กรุงเทพฯ 9 ก.ค. – สศก.เผยไม้ผลภาคใต้ให้ผลผลิตรวม 8.4 แสนตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.93 มากสุดคือทุเรียน ออกตลาดมากสุด ส.ค.63
นางอัญชนา ตราโช รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงสถานการณ์ไม้ผลรวม 14 จังหวัดภาคใต้ ปี 2563 ได้แก่ ทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกอง พบว่า เนื้อที่ให้ผลทั้ง 4 ชนิด จำนวน 887,852 ไร่ เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่มีจำนวน 844,042 ไร่ โดยทุเรียนและมังคุด เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.80 , 1.57 ตามลำดับ เนื่องจากทุเรียนและมังคุดปลูกทดแทนเงาะ ลองกอง และยางพาราเริ่มให้ผล ส่วนเงาะและลองกอง ลดลงร้อยละ 5.27 , 5.65 ตามลำดับ เนื่องจากส่วนมากมีการปรับเปลี่ยนไปปลูกทุเรียน
ด้านผลผลิตรวมทั้ง 4 ชนิด จำนวน 844,003 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่มีจำนวน 796,751 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.93 คาดว่าทุเรียน 588,337 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.03 ส่วนไม้ผลชนิดอื่น ๆ มีผลผลิตลดลง โดยเงาะ 50,280 ตัน ลดลงร้อยละ 29.52 ลองกอง 52,178 ตัน ลดลงร้อยละ 27.99 และมังคุด 153,208 ตัน ลดลงร้อยละ 10.30 ทั้งนี้ ผลผลิตต่อไร่ของทุเรียนคาดว่ามีทิศทางเพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาอยู่ในเกณฑ์ดีจูงใจให้เกษตรกรดูแลรักษา มีการเตรียมแหล่งน้ำสำรองเพื่อใช้ในการดูแลต้นทุเรียน และมีการขึ้นทะเบียนเกษตรกรเพื่อผลิตทุเรียน GAP เพิ่มขึ้น ส่วนมังคุด เงาะ และลองกอง ผลผลิตต่อไร่ คาดว่าลดลง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ทำให้การติดดอกออกผลน้อยลง
ด้านนางพัชรารัตน์ ลิ้มศิริกุล ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 8 จังหวัดสุราษฎร์ธานี (สศท.8) กล่าวว่า ขณะนี้ไม้ผลทั้ง 4 ชนิด เริ่มติดผลและทยอยออกสู่ตลาด โดยทุเรียนมีผลผลิตออกประมาณร้อยละ 10 ผลผลิตที่เก็บเกี่ยวในช่วงแรกเป็นทุเรียนพันธุ์พื้นเมืองและทุเรียนที่ใช้สารกระตุ้นการออกดอก โดยจะออกมากช่วงเดือนสิงหาคม ร้อยละ 33 มังคุด เริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน และเกือบร้อยละ 50 จะออกมากช่วงเดือนสิงหาคม 2563 เงาะ เริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม และจะออกมากช่วงเดือนสิงหาคม 2563 ถึงร้อยละ 40 และลองกอง ผลผลิตส่วนมากอยู่ในระยะติดผลอ่อน ผลผลิตจะออกมากช่วงเดือนกันยายน 2563.-สำนักข่าวไทย