กรุงเทพฯ 20 มิ.ย.- หลังข่าว พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ นักโทษในคดีโอนหุ้น “เสี่ยชูวงษ์” วางแผนร่วมกับนักโทษในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เตรียมแหกคุก โดยวางแผนมานานเกือบเดือน แต่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพบความผิดปกติเสียก่อน ซึ่งศาลยอมรับการข่าวทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว ขณะที่นักอาชญาวิทยามองว่า มีเจตนาหลบหนี วางแผนอย่างเป็นระบบ
แผนแหกคุกเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ระเบิดเรือนจำ หลบหนี มี ฮ.มารอรับตัว และหากชิงตัวไม่สำเร็จ ให้จับภรรยา ผบ.เรือนจำ เป็นตัวประกันต่อรองเจ้าหน้าที่เพื่อหลบหนี แผนลับของ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ จำเลยคดีฆาตกรรมนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง เเละคดีอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา ถูกเปิดโปงขึ้นหลังวานแผนกับ 2 ผู้ต้องหาในคุกได้เกือบเดือน
นักอาชญาวิทยา ชี้รูปแบบพฤติกรรมอาชญากรส่วนใหญ่มักจะมีการวางแผนก่อนก่อเหตุ ศึกษาเส้นทางหลบหนี ดูลาดเลา ติดตามความเคลื่อนไหวของตำรวจ การติดตามจับกุม และประเมินความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น ส่วนที่ผ่านมานักโทษแหกคุกหลบหนีออกจากเรือนจำ มักใช้รูปแบบ ช่องว่าง โอกาสที่แตกต่างกัน อาทิ แอบลักลอบใช้ใบเลื่อยตัดลูกกรง, ใช้ผ้าห่มปีนกำแพงเรือนจำออกมา แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมได้ จึงเป็นไปได้ที่ พ.ต.ท.บรรยิน ซึ่งเคยรับราชการตำรวจ จะมีวิธีการคิดวางแผนแหกคุก เตรียมการอย่างดีทำเป็นระบบ มีแผนสำรอง เพราะรู้ยุทธวิธีการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ ต้องศึกษาเส้นทางก่อเหตุ แต่มองว่าการหลบหนีเป็นไปได้ยาก เพราะทางรัฐมีมาตรการควบคุมและการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด
นักอาชญาวิทยา แนะวิธีป้องกันหรือตัดวงจรการทำความผิดซ้ำในเรือนจำ ควรศึกษาลักษณะการกระทำผิดของผู้ต้องขัง ประเภทการก่ออาชญากรรม อัตราโทษ เช่น คนร้ายที่ก่อเหตุอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญ ทำร้ายร่างกายฆ่าคนโดยเจตนา โทษสูงสุดถึงประหารชีวิต ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ลงมือจะหลบหนีจากเรือนจำ จึงต้องจับตาอย่างเข้มงวด
พฤติกรรมอาชญากร หากก่อเหตุแล้วสำเร็จจะมีพฤติกรรมทำซ้ำ เมื่อถูกจับกุมอาจเกิดการเรียนรู้ ข้อผิดพลาดที่ถูกจับ การสังเกตพฤติกรรมเพื่อนผู้ต้องขังในเรือนจำ ญาติที่มาเยี่ยม และสุดท้ายผู้กระทำผิดควรมีจิตสำนึก ต้องรับโทษในสิ่งที่ทำพลาดหรือหลงผิด ไม่ควรก่อเหตุรุนแรงอุกฉกรรจ์กว่าเดิม
ด้านศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางนัดตรวจพยานหลักฐาน คดีอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษาอาวุโสศาลอาญากรุงเทพใต้ อดีตเจ้าของสำนวนคดีโอนหุ้นชูวงษ์ 300 ล้าน จะมีการเบิกตัว พ.ต.ท.บรรยิน จากเรือนจำบางขวาง และผู้ร่วมขบวนการอุ้มฆ่าจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มาศาล ในวันจันทร์นี้
หลังแผนแหกคุกของ พ.ต.ท.บรรยิน ถูกเปิด ในวันจันทร์นี้ รูปแบบนัดพร้อมคดีนี้ จากเดิมเตรียมเบิกคู่ความทั้งสองฝ่ายประจำหน้าในชั้นศาล อาจเปลี่ยนเป็นการใช้วีดิโอคอนเฟอเรนซ์ เพื่อแก้ปัญหาเหตุการณ์ไม่คาดฝัน และเป็นการป้องกันเหตุชิงตัวนักโทษซึ่งเป็นจำเลยในคดีนี้หรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล.-สำนักข่าวไทย