การบินไทยออกประกาศขยายเวลาปรับลดเงินเดือนฉบับใหม่

กรุงเทพฯ 31 พ.ค. – บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ออกประกาศเรื่องการจ่ายเงินเดือนรวมค่าตอบแทนรายเดือนระหว่างวันที่ 1 มิถุนายนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2563 



ผู้สื่อข่าวรายงานว่าประกาศเรื่องการจ่ายเงินเดือนรวมค่าตอบแทนรายเดือนฉบับล่าสุด เอกสารระบุว่า บริษัทประสบภาวะขาดทุนขาดสภาพคล่องทางการเงิน ซึ่งได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลางและศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการแล้ว โดยขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังส่งผลกระทบต่อการประกอบกิจการของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ 


และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยได้ประกาศห้ามอากาศยานขนส่งคนโดยสารทำการบินเข้ามายังท่าอากาศยานในประเทศไทยเป็นการชั่วคราวในเดือนมิถุนายน บริษัทจึงไม่สามารถดำเนินการบินได้ตามปกติ ทำให้จำเป็นต้องควบคุมค่าใช้จ่ายทุกรายการให้ใช้จ่ายได้เท่าที่จำเป็น เพื่อให้การดำเนินการตามขั้นตอนการฟื้นฟูกิจการทำได้สำเร็จ ซึ่งการประชุมบอร์ดนัดพิเศษเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคมที่ผ่านมาที่ประชุมได้มีมติอนุมัติการจ่ายเงินเดือนและค่าตอบแทนรายเดือน โดยให้พนักงานสมัครใจตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนถึง 31 สิงหาคม หากเป็นพนักงานระดับผู้อำนวยการใหญ่หรือกรรมการผู้จัดการบริษัทจะจ่ายเงินเดือนและค่าตอบแทนรายเดือนให้ร้อยละ 60 ระดับรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัทจ่ายเงินเดือนและค่าตอบแทนรายเดือนให้ร้อยละ 50 ส่วนพนักงานส่วนอื่น ๆ บริษัทจะจ่ายเงินเดือนและค่าตอบแทนรายเดือนในอัตราลดแบบขั้นบันไดตามประกาศของบริษัทฯ 

นายนเรศ ผึ้งแย้ม อดีตประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย เปิดเผยว่า การที่บอร์ดอนุมัติขยายเวลาการลดเงินเดือนต่อไปอีก 1 เดือน หากพิจารณาในประเด็นข้อกฎหมายอาจมีปัญหาตามมาอย่างแน่นอน การตั้งข้อสังเกตว่าเมื่อการบินไทยเป็นบริษัทเอกชนแล้วในวันนี้อำนาจของบอร์ดการบินไทยตามมาตรา 13(2) ตาม พ.ร.บ.แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ 2543 จะยังคงมีอยู่ต่อไปหรือไม่ และผู้ที่ลงนามในคำสั่งขอขยายเวลาปรับลดเงินเดือนมีความทับซ้อนในการปฎิบัติหน้าที่อยู่หลายตำแหน่ง เพราะเป็นตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดตามโครงสร้างการบริหารงานตามระเบียบบริษัท และยังมีสถานะที่ถูกเสนอชื่อไปยังศาลล้มละลายกลางให้เป็นหนึ่งในผู้บริหารแผนฟื้นฟู รวมถึงยังมีสถานะเป็นรองปลัดกระทรวงการคลัง ซึ่งมีสถานะเป็นเจ้าหนี้ของการบินไทย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

ครูปรีชาทนายตั้ม

“ครูปรีชา” หิ้วกาแฟ-ข้าวผัด เยี่ยม “ทนายตั้ม”

เกือบ 24 ชั่วโมง ที่ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” มาสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ เตรียมส่งตัวฝากขังบ่ายนี้ ส่วนคู่กรณีหวย 30 ล้าน “ครูปรีชา” นำข้าวผัดและกาแฟ เข้าเยี่ยม “ทนายตั้ม” พร้อมยืนยันคำเดิม “ความจริงก็คือความจริง”

นายกฯ เร่งตั้งทีม JTC เจรจา MOU44 คาดชัด 18 พ.ย.นี้

นายกฯ ยันรัฐบาลเร่งตั้งคณะกรรมการ JTC หารือเส้นเขตแดน MOU 44 และพลังงานใต้ทะเล คาด 18 พ.ย.นี้ ชัดเจน “ภูมิธรรม” มั่นใจกัมพูชายึดตามสนธิสัญญาเจนีวา แม้ไม่เข้าร่วม ย้ำมีผลผูกพันทุกประเทศทั่วโลก