กทม. 3 มิ.ย. – หลัง กทม.ประกาศผ่อนปรนระยะ 3 ให้หลายกิจกรรม และเพิ่มเติมความพิเศษให้อีกหลายกิจการ แต่ที่ได้รับความสนใจคือ ร้านอาหาร โดยอนุโลมให้นั่งรับประทานอาหารรวมโต๊ะกันได้ และที่หลายคนรอคอยคือ ร้านสามารถนำฉากกั้นออกได้ แล้วร้านดังๆ ปรับเปลี่ยนอย่างไร
บรรยากาศที่เหล่าเพื่อนฝูงตั้งตารอคอยมาแรมเดือน เพื่อมาพบเจอกันในร้านบุฟเฟ่ต์ เพราะมาตรการผ่อนปรนให้นั่งกินในร้านอาหารได้ตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แต่ต้องมีมาตรการป้องกันรัดกุม หนึ่งในนั้นคือฉากกั้นบางๆ หลายคนบ่นว่าสร้างความอึดอัด แถมยังลดอรรถรสในการกินไปด้วย ดังนั้นเมื่อมีประกาศให้กินร่วมโต๊ะกันได้ ไม่ต้องใช้ฉากกั้น ประกาศมีผลเช้าวันที่ 1 มิ.ย. เย็นวันนั้นร้านบุฟเฟ่ต์ชื่อดังย่านสะพานควายรีบเก็บฉากกั้น โดยที่มาตรการทุกอย่างที่ยังคงเดิม แต่แค่ยกฉากกั้นออกอย่างเดียวกลับส่งผลให้ยอดจองยอดขายพุ่งพรวดจากเดิมถึง 40%
ขณะที่หลายร้านรีบเก็บฉาก แต่ร้านบุฟเฟ่ต์ดังย่านปิ่นเกล้ายังคงตั้งการ์ดหนา นอกจากมาตรการเว้นระยะห่างแล้วยังต้องใส่หน้ากากทุกครั้งที่ออกไปหยิบอาหาร งดการหยิบจับสัมผัสอาหารเอง พ่นยาฆ่าเชื้อทุก 2 ชั่วโมง ที่สำคัญยังคงฉากกั้นไว้ทุกโต๊ะ แม้ลูกค้าจะบ่นอึดอัดบ้าง แต่มองว่าฉากใสยังสำคัญและจำเป็นในภาวะการณ์ช่วงนี้
ด้านผู้จัดการร้านบอกว่า ไม่ใช่เพราะเสียดายเงินหลายแสนที่ลงไป แต่อยากสร้างมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดเท่าที่ร้านอาหารร้านหนึ่งจะมอบให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจได้ แม้จำนวนโต๊ะจะลดลงไปเกือบครึ่ง จากเดิมรอบละ 300 คน ต้องลดเหลือเพียง 170 คน คิดเป็นเงินรอบละ 130,000 บาท ร้านเปิดวันละ 4 รอบ เท่ากับยอดขายจะหายไปกว่าครึ่งล้าน
ผู้จัดการร้านทิ้งท้ายว่า การปรับตัวของร้านอาหารในวิกฤติโควิด-19 แม้ภาครัฐจะเริ่มคลายล็อก หลายร้านเริ่มพุ่งเป้าไปที่กระตุ้นยอดขายให้กระเตื้อง แต่ต้องไม่ลืมเรื่องพื้นฐานในการรักษามาตรฐานความปลอดภัย หากพนักงานปลอดภัย ลูกค้าปลอยภัย ประเทศไทยก็จะปลอดภัยในที่สุด. – สำนักข่าวไทย