทวนเร่งส่งเสริมการลงทุนระยะยาว ขณะที่ FETCO เตรียมแผนจะเสนอการลงทุนรูปแบบอื่น เช่น การส่งเสริมการลงทุนในตลาดหุ้น ถือ 2 ปี และสามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้ เป็นต้น . – สำนักข่าวไทย