มท.กำชับผู้ว่าฯเข้มมาตรการสาธารณสุขหลังคลายล็อกระยะ 3

กระทรวงมหาดไทย  31 พ.ค.-รมว. มหาดไทยประชุมผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ รับมือ คลายล็อกระยะ 3 เข้มมาตรการด้านสาธารณสุข ใช้ แอป “ไทยชนะ” ทุกกิจกรรม กิจการ ใช้งบแก้ปัญหา ฟื้นฟูโปร่งใสเกิดประโยชน์จริง เชิญชวนประชาชนมีส่วนร่วมตรวจสอบ 


พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย ประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศผ่านระบบวีดิโอคออนเฟอเรนซ์ เพื่อซักซ้อมแนวทางปฎิบัติตามมาตรการป้องกันและแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สำหรับการคลายล็อกระยะที่ 3 โดยพล.อ.อนุพงษ์กำชับเรื่องการใช้งบประมาณทั้งการป้องกัน การแก้ไขปัญหาและการฟื้นฟูที่กำลังจะเกิดขึ้น ให้ทุกส่วนราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องบริหารจัดการให้เป็นไปด้วยความโปร่งใสอย่างเคร่งครัด 

“ทุกหน่วยงานต้องร่วมมือกันใช้งบประมาณที่มีอยู่ไม่มากให้ดีที่สุด แก้ไขปัญาให้ดีที่สุด เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของประเทศ และประชาชน ทั้งการจัดทำโครงการ และการจัดซื้อจัดจ้าง ต้องไม่มีการทุจริต เพราะคนที่ได้รับผลกระทบคือประเทศชาติและคนไทยทุกคน ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอต้องสอดส่องดูแล หากพบว่าสิ่งใดจะก่อให้เกิดความเสียหาย ต้องเรียกดู ตรวจสอบโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มีการร้องเรียนมา ต้องเร่งลงไปกำกับดูแล และเชิญชวนประชาชนช่วยกันตรวจสอบ ร้องเรียน และแจ้งเบาะแสมายังศูนย์ดำรงธรรม และลงไปดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย ถ้าทุกคนทำได้ โอกาสทองในการฟื้นฟูเศรษฐกิจก็จะเกิดขึ้น” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าว


พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ขอให้ทุกส่วนราชการดำเนินงานและใช้จ่ายงบประมาณการฟื้นฟูด้วยความโปร่งใส ร่วมกันปฏิบัติงานตามมาตรการผ่อนคลายให้รัดกุม เพื่อไม่ให้มีการแพร่ระบาดของโรค สร้างความเข้าใจกับประชาชนในการเดินทางสัญจรข้ามพื้นที่ภายในประเทศ  สร้างการรับรู้และรณรงค์ให้ผู้ประกอบการและประชาชนใช้แอปพลิเคชั่นไทยชนะ เป็นเครื่องมือเฝ้าระวังและสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพื่อสามารถทำมาหากินได้อย่างปกติ ก้าวสู่การดำเนินชีวิตประจำวันรูปแบบใหม่ (New Normal) และให้ความเชื่อมั่นว่าประเทศไทยทำได้เช่นที่ร่วมกันทำมาโดยตลอด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมมอบแนวทางให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ปฎิบัติตามข้อกำหนดในมาตรา  9 ใน พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ให้จัดเลือกตั้งซ่อม เขต 4 จังหวัดลำปางเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง อำนวยความสะดวก ให้ความร่วมมือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)  ปฎิบัติตามคำสั่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ และให้ผู้ว่าราชการทั่วประเทศ เข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายการคลายล็อกระยะที่ 3 โดยควบคุมการเดินทางเข้าประเทศทั้งทางบก น้ำ อากาศ ปรับการห้ามออกจากเคหะสถานเคอร์ฟิวตั้งแต่เวลา  23.00-03.00 น. ให้เดินทางข้ามจังหวัดภายใต้มาตรการตามที่ราชการกำหนด และ ห้างสรรพสินค้าเปิดดำเนินการไม่เกิน 21.00 น. ทุกจังหวัดยังคงมาตรการคัดกรองไข้ทุกกิจกรรมและกิจการให้ลงทะเบียนแพลทฟอร์มไทยชนะ เข้า-ออก สถานที่หรือใช้มาตรการควบคุมด้วยการบันทึกข้อมูลและรายงานแทน.-สำนักข่าวไทย       


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง