“บิ๊กปั๊ด” ประชุมคดีน้องชมพู่สอบพยานไปกว่าร้อย คืบหน้ากว่า 50%

กรุงเทพฯ 1 มิ.ย.- “พล.ต.อ.สุวัฒน์” ลงพื้นที่ จ.มุกดาหาร ติดตามคดี “น้องชมพู่” เผยคืบหน้ากว่า 50 เปอร์เซ็นต์ สอบพยานไปแล้วกว่า 100 ปาก คัดแยกกลุ่มต้องสงสัย-รอผลดีเอ็นเออย่างละเอียดเพื่อควานหาตัวคนร้าย 


พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผบ.ตร. เดินทางลงพื้นที่ สภ.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เพื่อประชุมติดตามความคืบหน้า น้องชมพู่ เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ชาวบ้านกกกอก หมู่ 2  เสียชีวิตบริเวณป่าภูเหล็กไฟ บ้านกกกอก หมู่ 2  ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร หลังหายตัวไปตั้งแต่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยประชุมร่วมกับ พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ รองผบช.ภ.4 พล.ต.ต.อรรคพงศ์ พิมลศิริ ผบก.ภ.จว.มุกดาหาร พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ณัฐนนท์ ประชุม รอง ผบก.สส.ภ.4 พ.ต.อ. ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบก.ปส.3 โดยใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง 

พล.ต.อ.สุวัฒน์ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า วันนี้ (1 มิ.ย.)เดินทางลงพื้นที่เพื่อร่วมประชุมกับชุดสืบสวนของพื้นที่ บก.ภ.จว.มุกดาหาร บก.สส.บช.ภ.4 บก.สส.บช.น. ชุด ศปอส.ตร. เพื่อติดตามความคืบหน้าทางคดีซึ่งการทำงานมีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ แต่การสืบสวนจะต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้รอบด้าน เนื่องจากคดีดังกล่าวมีรายละเอียดค่อนข้างมาก และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอาจจะไม่มีโชคในเรื่องของการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งรวบรวมพยานหลักฐานมาได้ค่อนข้างน้อย


“แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังมีความหวังอยู่และพยายามค้นหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม โดยการลงพื้นที่ซักถามปากคำพยานในพื้นที่ รวมถึงตรวจสอบข้อมูลทางด้านเทคนิค ส่วนจะสงสัยใครบ้างนั้น จะไม่มีการพูดให้ข้อมูลในลักษณะดังกล่าวแต่อย่างใด หากใครที่เข้าข่ายจะต้องตรวจสอบก็จะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง พยานบางรายอาจจะมีการเรียกคุยหลายรอบแต่ก็ไม่ได้มีการตั้งข้อสงสัยใครมากเป็นพิเศษ เพราะอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบข้อมูลที่ได้รับว่ามีความสอดคล้องกันกับพยานหลักฐานหรือไม่ อาจจะมีความขัดแย้งหรือไม่ก็เป็นไปได้ทั้งหมด” รองผบ.ตร. กล่าว 

พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่มีการนำเสนอข่าวออกไปนั้น คงไม่สามารถยืนยันได้ เพราะหากนำเสนอข้อเท็จจริงสืบสวนสอบสวนออกไปอาจจะทำให้เกิดความเสียหาย อย่างไรก็ตาม ฝากผ่านไปยังพี่น้องสื่อมวลชนว่า หากพี่น้องประชาชนมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการสืบสวนสอบสวน อาทิเช่น รู้เห็นการกระทำของใคร มาบอกต่อทางทีมงานชุดสืบสวนยินดีรับฟังและจะปกปิดการให้ข้อมูลของท่านเป็นความลับ เพื่อทำการพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงดังกล่าวโดยละเอียด ทั้งนี้ทีมงานสืบสวนจะไม่ไปไหนจะทำงานจนกว่าจะถึงที่สุด หวังจะคลี่คลายคดีนี้แล้วนำผู้กระทำความผิดมาลงโทษในคดีนี้ได้

