ดีเอสไอเร่งขยายผลตรวจธุรกิจต่างด้าว 255 คน สวมสัญชาติไทย

กรุงเทพฯ 28 พ.ค.- กรมสอบสวนคดีพิเศษ เดินหน้าขยายผลตรวจสอบกรณีคนจีนสวมสัญชาติไทย 255 รายชื่อ ว่ามีการประกอบธุรกิจผิดกฎหมายใดบ้าง และเชื่อว่าอาจมีการกระทำลักษณะดังกล่าวอีกหลายจังหวัด



พ.ต.อ.ปกรณ์ สุชีวกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยถึงความคืบหน้าในคดีคนต่างด้าวสวมสัญชาติไทย ประกอบธุรกิจในประเทศโดยมิชอบที่ จ.เชียงราย ว่าหลังจาก 2 วันที่ผ่านมา กรมสอบสวนคดีพิเศษร่วมกับกรมการปกครองตรวจสอบเรื่องดังกล่าวจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดี ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลว่าคนจีนทั้ง 255 คน ที่สวมสัญชาติไทย ประกอบธุรกิจทำผิดกฎหมายใดบ้าง ซึ่งต้องใช้เวลาอีกสักระยะ ส่วนการเพิกถอนสัญชาติเป็นหน้าที่ของกรมการปกครอง


สำหรับการลงพื้นที่ตรวจสอบคดีดังกล่าวที่เชียงราย ถือว่าเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น หลังจากนี้จะขยายการตรวจสอบออกไปในพื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศ เพราะเชื่อว่ายังมีการสวมสิทธิลักษณะนี้อีกจำนวนมาก แต่การเริ่มต้นที่เชียงราย เนื่องจากพบข้อมูลการกระทำผิดของเจ้าหน้าที่รัฐอย่างชัดเจน และคดีอยู่ระหว่างตรวจสอบที่สำนักงาน ป.ป.ท.

สำหรับคดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม หลังจากที่กรมสอบสวนคดีพิเศษสนธิกำลังกรมการปกครองเข้าตรวจสอบ    หลังได้เบาะแสว่า มีอดีตปลัดอำเภอเวียงแก่น จ.เชียงราย มีพฤติกรรมอำนวยความสะดวกในการสวมสิทธิสัญชาติไทยโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และกลุ่มชาวต่างด้าวได้ไปประกอบธุรกิจต้องห้าม ซึ่งมีมากกว่า 255 รายชื่อ โดยขณะนี้ได้นำรายชื่อทั้งหมดที่ปรากฏภาพลายนิ้วมือในขณะแจ้งถิ่นพำนัก ส่งไปยังสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ตรวจเปรียบเทียบกับลายพิมพ์นิ้วมือขณะทำบัตรประชาชน เพื่อพิสูจน์ตัวบุคคล รวมทั้งได้นำรายชื่อตรวจสอบกับฐานข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยพบว่ามีการจดทะเบียนประกอบธุรกิจต้องห้ามของคนต่างด้าว 15 คน ในลักษณะนิติบุคคลรวม 19 บริษัท โดย 1 ใน 15 รายนี้ มีการไปจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล 3 บริษัท พบทุนจดทะเบียนรวมกันไม่น้อยกว่า 3,600 ล้านบาท ซึ่งถือว่ามีสินทรัพย์ของนิติบุคคลรวมเกิน 100 ล้านบาท อันเข้าข่ายลักษณะที่เป็นคดีพิเศษ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่