BIG STORY : เปิดนาทีเจ้าของคอกหอย ยิงขู่ชาวประมง จ.สุราษฎร์ธานี

สุราษฎร์ธานี 10 มิ.ย. – กลุ่มประมงพื้นบ้าน 500 คน หนีตายอลหม่าน หลังเจ้าของคอกเลี้ยงหอยแครงขี่เจ็ตสกีและชักปืนออกมายิงขู่ชาวประมงที่กำลังงมหาหอยในทะเลบริเวณปากอ่าวคลองราง อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี


เป็นภาพความวุ่นวายขณะที่กลุ่มชาวประมงพื้นบ้าน กำลังลงงมหอยในทะเล บริเวณปากอ่าวคลองราง ต.ลีเล็ด อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี แต่มีชายฉกรรจ์ขับเจ็ตสกีพร้อมชักปืนยิงขู่ชาวประมง ทำให้หมดตกใจรีบขึ้นจากทะเล และรีบติดเครื่องเรือขับหนีตายอลหม่าน 


สำหรับกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นบ่อยครั้งในระยะหลัง สืบเนื่องจากปัญหาขัดแย้งชิงผลประโยชน์ลูกหอยแครงที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในพื้นที่ชุ่มน้ำ ซึ่งเป็นพื้นสาธารณประโยชน์ที่ประชาชนใช้ร่วมกันได้ และไม่อนุญาตให้มีการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งทะเลอ่าวบ้านดอน ต.ลีเล็ด อ.พุนพิน และในอีก 2-3 ตำบลในพื้นที่ อ.เมืองสุราษฎร์ธานี จนเป็นเหตุให้เกิดการปะทะกันระหว่างกลุ่มประมงพื้นบ้าน ผู้นำชุมชน  และผู้ประกอบการอยู่เรื่อยๆ


คุมตัวเจ้าของคอกหอยสอบปากคำ แจ้ง 3 ข้อหา

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวชายที่ขับเจ็ตสกียิงปืนขู่ชาวประมง ทราบชื่อนายสันติ นวลเสน อายุ 29 ปี โดยขณะก่อเหตุได้ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก จำนวน 3 คลิป จากนั้นเมื่อก่อเหตุเสร็จได้ไปนอนที่ขนำหลังคาฟ้ากลางทะเล จนเจ้าหน้าที่เข้าพบและคุมตัวนำส่งพนักสอบสวน สภ.พุนพิน สอบปากคำ พร้อมกับแจ้ง 3 ข้อหา ทั้งมีอาวุธปืนในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนเข้าไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และ 3.ยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และอยู่ระหว่างการประกันตัว 

ขณะเดียวกันนายสันติ ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับชาวประมงทั้งหมดที่ไปจับลูกหอยแครง  ฐานร่วมกันปล้นทรัพย์ นายสันติ ให้ข้อมูลว่า ที่บ้านได้ทำธุรกิจเลี้ยงหอยใน อ.ท่าฉาง เป็นเวลา 18 ปี จากนั้นช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ได้ซื้อคอกหอยจากชาวบ้านที่บ้านคลองราง หมู่ 2 ต.ลีเล็ด  เนื้อที่ 30 ไร่ ในราคา 150,000 บาท เพื่อเพาะเลี้ยงหอยแครง และล่าสุดเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา เพิ่งไปซื้อลูกหอยจากชาวบ้านที่ไปตักเก็บจากพื้นที่ 1,000 เมตรในทะเล จำนวน 2.2 ล้านบาท และทราบมาก่อนว่ามีชาวบ้านนำลูกหอยแครงมาขายให้ผู้เลี้ยง มีพฤติกรรมย้อนเข้ามาเก็บลูกหอยแครงกลับไปขาย จากนั้นได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ และให้คนเฝ้าดูจนพบเหตุการณ์จริง

เจ้าของคอกหอยที่เกิดเหตุ กล่าวต่อว่า ก่อนเกิดเหตุมีกลุ่มชาวประมงพื้นบ้านนำเรือหางยาวกว่า 300 ลำ เข้ามาในพื้นที่ จึงขับเจ็ตสกีเข้าไปขอร้องไม่ให้ชาวบ้านเก็บลูกหอยในที่ตนเลี้ยงไว้ แต่ชาวบ้านไม่สนใจ จึงบันดาลโทสะใช้ปืนยิงขึ้นฟ้า 5-7 นัด จนชาวบ้านถอยออกไป และอ้างว่าเห็นชาวบ้านบนเรือหางยาวนำอาวุธปืนเล็งมาทางตนด้วย และไม่ได้หลบหนีไปไหน จึงต้องขอความเป็นธรรมด้วย เพราะครอบครัวมีหนี้ร่วม 20 ล้าน  ซื้อสิทธิ์ที่แปลงเลี้ยงหอยจากชาวบ้าน  และรับซื้อลูกหอยจากชาวบ้านที่ไปเก็บมาขาย แต่กลับถูกเข้ามาขโมยหอยกลับออกไปอีก

ด้านนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ธานี ระบุจากการสอบถามทราบว่า เจ้าของที่เลี้ยงหอยในที่สาธารณะได้ใช้อาวุธปืนยิงข่มขู่ โดยอ้างว่าเป็นการปกป้องสิทธิ์ และนายอำเภอพุนพินได้จับกุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนที่อ้างว่าซื้อลูกหอยมาเลี้ยงก็ให้ไปใช้สิทธิ์ดำเนินการไป ซึ่งทางจังหวัดได้เคยประกาศว่าในพื้นที่ 3 ไมล์ทะเล หรือ 5,400 เมตร เป็นพื้นที่สาธารณะ ชาวประมงพื้นบ้านสามารถที่จะทำมาหากินใช้ตะแกรงในการหาลูกหอยได้

ชาวประมงพื้นบ้านยืนยันไม่ได้เก็บหอยเลี้ยง

ขณะที่ชาวบ้านเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ช่วงระหว่างที่กำลังหาหอยอยู่ มีชายฉกรรจ์ขับเจ็ตสกีวนไปมา และยิงปืนขึ้้นฟ้าหลายนัด ชาวบ้านนกว่า 500 คน บนเรือกว่า 100 ลำ ต้องรีบหนีกันจ้าละหวั่น โดยเวลาผ่านไปประมาณ 20 นาที ตำรวจจึงมาควบคุมตัว ขณะที่บางส่วนบอกว่า  พรุ่งนี้จะเลิกหาหอยแล้ว แต่บางส่วนบอกว่าจะรวมกลุ่มกันมากกว่า 10 คน ลงงมหาหอย และจะไม่เข้าใกล้คอกหอยที่มีการปักไม้ไผ่ไว้. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]

จับผับรังสิต

สั่งเด้งผู้การปทุมธานี ขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นจับผับดังรังสิต

8 ส.ค. – โดนด้วย! สั่งเด้งผู้การปทุมธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมพวกอีก 5 นาย เซ่นจับผับดังรังสิต พบฉี่ม่วงเพียบเฉียด 200 คน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 209/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วย ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งที่ 208/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 01.00 น. ชุดปฏิบัติการ พิเศษกรมการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบสังคม โดยเปิดปฏิบัติการ (Zero Drug) โดยนำกำลังเข้าทำการ ตรวจสอบและจับกุมสถานบริการ ชื่อ ร้าน “Skin […]

ข่าวแนะนำ

วิเคราะห์แนวทางดำเนินคดีกัมพูชา

10 ส.ค. – ฟังการวิเคราะห์ปมดำเนินคดีกัมพูชา กับ รศ.ดร. ดุลยภาค ปรีชารัชช อาจารย์ประจำสาขาวิชาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จากหลักฐานที่มีชัดเจน กระสุนกัมพูชายิงตกฝั่งไทย เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินพลเรือน และมีกระสุนที่ต้องเก็บกู้มากกว่า 800 นัด ขณะที่หลังการเจรจา GBC ผ่านไป พบกัมพูชายังเสริมกำลังทหารต่อเนื่อง .-สำนักข่าวไทย

ชาวบ้านศรีสะเกษสุดช้ำ บ้านเรือนถูกกัมพูชายิงถล่มเหลือแต่ซาก

ศรีสะเกษ 10 ส.ค. – ชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กลับจากศูนย์อพยพเจอสภาพบ้านเหลือแต่ซาก หลังถูกลูกปืนใหญ่กัมพูชายิงถล่ม ขณะที่พบหัวจรวด BM-21 กลางทุ่งนา อีก 2 จุด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ EOD ทำลายเรียบร้อย ปลัดอำเภอน้ำยืน เน้นย้ำหากชาวบ้านพบหลุมลึก-ปากหลุมแคบ ให้รีบแจ้งทันที ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นนาทีกระสุนโจมตีของกัมพูชายิงตกใส่บ้านเรือนประชาชนอย่างรุนแรงจนฝุ่นฟุ้งกระจาย จากภาพจะเห็นว่ามีรถอีแต๋นคันหนึ่งวิ่งผ่านจุดที่กระสุนพุ่งตกลงมาเพียงเสี้ยววินาที เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา ในพื้นที่บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ วันนี้ นายกุลนที อายุ 45 ปี เดินทางกลับมาบ้าน หลังอพยพออกจากพื้นที่ไปกว่า 2 สัปดาห์ ในช่วงเหตุปะทะแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทันทีที่เห็นบ้าน นายกุลนทีถึงกับน้ำตาคลอ เพราะบ้านเสียหายอย่างหนัก ทั้งโครงสร้างไม้และปูนได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด ประตู หน้าต่าง กระจก และหลังคาถูกกระสุนถล่มจนแทบไม่เหลือสภาพเดิม […]

มทภ.2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด

10 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ จากการตรวจสอบพบเป็นทุ่นใหม่ ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยภายหลังการรับมอบสิ่งของช่วยเหลือทหารและเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดน จากภาครัฐและเอกชน ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเจ้าหน้าที่ทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ เมื่อวานว่า จากการตรวจสอบพบว่าเป็นทุ่นใหม่ที่ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานเพื่อป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ก่อนที่จะถอนกำลังออกไป ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง จึงสั่งการให้ทุกหน่วยเพิ่มความระมัดระวัง พร้อมใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักร เช่น รถไถ รถตักในการเคลียร์เส้นทางและค้นหาทุ่นระเบิดบุคคล เพื่อป้องกันไม่ให้กำลังพลได้รับอันตรายซ้ำ สำหรับพื้นที่แนวปะทะที่มีการวางกำลังของทหารกัมพูชายังถือว่าไม่ปลอดภัยสำหรับทหาร เนื่องจากมีการวางระเบิดไว้มาก ส่วนพื้นที่ชาวบ้านซึ่งอยู่นอกแนวชายแดนลึกเข้ามา ไม่น่าเป็นห่วงจากทุ่นระเบิดบุคคล แต่ยังมีความเสี่ยงจากจรวดที่ยิงเข้ามาแล้วไม่ระเบิด หากประชาชนพบเห็นให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที ห้ามเข้าไปจับ ดึง หรือเก็บเอง อย่างไรก็ตาม พื้นที่ส่วนใหญ่ เช่น ภูมะเขือ อานม้า ซำแปร และตาเมือนธม ไทยสามารถครอบครองได้ […]

นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องชาติมากถึง 75%

กทม. 10 ส.ค.-นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องผลประโยชน์ชาติ จากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา มากถึง 75% แนะเปิดเจรจาทางการทูตสองฝ่ายจริงจัง รวมทั้งเห็นว่าไม่ควรรับผู้ป่วยชาวกัมพูชาทุกคน ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ไปต่อแบบไหนดี” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 4-5 สิงหาคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป เกี่ยวกับความไว้วางใจและความพอใจต่อบทบาทของภาคส่วนต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา พบว่า -กองทัพ ตัวอย่าง ร้อยละ 75.73 ระบุว่า ไว้วางใจมาก รองลงมา ร้อยละ 19.31 ระบุว่า ค่อนข้างไว้วางใจ ร้อยละ 3.66 ระบุว่า ไม่ค่อยไว้วางใจ ร้อยละ 1.07 ระบุว่า ไม่ไว้วางใจเลย และร้อยละ 0.23 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ -กระทรวงการต่างประเทศ ตัวอย่าง ร้อยละ 41.76 […]