ตรัง 19 มิ.ย. – ความคืบหน้ากรณีตำรวจกองปราบปรามร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เปิดปฏิบัติการตรวจค้นร้านทองซึ่งรับฟอกเงินจากขบวนการค้ายาเสพติด โดยมี “แก๊งดาวเรือง” ในภาคใต้รวมอยู่ด้วย วันนี้ ผบ.เรือนจำจังหวัดตรัง ยืนยัน “ดาวเรือง สมแสง” ผู้ต้องขังหญิงเครือข่ายคนสำคัญที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ ไม่มีพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด
นายภักดี แก้วเนียม ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดตรัง ยืนยันปัจจุบันแก๊งดาวเรือง มีเพียง น.ส. ดาวเรือง สมแสง ผู้ต้องขังหญิงที่ยังถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำจังหวัดตรังเท่านั้น ส่วนผู้ต้องขังชายอีกคนเครือข่ายเดียวกัน ย้ายไปควบคุมที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ตั้งแต่กลางเดือนมกราคม 63
สำหรับ น.ส ดาวเรือง จำคุกมา 2 ปีกว่า และยังมีคดีฟอกเงินเพิ่มมา ยืนยันคดีที่ น.ส ดาวเรืองถูกจับ คือคดี พ.ร.บ ยาเสพติด ตั้งแต่มาอยู่ในเรือนจำก็ไม่ได้มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดแล้ว และคิดว่าการบุกจับร้านทองเครือข่ายฟอกเงินในคดียาเสพติดในภาคใต้ ทั้งที่ จ.ตรัง พังงา ระนอง และกรุงเทพฯ ไม่เกี่ยวกับทางเรือนจำจังหวัดตรัง
สำหรับปฏิบัติการดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งนครบาล สอบสวนกลาง ภูธรภาค 5 ภูธรภาค 8 และกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เปิดปฏิบัติการบุกค้นร้านทองในพื้นที่กรุงเทพฯ เเละต่างจังหวัด เช่น พังงา ระยอง ตรัง นครปฐม กาญจนบุรี และหลายจังหวัดทางภาคเหนือ โดยเป็นการขยายผลจากการจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญ 4 เครือข่าย ซึ่ง 1 ใน 4 มีเครือข่าย มี “ดาวเรือง” ด้วย
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่พบว่าปัจจุบันขบวนการค้ายาเสพติดใช้วิธีการฟอกเงิน โดยการโอนเข้าบัญชีร้านทอง ธุรกิจน้ำมัน และอื่นๆ อย่างร้านทองจะเป็นการซื้อทองคำแท่ง ซึ่งเครือข่ายค้ายาเสพติดดาวเรืองจะฟอกเงินที่ร้านทองย่านวังบูรพา ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่มีข้อมูลว่าทั้ง 4 เครือข่ายยาเสพติดฟอกเงินโดยการซื้อทอง ซื้อน้ำมัน เกือบ 200,000 ล้านบาท และยังพบว่ามีร้านทองย่านเยาวราช 2-3 แห่ง ที่รับฟอกเงินให้กับขบวนการค้ายาเสพติด
ขบวนการค้ายาเสพติด “ดาวเรือง” เป็นขบวนการที่ค้าทั้งยาไอซ์ และยาบ้า จากข้อมูลพบว่าทำมาระยะแล้ว กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดมีข้อมูลอยู่ ส่วนผู้บงการของเครือข่ายทุกเครือข่ายยังมีความเคลื่อนไหวอยู่ในประเทศ และพบว่ามีบางส่วนสั่งการมาจากในเรือนจำ ซึ่งมีการประสานกับอธิบดีกรมราชทัณฑ์มาตลอด
อย่างไรก็ตาม ปฏิบัติการครั้งนี้มีหมายจับ 400 หมายจับ จับกุมได้เกือบ 300 คน มีทั้งเจ้าของร้านทอง เจ้าของธุรกิจน้ำมัน และผู้รับเปิดบัญชีรับโอนเงินและกดเงิน ยึดยาบ้ากว่า 400,000 เม็ด ไอซ์เกือบ 5 กิโลกรัม ยึดทรัพย์ 259 รายการ มูลค่า 70 ล้านบาท อยู่ระหว่างเร่งตามจับกุมผู้ต้องหาที่เหลือ พร้อมทั้งขยายผลไปยังผู้บงการต่อไป ส่วนเจ้าของร้านทองที่ถูกจับกุมบางส่วนรับสารภาพแล้ว. – สำนักข่าวไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
► เปิดเส้นทางฟอกเงินเครือข่ายยาเสพติด