เมื่อถามถึงประเด็นการก่อเหตุนั้น พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการตั้งประเด็นไว้เป็นกรอบกว้างๆ ไม่ได้ไปเรื่องทางเพศเพียงอย่างเดียว เน้นไปที่อะไรที่สามารถเข้าถึงตัวเด็กที่เป็นเหยื่อได้ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ ใครที่มีเรื่องจูงใจหรือความคิดอาจจะก่อเหตุลักษณะดังกล่าว ซึ่งมีความเป็นไปได้ทั้งหมดที่อาจจะเป็นผู้หญิงหรือเป็นผู้ชาย ซึ่งต้องตรวจสอบทั้งหมด โดยไม่ได้มีการกำหนดว่าเจตนาทำให้เสียชีวิตหรือไม่ หากตีกรอบให้แคบลงเท่ากับเราตัดโอกาสของตัวเอง 


เมื่อถามถึงผลการชันสูตรพลิกศพน้องชมพู่ตายด้วยสาเหตุใดนั้น พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า รายงานการชันสูตรพลิกศพของแพทย์ได้ออกมาแล้วที่ รพ.อุบลราชธานี ซึ่งกรณีรายงานผลการตรวจสอบจากแพทย์นิติเวช หากทราบสาเหตุการเสียชีวิตจะมีการระบุไว้ แต่ถ้าระบุไม่ได้ก็ไม่ได้แปลว่าจะใช่หรือไม่ใช่แบบนั้น จะไม่มีการพูดให้ไขว้เขวเพื่อป้องกันการเข้าใจผิด จึงไม่ขอพูดถึงสาเหตุการเสียชีวิตกรณีดังกล่าวเพราะเป็นเรื่องในสำนวนการสอบสวน ส่วนการตรวจสอบดีเอ็นเอผู้ต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องนั้น ยังอยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบพยานหลักฐานบางส่วนอยู่ 

ส่วนพยานหลักฐานพวกเสื้อชุดทหาร กุญแจรถนั้น พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องหรือไม่ ซึ่งการลงพื้นที่ที่เกิดเหตุเป็นเรื่องหนึ่ง การเก็บพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เป็นอีกเรื่องหนึ่ง อาจมีส่วนที่เกี่ยวข้องหรือไม่เกี่ยวข้องก็เป็นไปได้ทั้งหมด ที่เกิดเหตุมีหลายที่ที่เราพบคือการพบศพ ไม่ได้แปลว่าที่พบศพเป็นที่เกิดเหตุจะใช่หรือไม่ใช่เป็นไปได้หมด ซึ่งการเก็บหลักฐานกรณีดังกล่าวค่อนข้างยากมาก ทั้งนี้ ต้องรอผลการพิสูจน์ทราบกรณีดังกล่าวให้ชัดเจนก่อน

ขณะท่ี่การเก็บข้อมูลของชาวบ้านในพื้นที่โดยรอบเป็นประโยชน์หรือไม่นั้น พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวเป็นประโยชน์ เนื่องจากเพื่อให้รู้ว่าวันเวลาเกิดเหตุใครอยู่ที่ไหนหรือทำอะไรอยู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานกันทุกวัน จะเอาเวลาเป็นตัวตั้งไม่ได้ถึงแม้จะผ่านมา 2 เดือนแล้วก็ตาม เพราะแต่ละคดีไม่เหมือนกัน ส่วนภายในร่างของน้องชมพู่มีดีเอ็นเอของบุคคลอื่นหรือไม่ จากการรายงานเบื้องต้นยังไม่พบดีเอ็นเอแปลกปลอมแต่อย่างใด แต่ไม่ใช่แปลว่าอาจจะไม่มีการถูกสัมผัส ซึ่งการตรวจสอบจะต้องมีองค์ประกอบหลายอย่าง ส่วนที่มีการกล่าวอ้างว่ามีคนในพื้นที่นำศพน้องชมพู่ไปทิ้งไว้กลางป่านั้น เจ้าหน้าที่ไม่ได้ให้ข้อมูลดังกล่าวแต่อย่างใด แต่ดูว่าใครสามารถเข้าถึงตัวเด็กได้ระหว่างวันเวลาที่เกิดเหตุ กรณีนี้พอมีเบาะแส แต่ไม่ขอเปิดเผย .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

“เท้ง” เมินออปชันสุดท้ายเพื่อไทย มั่นใจ สส.ปชน.ไม่แตกแถว ย้ำไม่มีฟรีโหวต

รัฐสภา 4 ก.ย.- “เท้ง” ลั่น ไม่เสียดาย-ไม่ทบทวนมติโหวต “อนุทิน” นั่งนายกฯ เมินออปชันสุดท้ายเพื่อไทย ซัดไม่จริงใจ-ปล่อยข่าวชิงการเมือง มั่นใจ สส.พรรคประชาชน ไม่แตกแถว-ไม่มีฟรีโหวต นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ปฏิเสธกรณีที่มีกระแสข่าวความเห็นต่างภายในพรรคฯ ต่อการลงมติเลือกนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (5 ก.ย.) ว่า ไม่ได้มีความเห็นที่แตกต่างกันภายในพรรค และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา จนถึงตลอดทั้งวัน ก็มีความชัดเจนแล้วว่า พรรคเพื่อไทย ยุติกระบวนการยุบสภา และเดินหน้าเสนอชื่อนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาเป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมย้ำว่า กระบวนการตัดสินใจของพรรคประชาชน สิ้นสุดลงตั้งแต่คณะกรรมการบริหารพรรคฯ แถลงข่าว และลงนามร่วมกับพรรคภูมิใจไทยแล้ว ส่วนข้อเสนอไพ่ใบสุดท้ายของพรรคเพื่อไทย ที่จะยุบสภาทันทีหากนายชัยเกษม ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภานั้น หัวหน้าพรรคประชาชน ระบุว่า ถ้ามีการเสนอมาก่อนหน้านี้ และมีการพูดคุยอย่างเป็นทางการ ก่อนพรรคฯ จะมีมติ ตนเชื่อว่า ตน และสส.ภายในพรรค จะรับไว้พิจารณา แต่กระบวนการที่ผ่านมา ยังคงมีการให้ข่าวกลับไป […]

ทบ.ชี้กัมพูชายั่วยุละเมิดข้อตกลง เกณฑ์คนประท้วงบ้านหนองจาน

4 ก.ย.- ทบ. เผยกรณีชาวกัมพูชาประท้วงที่บ้านหนองจาน ชี้เป็นการยั่วยุละเมิดข้อตกลงหยุดยิง กองกำลังบูรพาพร้อมตำรวจควบคุมฝูงชนเตรียมกำลังเพื่อป้องกันอธิปไตยและการกระทำผิดกฎหมาย วันนี้ (4 ก.ย.68) กองทัพบกได้รับรายงานจากศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 ว่าพบประชาชนชาวกัมพูชาประมาณ 150 คน เข้ามารวมตัวประท้วงแสดงความไม่พอใจในบริเวณใกล้กับหลักเขตแดนที่ 46 บ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ยังอยู่ในพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยพบว่าประชาชนบางส่วนมีลักษณะพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม แสดงท่าทียั่วยุเจ้าหน้าที่ พกพาไม้เป็นอาวุธ และบางรายมีลักษณะเป็นแกนนำของมวลชน ซึ่งสังเกตได้จากการใช้และพกพาวิทยุสื่อสารประจำตัว พร้อมพบว่ามีทหารกัมพูชาคอยสังเกตการณ์และร่วมอยู่ในกลุ่มมวลชนชาวกัมพูชาด้วย ซึ่งตั้งแต่เกิดเหตุ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 โดยกองกำลังบูรพา ได้จัดกำลังพลร่วมกับชุดควบคุมฝูงชนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรสระแก้ว เข้าควบคุมสถานการณ์ พร้อมเตรียมดำเนินการกับกลุ่มผู้ประท้วง หากพบว่ามีการรุกล้ำอธิปไตยไทยและกระทำผิดกฎหมายในทันที ล่าสุด พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่าเมื่อเวลา 13.30 น. กองกำลังบูรพาได้รายงานเพิ่มเติมว่าทางกัมพูชามีการเกณฑ์ประชาชน ทั้งจากนอกพื้นที่ และที่สัญจรผ่านไปมา เข้ามาร่วมประท้วงและแสดงท่าทียั่วยุต่อทหารไทยในพื้นที่เพิ่มเติม ซึ่งการกระทำในครั้งนี้ ถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงที่ทั้งไทยและกัมพูชาได้มีมติเห็นพ้องร่วมกันในการดำเนินการ จากการประชุม GBC และ RBC ที่ผ่านมา รวมทั้งโฆษกกองทัพบกได้ย้ำว่า […]

“ภูมิธรรม” โพสต์แจง 2 ฉบับ ย้ำเจตนารมณ์รัฐบาลคืนอำนาจให้ ปชช.

