กทม.2 ก.ค.- เร่งสำรวจความเสียหายไฟไหม้ตลาดยิ่งเจริญ เสียหายกว่า 150 แผง ยังประเมินความเสียหายไม่ได้ ล่าสุด ตลาดเปิดค้าขายตามปกติแล้ว
ความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้ตลาดยิ่งเจริญ หลังควบคุมเพลิงได้สำเร็จเมื่อช่วงเช้ามืดคือ 05.00 น. และตลอดช่วงเช้าจนถึงเวลา 12.00 น. เจ้าหน้าที่สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. ยังต้องใช้รถน้ำ ฉีดพ่นเถ้าถ่านที่ถูกเผาไหม้ซ้ำอีกครั้งภายในตลาดยิ่งเจริญ ย่านบางเขน ตามขั้นตอน เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า จะไม่ปะทุขึ้นมาอีก ก่อนที่เจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ จะเข้าไปสำรวจความเสียหาย
นายสมบัติ วรสินวัฒนา ผู้อำนวยการสำนักงานเขตบางเขน เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังกันพื้นที่บริเวณโดยรอบ และไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าพื้นที่ เนื่องจากอาจเกิดอันตรายได้ จึงจะให้วิศวกร ผู้เชี่ยวชาญเข้าสำรวจตัวอาคาร ขณะเดียวกัน ทางสำนักงานเขตได้ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ตั้งเต็นท์ศูนย์อำนวยการร่วม ทางทิศตะวันตกของตลาดรับลงทะเบียนและให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นกับผู้ได้รับผลกระทบ
ด้านนายสายชล สวัสดิชัย ผู้จัดการบริหารการตลาดยิ่งเจริญ ระบุว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น เกิดเหตุเพลิงไหม้ตอนตี 3 สามารถควบคุมเพลิงได้ตอนตี 5 พบความเสียหายเป็นตึกแถวกว่า 20 คูหา ,อาคารสำนักงาน ศูนย์อาหารอีก 1 แห่ง และแผงทั่วไปประมาณ 150 แผง ส่วนมูลค่าความเสียหายยังประเมินไม่ได้ โดยต้นเพลิงอยู่ที่คูหาแห่งหนึ่ง บริเวณร้านขายสินค้าเบ็ดเตล็ด ตรงถนนเจ้าพ่อสมบุญ ก่อนจะลุกลามไปตลาดสดบางส่วน ความเสียหายคิดเป็นร้อยละ 10 ของพื้นที่ทั้งหมดของตลาดเท่านั้น ล่าสุด ทางตลาดในส่วนที่ไม่ได้รับความเสียหายอีกร้อยละ 90 ให้บริการตามปกติแล้ว สำหรับแผงค้า และร้านค้าที่ได้รับผลกระทบ ทางตลาดมีการเยียวยาผู้ค้าเบื้องต้นด้วยการจัดพื้นที่ค้าชั่วคราว บริเวณเต็นท์ใหญ่ที่อยู่บริเวณลานจอดรถ 3 เพื่อบรรเทาในเบื้องต้น พร้อมจะนำเรื่องของการช่วยเหลือค่าเช่าไปหารือกับฝ่ายบริหารเพื่อช่วยเหลือผู้ค้าอีกครั้งเชื่อว่าจะไม่มีปัญหาเพราะที่ผ่านมาตลาดยิ่งเจริญอยู่กันแบบครอบครัว
ขณะที่นางขนิษฐา ชิมสมบูรณ์ ผู้ค้าในตลาดสดแผงผัก เล่าเหตุการณ์ทั้งน้ำตาว่า ช่วงประมาณตี 3 ขณะพ่อค้าแม่ค้ากำลังจัดเตรียมของไว้ขายช่วงเช้ามืด เพลิงได้เริ่มลุกไหม้มาจากท้ายตลาด ช่วงแรกคิดว่าจะไม่ลุกลาม สักพักได้ยินเสียงคล้ายระเบิด และเริ่มเห็นแสงเพลิง เสียงตะโกน จึงพยายามวิ่งหนีเอาชีวิตรอด โดยไม่ทันเก็บข้าวของ เหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้เงินที่ลงทุนไปกว่า 20,000 บาทในแผงผัก โดยเฉพาะหอมกระเทียมที่เพิ่งสั่งมาลงใหม่เสียหายทั้งหมด และช่วงโควิด-19 ระบาด การค้าซบเซา ช่วงนี้สถานการณ์เริ่มผ่อนคลายคิดว่าจะดีขึ้น แต่กลับมาเกิดเพลิงไหม้ซ้ำเติมอีก ถือว่าหนักที่สุด นับตั้งแต่ขายผักมาเป็นเวลากว่า 20 ปี แต่ยังรู้สึกดีใจที่ทางตลาดได้จัดพื้นที่ให้พ่อค้าแม่ค้าที่ได้รับผลกระทบได้ขายของเป็นการชั่วคราว.-สำนักข่าวไทย