กทม. 10 ก.ค. – สปสช. เตรียมขยายผลการตรวจสอบการเบิกจ่ายเงินคัดกรองโรคกองทุนบัตรทอง ครอบคลุมทั่วประเทศ และย้อนหลังไปถึง 3 ปี เพื่อให้เกิดความโปร่งใส หลังเกิดปัญหา 18 คลินิกทุจริตเบิกจ่าย 
นายแพทย์การุณย์ คุณติรานนท์ รองเลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการรั่วไหลของงบประมาณ ซ้ำรอย 18 คลินิกที่พบพฤติกรรมส่อทุจริตการเบิกจ่ายเงินคัดกรองโรคกองทุนบัตรทอง ซึ่งทาง สปสช. ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับคลินิกดังกล่าว และยกเลิกสัญญาหน่วยบริการ พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องนี้ และเตรียมขยายผลการตรวจสอบเพิ่มให้ครอบคลุมทั่วประเทศ และย้อนหลังตรวจสอบไปอีก 3 ปี ตั้งแต่ปี 2560-2562 เพิ่มความเข้มข้นในพื้นที่ที่เป็นจุดเสี่ยง หรือมีแรงจูงใจ ได้แก่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล
กระบวนการตรวจสอบ นอกจากเอกสารมากกว่า 200,000 ฉบับแล้ว ยังจะใช้กลไกการโทรศัพท์สอบถามกับผู้ป่วยโดยตรง หรือ audit เพื่อเป็นการแสดงตัวตนของผู้ป่วย ยังเป็นการตรวจทานข้อมูลที่ได้รับจากคลินิก ซึ่งตามปกติการตรวจสอบแบบ audit นี้จะทำต่อเมื่อพบข้อสงสัยหรือข้อผิดพลาดในการคีย์ข้อมูลคนไข้ เฉลี่ยใช้กลไกนี้ประมาณแค่ร้อยละ 5 คาดว่ากระบวนสอบนี้จะแล้วเสร็จภายใน 1-2 เดือน และในอนาคตเตรียมใช้ระบบ เอไอ ตั้งโปรแกรมจับพิรุธหรือข้อสงสัยในกระบวนการเบิกจ่ายคัดกรองโรค 
ส่วนความคืบหน้าการสอบทุจริต 18 คลินิก นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและ ออกหนังสือเรียกผู้เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล ทั้งผู้ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการ และตรวจสอบไปถึงบริษัทที่รับทำแล็บในการตรวจสอบคัดกรองโรค ซึ่งทางผู้แทนคลินิกให้การยอมรับตกแต่งข้อมูลและใช้ข้อมูลเท็จ จึงมอบให้นิติกรของกรม สบส. ไปร้องทุกข์กล่าวโทษต่อกองปราบฯ เรียบร้อยแล้ว.-สำนักข่าวไทย
