ลำพูน 20 พ.ค.-สลด พ่อแท้ๆ ข่มขืนลูกสาวตัวเองตั้งแต่อายุ 11 จนท้องตอนอายุ 18 พยายามให้ทำแท้งทั้งยากิน ยาเหน็บ แต่ไม่สำเร็จ สุดท้ายฉีดแอลกอฮอล์ใส่อวัยวะเพศ จนแท้งจริง ล่าสุดเข้ามอบตัวแล้ว
พ.ต.อ.พัฒนพงษ์ ขำแก้ว ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองลำพูน คุมตัวผู้ต้องหามาสอบสวน พร้อมตำรวจเจ้าของคดี ที่ สภ.เมืองลำพูน หลังผู้ต้องหาเข้ามอบตัว จากการสอบสวนของตำรวจ ทราบว่าพฤติการณ์พ่อคนนี้ก่อเหตุมาตั้งแต่ปี 2554 ขณะนั้น พ่อ แม่ และลูกสาวอายุ 11 ปี อยู่กันพร้อมหน้า โดยพ่อจะแอบพาลูกสาวไปข่มขืนตามป่าละเมาะ และที่ต่างๆ
ต่อมาได้เลิกรากับภรรยาซึ่งเป็นแม่ของเด็ก และถูกจับติดคุกในคดีพยายามฆ่า เมื่อพ้นโทษก็ออกมาข่มขืนลูกสาวอีก แม้จะมีภรรยาใหม่อยู่ด้วย ก็จะแอบทำ จนเลิกรากับภรรยาคนใหม่อีก กระทำเรื่อยมาจนถึงอายุ 18 ปี จนลูกสาวตนเองตั้งท้องได้ 4 เดือน พ่อบังคับให้ทำแท้ง โดยให้กินยา-เหน็บยา แต่ก็ไม่แท้ง สุดท้ายฉีดแอลกอฮอล์เข้าไปที่อวัยวะเพศ 6 ครั้ง จนเด็กหลุดออกมา แล้วนำไปซุกซ่อนไว้หรือทำลาย ซึ่งตำรวจกำลังตามหาหลักฐานอยู่
ลูกสาวที่ตอนนี้อายุ 18 ปี ทนไม่ไหว เข้าขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิสายใยเด็ก ซึ่งได้พาเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำพูน และได้ประสานตำรวจและตำรวจภาค 5 เข้าจับกุมดำเนินคดี โดยตำรวจท้องที่ สภ.เมืองลำพูน ได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดลำพูน ส่วนผู้ต้องหาไหวตัวทันได้ชิงมอบตัวกับตำรวจภาค 5
เจ้าหน้าที่แจ้งหลายข้อหา เนื่องจากเป็นความผิดต่างกรรมต่างวาระ ทั้งข้อหากระทำชำเราบุคคลที่มิใช่ภรรยาของตน อายุไม่เกิน 13 ปี ข้อหากระทำชำเราบุคคลที่มิใช่ภรรยาของตน อายุไม่เกิน 15 ปี ข้อหากระทำชำเราบุคคลที่มิใช่ภรรยาของตน อายุไม่เกิน 18 ปี ข้อหาทำให้ผู้อื่นแท้งลูก และไม่อนุญาตให้ประกันตัว เพราะเกรงไปหยุ่งเหยิงกับพยานหรือคดี ก่อนที่จะควบคุมตัวส่งฟ้องดำเนินคดีต่อไป
มีรายงานว่าผู้ต้องหาเป็นคนมีพฤติกรรมอารมณ์รุนแรง เคยถูกจับจำคุกในคดีทำร้ายร่างกายผู้อื่น และทะเลาะกับภรรยาบ่อยครั้งจนหย่าร้างกัน แล้วอดีตภรรยาไปมีครอบครัวใหม่ ส่วนลูกสาว (ผู้เสียหาย) ก็ไปๆ มาๆ อยู่กับพ่อ (ผู้ต้องหา) บ้าง อยู่กับแม่บ้าง แต่ถ้าหากลูกสาวไปอยู่กับแม่นานผู้ต้องหาก็จะโทรศัพท์ข่มขู่ว่าถ้าไม่มาอยู่กับพ่อก็จะฆ่าทิ้งทั้งแม่ทั้งลูกรวมถึงสามีใหม่ของแม่ด้วย ทำให้ลูกสาวอยู่ในภาวะจำยอมต้องกลับไปอยู่ด้วยแล้วก็ถูกผู้เป็นพ่อแท้ๆ ข่มขืนกระทำชำเราต่อเนื่องจนตั้งท้องแล้วบังคับทำแท้งจนสำเร็จดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย