สุราษฎร์ธานี 11 มิ.ย. – ศึกชิงหอยแครงซึ่งเป็นเหตุพิพาทที่เกิดขึ้นในพื้นที่อ่าวบ้านดอน จ.สุราษฎร์ธานี ลุกลามไปสู่ความขัดแย้งหนักขึ้น หลังวานนี้มีผู้ประกอบการคอกหอยแครงยิงปืนขู่ห้ามชาวบ้านเก็บหอย
ชาวประมงประมงพื้นบ้าน จ.สุราษฎร์ธานี นำเรือประมงหลายสิบลำมารวมตัวกันปิดบริเวณปากแม่น้ำตาปี เพื่อกดดันภาครัฐให้เร่งทวงคืนพื้นที่สาธารณะในทะเลอ่าวบ้านดอนจากกลุ่มผู้ประกอบการที่จับจองพื้นที่กั้นคอกแปลงหอยแครง เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าไปเก็บลูกพันธุ์หอยแครงขายได้อย่างอิสระ
พวกเขาบอกว่ากำลังเดือดร้อน เพราะไม่สามารถจับลูกพันธุ์หอยแครงขายได้ ทั้งที่พื้นที่ดังกล่าวคือพื้นที่สาธารณะที่ประชาชนคนไทยทุกคนควรมีสิทธิ์ในการเข้าไปใช้ประโยชน์
ชาวประมงพื้นบ้านรายนี้บอกว่า ถูกกลุ่มนายทุนนำเรือมาจอดในตำบลลีเล็ด เพื่อขัดขวางข่มขู่และไล่ไม่ให้พวกเขาลงไปเก็บหอย โดยอ้างว่าเป็นเจ้าของพื้นที่ ทำให้ตั้งแต่เช้ายังไม่มีรายได้เลย
เมื่อทีมข่าวเข้าไปตรวจสอบ พบเรือประมงราว 10 ลำ ลอยลำอยู่ในพื้นที่ตามคำบอกเล่าของชาวบ้านจริง จึงได้เข้าไปพูดคุยสอบถาม นายสุทธิรัตน์ ผู้ประกอบการ รายนี้ยอมรับว่าเขาและเพื่อนมาจากพื้นที่เลี้ยงหอยแครงใน อ.ท่าฉาง ซึ่งมีอาณาเขตติดต่อกับ อ.พุนพิน เพื่อมาเฝ้าระวัง ไม่ให้ชาวประมงพื้นบ้านรุกล้ำเข้าไปเก็บลูกพันธุ์หอยแครงในพื้นที่ๆ เขาเลี้ยง แต่ยืนยันว่าไม่ได้ใช้ความรุนแรงและข่มขู่ แต่เป็นการขอร้อง เนื่องจากเขาและเพื่อนผู้ประกอบการเพิ่งลงทุนซื้อลูกพันธุ์หอยแครงจากชาวบ้านไปปล่อยในคอกจำนวนหลายล้านบาท
เขายังยอมรับว่า แปลงคอกหอยแครงของเขาปลูกสร้างในที่สาธารณะ แต่ทำมาแล้วราว 7 ปี โดยซื้อสิทธิ์ต่อมาจากชาวบ้านรายหนึ่ง ดังนั้นหากรัฐจะเข้ามารื้อถอนแปลงคอกคอยแครง ก็ยินยอม แต่ขอให้จับขายรอบนี้ให้หมดก่อน และขอให้จัดการให้เป็นบรรทัดฐานเดียวกันทั้งหมด
ขณะที่แนวทางแก้ปัญหาข้อพิพาทที่เกิดขึ้นนี้ พล.ร.ท.สำเริง จันทร์โส ในฐานะผู้อำนวยการศรชลภาค 2 ระบุว่าจะยึดถือข้อกฎหมายเป็นหลัก โดยจะใช้มาตรา 27 ในการเข้ามาแก้ปัญหามอบหมายให้ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ธานี ออกประกาศให้ผู้ประกอบการคอกหอยแครงรื้อถอนให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน เพื่อคืนพื้นที่ทะเลอ่าวบ้านดอนซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะ ให้ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน
ปัจจุบันพื้นที่อ่าวบ้านดอนได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการประมงจสุราษฎร์ธานี ให้ใช้เลี้ยงหอยในทะเลได้เกือบ 40,000 ไร่ ใน 5 อำเภอ
แต่ข้อเท็จจริงกลับพบว่ามีการบุกรุกโดยกลุ่มนายทุนทั้งจากในและนอกพื้นที่ เข้ามาจับจองซื้อขายพื้นที่สาธารณะในทะเลอ่าวบ้านดอน มากกว่า 100,000 ไร่ ครอบคลุมหลายอำเภอ รวมถึง อ.พุนพิน และ อ.เมือง ซึ่งเป็นพื้นที่ห้ามเพาะเลี้ยง มีการบุกรุกจากผู้ประกอบการมากกว่า 100 ราย
ไม่เพียงสะท้อนถึงความไม่เท่าเทียมกันในการเข้าถึงพื้นที่สาธารณะ ระหว่างนายทุนและชาวประมงพื้นบ้าน ยังสะท้อนถึงความล้มเหลวในการดูแลพื้นที่สาธารณะของหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ที่ปล่อยปละละเลยจนทำให้เกิดการบุกรุก จับจอง ครอบครอง ซื้อขาย พื้นที่ในทะเลมายาวนานร่วม 10 ปี. – สำนักข่าวไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
► เปิดนาทีเจ้าของคอกหอย ยิงขู่ชาวประมง จ.สุราษฎร์ธานี