“สมพงษ์” ชี้รัฐกู้เงินมหาศาล ไม่เห็นทิศทางการพัฒนา

กรุงเทพฯ 18 พ.ค.-ผู้นำฝ่ายค้าน ซัดรัฐบาลกู้เงินมหาศาล  เปิดช่องไม่รอบคอบ ไม่เห็นทิศทางการพัฒนา  เหมือนตีเช็คเปล่า ไร้การตรวจสอบ


นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและผู้นำฝ่ายค้าน ในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวเปิดเสวนา “อนาคตประเทศไทย หลังโควิด-19” จัดโดยพรรคเพื่อไทย ว่า ปัจจุบันสถานการณ์โควิด-19 ของประเทศไทยอยู่ในช่วงที่ต้องพิจารณาใน 2 ประเด็นที่คาบเกี่ยวกัน คือ ความสมดุลด้านระบาดวิทยา กับ เรื่องผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งประเทศที่ประสบความสำเร็จที่แท้จริง  ไม่ใช่ประเทศที่หยุดการระบาดได้อยู่หมัดบนซากปรักหักพัง และไม่ใช่ประเทศที่ปล่อยการระบาดรุนแรงจนยืดเยื้อ กระทบต่อชีวิตประชาชนและเศรษฐกิจของประเทศ แต่กลับเป็นประเทศที่สามารถสร้างความสมดุลให้การระบาดอยู่ในภาวะควบคุมได้ พร้อมกับประคองเศรษฐกิจให้ยืนอยู่ได้ในวันที่โลกยังไม่มีวัคซีนป้องกัน

นายสมพงษ์ กล่าวอีกว่า สำหรับประเทศไทย จัดอยู่ในประเทศควบคุมการระบาดได้ดี แต่การออกมาตรการควบคุมกิจกรรมทางเศรษฐกิจนั้น มากเกินความจำเป็น และมีผลกระทบสูงต่อการใช้ชีวิตของประชาชน พรรคเพื่อไทยได้ตระหนักถึงความจำเป็นต่อเรื่องนี้ และได้มีการเรียกร้องให้เปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ให้คนได้ใช้ชีวิต ทำงานเพื่อเลี้ยงปากท้องของตนและครอบครัว ก่อนสถานการณ์เศรษฐกิจจะล้มละลายจนยากเกินเยียวยา


“วันนี้เรามีคำถามที่ใหญ่กว่านั้น คือ หลังจากเรื่องนี้คลี่คลายลง ไทยจะเดินต่อไปอย่างไร เราต้องกลับมาถามตัวเองว่านับจากวันนี้ไทยมองเห็นโอกาสอะไร และมีแผนจะคว้าโอกาสนั้นอย่างไร” นายสมพงษ์ กล่าว

นายสมพงษ์ กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้มองเห็นโอกาสของไทย ที่จะต้องสร้างการเปลี่ยนแปลงตัวเอง  ทำให้เกิดศูนย์กลาง 4 ด้าน เป็นโอกาสที่จะต้องไขว่คว้าให้ได้ ในยามที่นานาประเทศต่างกำลังฟื้นฟูภาวะทางสังคม เศรษฐกิจจากบาดแผลของโควิด-19 และหาลู่ทางทำธุรกิจแนวใหม่ที่แตกต่างจากการทำธุรกิจแบบเดิม ๆ ประกอบด้วย 1.ศูนย์กลางการท่องเที่ยวปลอดภัย ไทยเป็นประเทศที่สามารถคุมการระบาดได้ดี อันดับต้น ๆ ของโลก ในขณะที่จุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวอื่นกำลังมีปัญหา และเต็มไปด้วยความกังวล หวาดกลัว การท่องเที่ยวในประเทศเราสามารถเริ่มได้เร็ว และไทยสามารถเปิดประเทศรับการท่องเที่ยวได้เร็วกว่าประเทศอื่น ภายใต้มาตรการป้องกันที่รัดกุมและผ่อนคลาย จึงเป็นโอกาสของไทยในการสร้างมาตรฐานใหม่ เพื่อเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและภาคบริการ โดยเน้นความปลอดภัย เสริมสร้างความมั่นใจ และใช้จุดเด่นในเรื่องการป้องกันทางสาธารณสุขเพื่อดึงดูดการท่องเที่ยว 

นายสมพงษ์ กล่าวว่า 2.ศูนย์กลางการแพทย์และสาธารณสุข การรับมือโควิด-19 ได้แสดงถึงศักยภาพด้านสาธารณสุขของไทย ทั้งด้านระบาดวิทยา ที่ทำให้อัตราการแพร่ระบาดต่อประชากรต่ำ และด้านการรักษาที่มีอัตราส่วนผู้เสียชีวิตต่อผู้ป่วยต่ำมาก ไทยมีต้นทุนภาคอุตสาหกรรมด้านการดูแลสุขภาพ ศัลยกรรมความงาม สปา การใช้สมุนไพรและธรรมชาติบำบัด เป็นที่ยอมรับและมีมาตรฐานสูง และยังมีภาคเอกชนด้านสาธารณสุขที่เข้มแข็งมาก เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง โอกาสในการพัฒนาศูนย์กลางการแพทย์และสาธารณสุขที่เชื่อมโยงไปกับการพัฒนาสุขภาพและการท่องเที่ยว จึงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้มาก


นายสมพงษ์ กล่าวอีกว่า 3.ศูนย์กลางอุตสาหกรรมและผู้ผลิตสินค้ากลางน้ำแหล่งใหม่ ช่วงก่อนสงครามการค้า ห่วงโซ่การผลิตข้ามชาติส่วนใหญ่ จะเกี่ยวพันกับประเทศจีน สงครามการค้าเป็นความพยายามที่จะสร้างอีกหนึ่งห่วงโซ่การผลิตเพื่อให้เกิดทางเลือกใหม่ทางการค้าโดยไม่ผ่านจีน หากไม่มีเรื่องโควิด-19 มีความเป็นไปได้สูงที่โลกจะมี 2 ห่วงโซ่ใหญ่ ๆ คือ ฝั่งตะวันออกกับฝั่งตะวันตก แต่หลังจากโควิด-19 การที่เศรษฐกิจโลกมีเงื่อนไขผูกมัดกันมาก การผลิตผูกพันกันสูง ทำให้ความเสียหายกระจายในวงกว้าง และมีแนวโน้มที่โลกจะปรับตัวในการสร้าง ผู้ผลิตกลางน้ำรายเล็ก ๆ ขึ้น  โดยลดการพึ่งพิงการผลิตจากชาติใหญ่ ซึ่งตรงนี้เป็นโอกาส ไทยมีศักยภาพในการเป็นซัพพลายเออร์ให้กับโลกยุคใหม่ เพราะเรามีค่าแรงที่ไม่แพง มีวัตถุดิบมหาศาล มีโครงสร้างพื้นฐานการคมนาคมที่ดี จังหวะที่ทั้งโลกต่างเข็ดขยาดกับการผูกขาดการผลิตในรูปแบบเดิม จึงนับเป็นโอกาสที่ดีที่ไทยจะช่วงชิงโอกาสนี้มา

นายสมพงษ์ กล่าวว่า 4.ศูนย์กลางอาหารปลอดภัยของโลก อุตสาหกรรมหนึ่งที่อยู่รอดจากวิกฤติโควิด-19 คือ อุตสาหกรรมอาหาร โดยเฉพาะอาหารที่ใส่ใจเรื่องความปลอดภัย เพราะมนุษย์จำเป็นต้องบริโภค และยิ่งจะเลือกบริโภคมากขึ้นหลังจากเกิดวิกฤติการณ์นี้ ไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพสูงด้านการผลิตอาหารป้อนโลก แต่ยังทำได้ไม่ดีนักเรื่องการผลิตอาหารปลอดภัย ซึ่งตรงนี้หากพัฒนาได้จะเป็นการสร้างมูลค่าการผลิตแบบก้าวกระโดด จากสินค้าการเกษตรพื้นฐาน กลายเป็นสินค้าการเกษตรคุณภาพ ราคาสูงที่เน้นความปลอดภัยต่อผู้บริโภค ซึ่งกำลังจะเป็นแนวโน้มของโลกข้างหน้า 

“ทั้ง 4 โอกาสที่นำเสนอมา จะเกิดขึ้นได้ ถ้ารัฐบาลมีวิสัยทัศน์ แต่ในทางตรงข้าม จะกลายเป็นเรื่องเพ้อฝันหากรัฐบาลไม่กระตือรือร้น สร้างสรรค์ และยังคงวนในกับดักเก่าที่ทำงานและบริหารแบบเดิมไปเรื่อย ๆ รัฐบาลนี้ได้กู้เงินจำนวนมหาศาล แต่มองไม่เห็นทิศทางการวางอนาคตให้ประเทศสักเท่าใด นอกจากความกังวลใจที่หลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ด้วยความห่วงใยว่าจะมีการนำทรัพยากรและเงินกู้จำนวนมหาศาลนี้ไปหาประโยชน์ทางการเมืองและหาประโยชน์ส่วนตนของพวกพ้อง เชื่อว่าคนส่วนใหญ่กำลังเฝ้าติดตามและอยากเห็นการใช้ทรัพยากรทั้งหมดที่มีอยู่ ไปใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างมียุทธศาสตร์ จึงอยากฝากให้รัฐบาลมองสถานการณ์หลังโควิด-19 ให้เห็นถึงโอกาส และใช้งบประมาณเหล่านี้ เป็นเครื่องมือไปสร้างอุตสาหกรรมในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อพัฒนาศักยภาพแห่งโอกาสให้ประเทศ” นายสมพงษ์ กล่าว

นายสมพงษ์ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลต้องพึงระลึกไว้เสมอว่าเงินกู้จำนวนมหาศาลนี้ คนที่ต้องร่วมกันชดใช้ คือ ประชาชนทั้งประเทศ รวมถึงลูกหลานเป็นลูกหนี้ต่อไปอีกยาวนาน แต่รัฐบาลเป็นคนนำเงินไปใช้ ดังนั้นเงินกู้จากสถานการณ์นี้จึงจำเป็นต้องถูกนำไปใช้ด้วยความรับผิดชอบและเป็นประโยชน์ต่อประชาชนโดยแท้จริง ไม่ใช่การแบ่งเค้กชิงผลประโยชน์ การใช้เพื่อฐานเสียง การเอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้องผ่านโครงการต่าง ๆ ภายใต้เงินกู้ก้อนนี้ 

นายสมพงษ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้เพราะ พ.ร.ก.ทั้ง 3 ฉบับ ที่ทำให้คนไทยตกเป็นหนี้ก้อนมหาศาล รัฐบาลในฐานะฝ่ายบริหาร มีอำนาจในการใช้จ่ายงบประมาณดังกล่าวอย่างเต็มที่ แต่กลไกการตรวจสอบและกำกับการใช้จ่ายเงิน กลับมีเพียงการตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ เพียงไม่กี่คน ตรวจสอบเงินจำนวนมหาศาล โดยไม่ต้องรายงานการใช้จ่ายต่อฝ่ายนิติบัญญัติ อันเป็นระบบที่หละหลวมและอาจเสี่ยงต่อความไม่โปร่งใส ซึ่งเป็นเรื่องน่ากังวลใจอย่างยิ่ง 

ในส่วนของเงินเยียวยาที่จัดสรรให้ประชาชนเดือนละ 5,000 บาท เป็นจำนวน 3 เดือน นายสมพงษ์ กล่าวว่า ก่อให้เกิดปัญหาอย่างมากในการปