fbpx

ผู้เสียหายขอบคุณ ตำรวจจับหนุ่มปลอมเฟซบุ๊กซื้อ-ขายบิ๊กไบค์

อุดรธานี 25 พ.ค.-กลุ่มผู้เสียหายเข้าขอบคุณตำรวจ จับหนุ่มอายุ 22 ปี ปลอมเฟซบุ๊ก หลอกซื้อขาย รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ มียอดเงินหมุนเวียนในบัญชีมากว่า 30 ล้านบาท 


จากกรณี นายสหรักษ์ รอดทอง อายุ 22 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช ผู้ต้องหาปลอมเฟซบุ๊ก หลอกซื้อขาย รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ ถูกควบคุมตัวไปสอบสวนที่สภ.เมืองอุดรธานี หลังเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวได้ที่ จ.ชลบุรี เหตุการณ์นี้สืบเนื่องจาก 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา ตำรวจ กก.สส.ภ.จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งจาก นายนริศ ศรีวิโรจน์ อายุ 34 ปี นักธุรกิจซื้อขายรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ ชาว ต.หมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี ว่า ถูกบุคคลที่ใช้ชื่อเฟสบุ๊ก ”Neeking Soser” ซึ่งติดต่อซื้อขายรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์มือสอง ยี่ห้อคาวาซากิ ในราคา 128,000 บาท โดยเจ้าของ เฟสบุ๊ก ”Neeking Soser หลอกผู้เสียหายว่า เป็นเจ้าของและต้องการจะขายรถ แต่รถคันดังกล่าวอยู่ภาคใต้ยังไม่ได้โอนมาเป็นชื่อตัวเอง ก่อนที่ผู้เสียหายจะโอนเงินได้ให้พนักงานบริษัทขนส่งไปดูว่ารถมีจริงหรือไม่ และสภาพเป็นอย่างไร  จากนั้นจึงมีการนัดรับรถ ขณะเดียวกัน ผู้ต้องหาได้ไปหลอกเจ้าของรถว่าจะเป็นผู้ที่จะซื้อรถเอง และนัดวันรับรถและจ่ายเงิน  กระทั่งถึงวันนัด ผู้เสียหายได้ให้พนักงานขนส่งไปรับรถแทน แต่เจ้าของรถกลับไม่ยอมปล่อยให้นำรถไป เนื่องจากยังไม่ได้รับเงินค่ารถ ทั้งคู่จึงติดต่อไปยังผู้ต้องหา กลับพบว่าไม่สามารถติดต่อได้ ปิดช่องทางการสื่อสารทุกทาง


ต่อมาตำรวจ กก.สส.ภ.จ.อุดรธานี ได้รับการประสานข้อมูลจากตำรวจ กก.สส.ภ.จ.ชลบุรี หลังมีผู้เสียหายอีกรายที่ถูกหลอกซื้อรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮาเล่ย์ เดวิดสัน ในราคา 280,000 บาท และมีผู้เสียหายถูกหลอกในลักษณะเดียวกันอีกหลายราย จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายค้นจากศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช เข้าค้นบ้านพักนายสหรักษ์ พบมีการใช้เฟสบุ๊กถึง 3 แอคเคาท์ โดยใช้รูปจริงของตัวเองเพียง 1 แอคเคาท์เท่านั้น ส่วนอีก 2 แอคเคาท์เป็นเฟซบุ๊กปลอม ใช้ชื่อว่า “เพชฌฆาต ดาวโจร” ตำรวจจึงควบคุมตัวพร้อมของกลางมาสอบสวนที่ กก.สส.ภ.จ.อุดรธานี และตรวจสอบเงินในบัญชีผู้ต้องหาพบมียอดเงินหมุนเวียนมากกว่า 30 ล้านบาท โดยผู้ต้องหาก่อเหตุมาตั้งแต่ปี 2557 

พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า จากการสอบสวน นายสหรักษ์ ผู้ต้องหา สารภาพว่า ทำไปเนื่องจากติดเกมส์ออนไลน์ แต่ก่อนไม่มีเงินซื้ออุปกรณ์เล่นเกมส์ จึงคิดหลอกผู้เสียหายโดยใช้เฟสบุ๊กปลอมติดต่อซื้อขายสินค้า และโอนเงินผ่านบัญชีผู้อื่น ที่จ้างเปิดบัญชีหรือบางบัญชีก็ซื้อมา จากนั้นจะหาเหยื่อ โดยไปเอาภาพรถจักรยานยนต์ ที่มีผู้ประกาศขายตามเฟสบุ๊ก ไปเสนอขายให้กับผู้ค้ารถจักรยานยนต์มือสองอีกทอด โดยทำตัวเป็นคนกลางในการเจรจาซื้อขาย เมื่อมีการตกลงซื้อขาย ได้เงินมาก็จะนำเงินไปซื้ออุปกรณ์เล่นเกมส์ออนไลน์ และใช้จ่ายฟุ่มเฟือย  โดยพบผู้เสียหาย 3 ราย รวมมูลค่าความเสียหายมากกว่า 1.5 ล้านบาท  และเมื่อตรวจสอบในระบบอินเตอร์เน็ต ยังพบว่าผู้ต้องหามีพฤติกรรมหลอกลวงเอาทรัพย์สินหลายราย ตั้งแต่ปี 2557 ยังไม่เคยถูกจับดำเนินคดีมาก่อน มียอดเงินหมุนเวียนในบัญชีมากว่า 30 ล้านบาท จึงเชื่อว่ายังมีผู้เสียหายอีกหลายราย หากผู้เสียหายเคยถูกคนร้ายรายนี้หลอกลวงหรือฉ้อโกงในลักษณะเช่นนี้ สามารถติดต่อข้อมูลประกอบคดีได้ที่ กก.สส.ภ.จ.อุดรธานี และขอฝากเตือนพี่น้องประชาชนให้ตรวจสอบข้อมูลจากผู้ซื้อและผู้ขายโดยตรง ไม่ผ่านคนกลาง เพื่อความปลอดภัยในทรัพย์สินของท่านเอง 


วันนี้บรรดาผู้เสียหายได้นำช่อดอกไม้มามอบให้เจ้าหน้าที่ตพรวจเพื่อขอบคุณที่ช่วยติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี หลังก่อเหตุหลอกลวงประชานชนให้เป็นเหยื่อนานกว่า 7 ปี 

ด้าน นายเจริญ มั่งพึ่งพร ผู้เสียหายอีกราย เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ตนโพสขายรถจักรยานยนต์ฮาเลย์ เดวิดสัน รุ่นสปอร์ทเตอร์ 48 สีดำ ในกลุ่มซื้อขายรถจักรยานยนต์ทั่วไปในเฟสบุ๊ก ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์มือสองที่ตนโพสขายมานานแล้ว ทีแรกเปลี่ยนใจว่าจะไม่ขาย แต่ไม่ได้ลบโพสออก จากกนั้นผู้ต้องหาได้ติดต่อซื้อรถในราคา 280,000 บาท โดยมีข้อแม้หลายอย่าง เช่น ให้ผู้ซื้อโอนเงินเข้าบัญชีผู้ต้องหาก่อน จากนั้นจึงจะโอนค่ารถเข้ามาให้ตน โดยได้นัดรับส่งรถที่ อ.บางแสน จ.ชลบุรี โดยผู้ซื้อได้โอนเงินเข้าบัญชีผู้ต้องหา จากนั้นผู้ต้องหาก็ปิดช่องทางการสื่อสารทั้งหมด ไม่สามารถติดต่อได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มหาวิทยาลัยแจงเหตุ นศ.สาวปี 3 แทงแฟน นศ.ปี 1 สาหัส

มหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีนักศึกษาหญิงทำร้ายนักศึกษาชาย ในหอพักจนบาดเจ็บสาหัส ด้านตำรวจยืนยันนักศึกษาหญิงที่ก่อเหตุมอบตัวแล้ว ยอมรับเป็นแฟนและทะเลาะกัน

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

ข่าวแนะนำ

คุมเพลิงไหม้ “วิน โพรเสส” ได้แล้ว 95%

เหตุไฟไหม้โรงงานเก็บขยะเคมีอันตราย วินโพรเสส อ.บ้านค่าย จ.ระยอง วันนี้ เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงได้แล้ว 95% เหลือเพียงจุดความร้อนที่อยู่ใต้ซากกองเพลิง ซึ่งยังต้องใช้สาร F500 ฉีดลดความร้อน แต่ยังมีกลิ่นฉุนแอมโมเนีย ด้านกรมโรงงานอุตสาหกรรมเช็กกล้องวงจรปิดตรวจสอบว่าเป็นการวางเพลิงเพื่อทำลายหลักฐานเช่นเดียวกับเหตุที่เกิดขึ้นใน อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา หรือไม่

นายกฯ แจงเรียก “สุชาติ-รัฐมนตรี” เข้าพบ แค่ตามงาน

นายกฯ อารมณ์ดี เดินลงตึกไทยฯ พบสื่อ แจงเรียก “สุชาติ-รมต.” มีชื่อหลุด ครม.เข้าพบแค่ตามงาน ย้ำปรับ ครม.เสร็จเมื่อไหร่เดี๋ยวก็รู้ ยันกินข่าวเที่ยงวานนี้ไม่มี ”ทักษิณ“

รวบ 2 ใน 4 อุ้มฆ่าหนุ่มไทใหญ่ทิ้งป่า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

รวบแล้ว 2 ใน 4 ผู้ต้องหาอุ้มฆ่า “จ๋อมวัน” หนุ่มไทใหญ่ ก่อนนำศพไปทิ้งในป่าที่ จ.เชียงใหม่ ปมสังหารอ้างไม่พอใจถูกแซวเรื่องหญิงคนสนิท

ดวงอาทิตย์ตั้งฉาก กทม.ครั้งแรกของปี

วันนี้เป็นครั้งแรกของปีที่ดวงอาทิตย์จะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งตั้งฉากกับพื้นที่ กทม. ส่งผลให้ดวงอาทิตย์เคลื่อนผ่านใกล้จุดเหนือศีรษะ หรือตั้งฉากกับพื้นที่บริเวณต่างๆ ของไทย 2 ครั้งต่อปี คือช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. และเดือน ก.ค.-ก.ย.