fbpx

คมนาคมคาด 3-7 ก.ค. ปชช.ใช้บริการขนส่งสาธารณะ 7.6 ล้านคน

กรุงเทพฯ  1 ก.ค. – คมนาคมคาด 3-7 ก.ค. ประชาชนใช้บริการขนส่งสาธารณะ 7.6 ล้านคน ย้ำยึดหลัก ศบค. “สวมหน้ากากฯ-ล้างมือ-เว้นระยะห่าง” ป้องกันโควิด-19 ขณะที่การเดินทางต้องปลอดภัย หวังให้อุบัติเหตุสถิติเป็นศูนย์


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงแผนการเตรียมความพร้อมรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงวันหยุดยาวตั้งแต่วันที่ 4-7 กรกฎาคม 2563 ซึ่งเป็นวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ว่า  กระทรวงคมนาคมให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เป็นผู้ไปดำเนินการ โดยคาดว่าประชาชนจะเริ่มเดินทางตั้งแต่วันศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม และจะกลับประมาณวันที่ 6-7 กรกฎาคม

ทั้งนี้ จะมีการแบ่งการเดินทางเป็นทางบก อาทิ รถยนต์ส่วนบุคคล กับรถยนต์สาธารณะ รถยนต์ส่วนบุคคล ได้มีการดำเนินการวางมาตรการ แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก คือ มาตรการในการอำนวยความสะดวก ส่วนที่สอง คือ มาตรการอำนวยความปลอดภัย อาทิ อำนวยความสะดวกด้านโครงข่ายการเดินทาง คือ บริหารจัดการจราจร การจัดการจุดวิกฤติจราจร และยกเว้นค่าผ่านทาง ซึ่ง ครม.ได้มีมติยกเว้นค่าผ่านทาง ในส่วนที่เป็นมอเตอร์เวย์ 2 เส้นทาง (มอเตอร์เวย์หมายเลข 7 ศรีนครินทร์-ชลบุรี และ 9 วงแหวนรัชดาภิเษก ตะวันออก และตะวันตก) ตั้งแต่วันที่ 3-8 กรกฎาคม 2563


สำหรับบนทางพิเศษ 7 เส้นทาง จะมีการยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษ 3 เส้นทาง ได้แก่ ศรีรัช, อุดรรัถยา และเฉลิมมหานคร ตั้งแต่วันที่ 5-6 กรกฎาคม , มีการจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกทางถนน เช่น บริการจุดพักรถ จุดตรวจสภาพรถ รวมถึงจุดบริการประชาชนที่เดินทางทางถนนอย่างเพียงพอ และยังมีการบริการข้อมูลข่าวสารการจราจร โดยมีช่องทางให้ข้อมูลข่าวสารการจราจร ผ่านแอปพลิเคชันของกรมทางหลวง ประชาชนสามารถเข้าไปดาวน์โหลดดูได้ ซึ่งจะแบบเป็น Real Time สามารถเช็กสภาพการจราจรได้

นอกจากนี้ การบริการข้อมูลข่าวสารการจราจรยังมีสายด่วนหมายเลข 1356 ศูนย์ปลอดภัยคมนาคม, สอบถามการจราจร 1586 กรมทางหลวง, 1146 กรมทางหลวงชนบท, 1193 ตำรวจทางหลวง, 1137 จส.100, 1255 จราจรเพื่อสังคม และ 1192 สายด่วนรถหาย อีกทั้งยังมีแอปพลิเคชัน “M Traffic” สำหรับเดินทางบน Motorway และ “Thailand Highway Traffic” สำหรับเดินทางบนทางหลวงทั่วประเทศ เพื่อเป็นการตัดสินใจในการเดินทาง

สำหรับส่วนที่ 2 คือ มาตรการอำนวยความปลอดภัย อาทิ มาตรการลดปัจจัยเสี่ยงด้านคน คือการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด การตรวจจับความเร็วรถ และกำกับดูแลวินัยจราจรผู้ใช้ถนน, มาตรการลดปัจจัยเสี่ยงด้านถนนและสภาพแวดล้อม ด้วยการปรับปรุงซ่อมแซมถนนให้อยู่ในสภาพที่ดี โดยหยุดการก่อสร้างถนนในขณะที่กำลังเดินทาง เตรียมช่องทางพิเศษ ทางเลี่ยงลัด และจัดทำป้ายเตือน 


อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงคมนาคมคาดการณ์ว่าการเดินทางของประชาชนมีปริมาณเพิ่มขึ้น 10% จากช่วงปกติ โดยปริมาณจราจรขาเข้า กทม. 3.5 ล้านเที่ยว ส่วนปริมาณขาออก กทม.อยู่ที่ 3.6 ล้านเที่ยว หากเป็นไปตามแผนที่กระทรวงคาดการณ์ไว้คงจะไม่มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของการให้บริการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน อีกทั้งยังมีความปลอดภัยด้วย

นอกจากนี้ ทางกระทรวงคมนาคมคาดการณ์ว่าในช่วงระหว่างวันที่ 3-7 กรกฎาคม จะมีการเดินทางโดยสารสาธารณะประมาณ 7.6 ล้านคน ซึ่งได้มีการเตรียมการจัดหายานพาหนะต่าง ๆ เพื่อให้บริการประชาชนไม่ว่าจะเป็นเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑล หรือจากกรุงเทพฯ ออกไปต่างจังหวัด หรือจากต่างจังหวัดกลับมายังกรุงเทพฯ ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนสบายใจในเรื่องของการเดินทางหากปฏิบัติตามกฎ และขอเน้นย้ำเรื่องสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังคงต้องยึดหลัก Social Distancing, สวมหน้ากากอนามัย และล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชี้อิสราเอล-อิหร่านส่งสัญญาณหาทางถอยจากสงคราม

เยรูซาเล็ม 19 เม.ย.- สื่ออิสราเอลมองว่า การที่อิหร่านพยายามปฏิเสธว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอิหร่านวันนี้ไม่ใช่การโจมตีแก้แค้นของอิสราเอล และการที่อิสราเอลยังคงนิ่งเฉยไม่ออกตัวว่าเป็นผู้กระทำ เป็นการส่งสัญญาณว่าทั้ง 2 ฝ่ายกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงครามในขณะที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น เว็บไซต์ไทมส์ออฟอิสราเอลรายงานว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันจากทางการอิสราเอลว่า ได้โจมตีอิหร่านในเช้าวันนี้ ขณะที่สื่อทางการอิหร่านรายงานเพียงว่า มีการเปิดใช้งานระบบป้องกันภัยทางอากาศ และปฏิเสธรายงานข่าวเรื่องมีการโจมตีที่ตั้งทางทหารในเมืองอิสฟาฮาน ที่อยู่ห่างจากกรุงเตหะรานลงไปทางใต้ 315 กิโลเมตร โดยระบุว่าเหตุการณ์ปกติ แต่เจ้าหน้าที่อิสราเอลและสหรัฐที่ขอสงวนนามเผยกับสื่อในสหรัฐว่า เป็นฝีมือของอิสราเอล หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐอ้างแหล่งข่าวอิหร่าน 3 คนว่า ฐานทัพอากาศในเมืองอิสฟาฮานถูกโจมตีแต่ไม่มีข้อมูลเรื่องความเสียหาย ไทมส์ออฟอิสราเอลมองว่า ลักษณะของการโจมตีอย่างจำกัด ซึ่งมีรายงานว่าเป็นการใช้โดรน ไม่ใช่ขีปนาวุธหรือปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ประกอบกับการที่อิสราเอลไม่ได้ยอมรับอย่างเป็นทางการ น่าจะเปิดทางให้รัฐบาลอิหร่านสามารถปฏิเสธเรื่องความจำเป็นที่จะต้องขู่โจมตีอิสราเอลเป็นครั้งที่ 2 หลังจากระดมยิงขีปนาวุธและโดรนมากกว่า 300 ลูกใส่อิสราเอลเมื่อเช้ามืดวันที่ 14 เมษายนตามเวลาอิสราเอล เป็นสัญญาณเบื้องต้นว่า ทั้ง 2 ประเทศอาจกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงคราม ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่า อิสราเอลจะแก้แค้นอิหร่านตามที่แสดงท่าทีมาตลอดทั้งสัปดาห์ว่า จะไม่ยอมปล่อยให้อิหร่านโจมตีโดยไม่ตอบโต้ จุดกระแสวิตกว่า การโจมตีตอบโต้กันไปมาจะบานปลายกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ดี มีสัญญาณว่ากองกำลังป้องกันอิสราเอลได้ลดความุรนแรงของแผนการโจมตีตามที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น.-814.-สำนักข่าวไทย  

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาในแท็งก์น้ำ ดาดฟ้าหอพัก

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาสภาพเปลือย ในแท็งก์น้ำบนดาดฟ้าหอพัก ย่านมีนบุรี เสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน คาดลงไปเล่นน้ำคลายร้อน

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน-ใต้ พายุฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง ส่วนภาคใต้ มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง โดยมีฝนฟ้าคะนองเล็กน้อย

ยังระดมฉีดน้ำ-โฟม สกัดเพลิงไหม้โกดังสารเคมี

เหตุเพลิงลุกไหม้โกดังเก็บสารเคมี ที่จังหวัดระยอง ผ่านมากว่า 30 ชั่วโมงแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งทำงานอย่างหนักเพื่อทำให้เพลิงสงบ ขณะที่ล่าสุด จ.ระยอง ประกาศให้พื้นที่ 2 ตำบล เป็นพื้นที่ประสบสาธารณภัย

“บิ๊กโจ๊ก” ถอนคำร้องเอาผิด “เศรษฐา” อ้างไม่ติดใจแล้ว

“บิ๊กโจ๊ก” ยื่น ป.ป.ช. ขอถอนคำร้องเอาผิด “นายกฯ เศรษฐา” กรณีปฏิบัติหน้าที่มิชอบตาม ม.157 อ้างไม่ติดใจดำเนินคดีแล้ว