กรุงเทพฯ 31 พ.ค. – “สันติ” เร่งกรมสรรพสามิตหามาตรการเยียวเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบ ก่อนภาษีสรรพสามิตบุหรี่ปรับเพิ่มขึ้น 40 % มีผลบังคับใช้ ต.ค. 63 เตรียมความพร้อมศึกษากฎหมายเพาะปลูกกัญชาทางการแพทย์เป็นพืชทดแทน เหตุเป็นโครงสร้างการเพาะปลูกและการรับซื้อที่ใกล้เคียงกับการปลูกใบยาสูบ
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบในพื้นที่ภาคเหนือเข้าพบ เพื่อขอให้กระทรวงการคลังออกมาตรการเยียวยาและบรรเทาผลกระทบจากการที่กรมสรรพสามิตมีแผนปรับอัตราการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตบุหรี่ขึ้น 40 % ที่จะมีผลเดือนตุลาคม 2563 ซึ่งได้มอบหมายให้กรมสรรพสามิตเร่งหามาตรการและแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรกลุ่มดังกล่าวที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการปรับภาษีเพิ่มขึ้น และยังประสบปัญหากับภัยแล้งและการแพร่ระบาดของโควิด-19 คาดว่าแนวทางดังกล่าวจะเสร็จภายในเดือนมิถุนายน 2563 เพื่อกำหนดกรอบการช่วยเหลือที่ชัดเจน ก่อนจะประกาศใช้อย่างเป็นทางการ
“ต้องยอมรับว่าเกษตรกรได้รับผลกระทบจากการที่ไทยต้องดำเนินตามเงื่อนไขขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO โดยการปรับอัตราภาษีสรรพสามิตยาสูบและบุหรี่ ซึ่งมีผลต่อโควตาการรับซื้อใบยาสูบลดลง ดังนั้น เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรจำเป็นต้องหาแนวทางการส่งเสริมพืชทดแทนในการเพาะปลูก อาจมีความเป็นไปได้ในการส่งเสริมการเพาะปลูกกัญชาที่จะนำมาใช้ในทางการแพทย์ เนื่องจากมีโครงสร้างการเพาะปลูกและการรับซื้อใกล้เคียงกับใบยาสูบ ซึ่งเกษตรกรมีความเข้าใจ ทั้งการเพาะปลูกแบบระบบควบคุมอยู่แล้ว” นายสันติ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ความเป็นไปได้ในการส่งเสริมเกษตรกรเพาะปลูกใบยาสูบมาปลูกกัญชาทดแทน จะต้องมีการศึกษารายละเอียดข้อกฎหมายให้เกิดความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงสาธารณสุข องค์กรเภสัชกรรม ก่อนที่จะออกมาตรการส่งเสริมการเพาะปลูกพืชทดแทนให้กับเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบทั่วประเทศต่อไป.-สำนักข่าวไทย