ก้าวไกลรับไม่มีหลักฐานให้เงินส.ส.คนละ 80 ล้าน

รัฐสภา 1 มิ.ย.- ก้าวไกล ยอมรับไม่มีหลักฐานแบ่งเค้ก โครงการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ จากโควิด19 ให้ส.ส.คนละ 80 ล้านบาท ได้ยินเพียงการพูดคุย ปรามส.ส.เข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ วอนทุกฝ่ายร่วมตรวจสอบ


นายวิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า ยอมรับว่า ไม่มีหลักฐานเรื่องที่มีข่าวว่าจะมีการจัดสรรงบประมาณให้ส.ส.คนละ 80 ล้านบาท แต่ได้ยินว่ามีการพูดคุยกันระหว่างส.ส. ว่าจะมีการจัดสรรงบประมาณมาให้ส.ส.คนละ 80 ล้านบาทจริง โดยส.ส.จะเป็นผู้เสนอโครงการ ซึ่งทราบว่างบประมาณในลักษณะแบบนี้เคยมีในอดีต แต่ปัจจุบันรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ชัดเจนว่าการที่จะผันงบประมาณเข้าพื้นที่ตัวเองทำไม่ได้ ถือว่าขัดรัฐธรรมนูญ และขณะนี้ถือว่าประเทศอยู่ในภาวะวิกฤต จนต้องกู้เงินจำนวนมหาศาลดังนั้นงบประมาณที่ได้มาควรจัดสรรและใช้สอยให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศชาติและประชาชน อีกทั้งการที่ให้ส.ส. เข้าไปมีส่วนในการจัดสรรงบประมาณในลักษณะนี้ อาจทำให้ไม่เป็นไปตามความต้องการของประชาชนในท้องถิ่น ดังนั้นจึงอยากเรียกร้องให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาตรวจสอบและใช้กลไกนี้ในการตรวจสอบหากพบว่าส.ส. คนใดมีพฤติกรรมที่ส่อทุจริตและใช้งบประมาณไปเพื่อประโยชน์ของตัวเองหรือพวกพ้องในท้องถิ่น ก็จะดำเนินการตามขั้นตอนตามกฎหมายต่อไป ซึ่งหากใครมีข้อมูลก็ขอให้แจ้งมาที่พรรคก้าวไกลได้

“แม้ไม่มีหลักฐานแต่เชื่อว่าน่าจะเป็นการป้องปรามหยุดยั้งสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น สิ่งสำคัญคือเราต้องตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาตรวจสอบ” รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าว


ด้านน.ส. ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า พรรคจะจัดทำ Digital platform ซึ่งเป็นรูปแบบใหม่ในการติดตามโครงการและการใช้จ่ายงบประมาณ ในการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด19 โดยขอให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบ แต่สุดท้ายจะได้ผลแค่ไหนต้องอาศัยความร่วมมือจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และทุกฝ่ายด้วย

นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ รองเลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า จำเป็นต้องมีคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาตรวจสอบการใช้เงินกู้ ตามพระราชกำหนด รัฐบาลอย่ากลัวการตรวจสอบ ขณะนี้ถือเป็นสัญญาณที่ดีที่มีส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล ร่วมยื่นญัตติให้ตั้งคณะกรรมาธิการและขอให้จับตาดูตอนลงมติด้วยเพราะอยากให้การใช้งบประมาณเป็นไปอย่างโปร่งใส.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย