กทม. 16 มิ.ย. – โรงเรียนสอนการป้องกันตัว มีความน่าสนใจและจำเป็นแค่ไหนในสังคมไทยปัจจุบัน และมีวิธีการปรับตัวในยุค New Normal อย่างไร
ผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงปากท้องของประชาชนได้รับผลกระทบอย่างเลี่ยงไม่ได้ และด้วยภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ ทำให้แต่ละวันจะได้ยินข่าวอาชญากรรม และการทำร้ายร่างกายเกิดขึ้นมากมาย การรู้จักวิธีป้องกันตัวเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ถือเป็นสิ่งจำเป็นในสังคมปัจจุบัน
“ครูโจ้” กิตติเชษฐ์ มายะการ ผู้ก่อตั้งสถาบัน JDT Combative ที่มีประสบการณ์การสอนและบรรยายวิชาต่อสู้ป้องกันตัวระยะประชิดด้วยมือเปล่า และใช้อาวุธมากว่า 30 ปี มีดีกรีเป็นถึงครูฝึกความมั่นคงปลอดภัยทางการบินของบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ผู้ถ่ายทอดวิชาการป้องกันตัวให้กับหน่วยงานราชการและเอกชน จนได้รับการยอมรับไปทั่วประเทศ โดยเฉพาะตำรวจ ทั้งกองปราบปรามและสันติบาล รวมถึงหน่วยรบพิเศษในกองทัพ ต่างให้การยอมรับและยกย่อง เชื่อว่าหากเรารู้จักวิธีป้องกันตัวและได้รับการฝึกที่ถูกต้อง จะช่วยให้ชีวิตมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
หลังจากต้องปิดการสอนไปกว่า 3 เดือน เนื่องจากโควิด-19 และเพิ่งกลับมาเปิดการสอนได้ไม่กี่วัน ก็ต้องปรับตัวและมีมาตรการให้เข้ากับยุค New Normal เช่นกัน โดยจะมีการลงทะเบียนและวัดอุณหภูมิ สถานที่สอนจะฉีดพ่นทำความสะอาดหลังเลิกสอนทุกครั้ง มีเจลล้างมือ น้ำยาฆ่าเชื้อฉีดพ่นรองเท้าและอุปกรณ์ทุกชิ้น มีถุงมือ หน้ากากอนามัย และเฟซชิลด์ เตรียมไว้บริการ
ขณะที่การเรียนส่วนตัวในยิมจะรับคลาสละไม่เกิน 5 คน การสัมมนาจาก 20 คน ลดเหลือ 10-12 คน โดยจะเลี่ยงการฝึกท่าระยะประชิด ยกเว้นเป็นสามีภรรยา หรือคนในครอบครัวเดียวกันที่อนุญาตให้ทำได้ เหมือนอย่าง คุณสรญา อาสนะนันทน์ ที่มาฝึกกับสามีกว่า 1 ปี
ความสามารถทุกอย่างขึ้นอยู่กับการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ เหมือนอย่างนักกีฬา จะไม่สามารถเป็นแชมป์ได้หากไม่หมั่นฝึกซ้อม และลงแข่งขันจริง การฝึกเสมือนจริงจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเมื่อเจอเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน สติที่เกิดขึ้นจากการฝึกฝนก็จะทำให้ดึงทักษะเหล่านั้นออกมาใช้ และช่วยให้เราผ่านพ้นเหตุการณ์สำคัญได้อย่างแน่นอน. – สำนักข่าวไทย