กทม. 4 ก.ย.- “ภูมิธรรม” โพสต์ข้อความชี้แจง 2 ฉบับ “เพื่อความกระจ่างชัดเรื่องการยุบสภา – เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย” นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจง 2 ฉบับ “เพื่อความกระจ่างชัดเรื่องการยุบสภา – เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย” โดยฉบับที่ 1 ระบุว่า “เพื่อความกระจ่างชัดเรื่องการยุบสภา” ในช่วงที่การเมืองยังสับสน ผมขอเรียนชี้แจงให้เกิดความกระจ่างชัดในประเด็นร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎรดังนี้ รัฐบาลได้ดำเนินการจัดทำร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร และส่งให้สำนักงานองคมนตรีพิจารณาแล้วเมื่อเย็นวันที่ 2 กันยายน 2568 ต่อมาได้รับแจ้งจากสำนักงานองคมนตรี ว่ายังมีประเด็นข้อกฎหมายที่มีการโต้แย้งและยังไม่เป็นข้อยุติ โดยเฉพาะประเด็นอำนาจของรองนายกรัฐมนตรีผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีในการถวายคำแนะนำ จึงยังไม่เห็นสมควรนำร่างพระราชกฤษฎีกาขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายในเวลานี้ รัฐบาลเคารพในขั้นตอนและหลักนิติธรรมทุกประการ และจะนำกลับมาทบทวนและพิจารณาเพื่อให้เกิดความเหมาะสมถูกต้อง แต่ขอย้ำชัดว่า เจตนารมณ์ของรัฐบาลคือการคืนอำนาจให้ประชาชนโดยเร็วที่สุด จากนั้นได้โพสต์ ฉบับที่ 2 “เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย” ระบุ เมื่อพรรคประชาชนได้แสดงจุดยืนชัดเจนว่าจะโหวตสนับสนุนพรรคภูมิใจไทย และมีการบรรจุวาระเลือกนายกรัฐมนตรีแล้ว ทุกพรรคการเมืองต้องแสดงความรับผิดชอบต่อการตัดสินใจของตน ให้ประชาชนได้เห็นว่ากลไกสภายังคงทำงานตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ สำหรับพรรคเพื่อไทย เราพร้อมเสนอชื่อศาสตราจารย์ชัยเกษม นิติสิริ เป็นนายกรัฐมนตรี และขอยืนยันต่อประชาชนว่า หากเราได้รับเสียงสนับสนุน […]

ชาวกัมพูชาลุกฮือประชิดชายแดนบ้านหนองจาน

4 ก.ย. – สระแก้วตึงเครียด! ชาวกัมพูชาลุกฮือประชิดชายแดนบ้านหนองจาน หลังไทยปักป้ายประกาศให้ออกจากพื้นที่ ขณะที่จังหวัดสุรินทร์ เจ้าหน้าที่พบหลักฐานชิ้นสำคัญลูกเหล็กสะเก็ดระเบิด “Ball Bearing” ในบ้านประชาชนเหยื่อจรวด BM-21 สถานการณ์ล่าสุดบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา บ้านหนองจาน ตำบลโนนหมากมุ่น อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว หลังจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย นำโดยกำลังทหาร กรมป่าไม้ ตำรวจตระเวนชายแดน และฝ่ายปกครองในพื้นที่ ได้ร่วมกันติดตั้งป้ายประกาศ 3 ภาษา (ไทย–อังกฤษ–เขมร) เพื่อแจ้งเตือนให้ชาวกัมพูชาที่บุกรุกเข้ามาในพื้นที่เขตไทย ออกจากบริเวณดังกล่าวโดยทันที หากฝ่าฝืนจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากกระทำในพื้นที่เกินกว่า 25 ไร่ ต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่ 2 ปี ถึง 15 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 ถึง 100,000 บาท ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป การติดตั้งป้ายดังกล่าว ทำให้กลุ่มชาวกัมพูชาที่อาศัยอยู่บริเวณแนวชายแดนไม่พอใจ และได้รวมตัวกันจำนวนหนึ่ง เคลื่อนเข้ามาใกล้แนวชายแดนฝั่งไทย […]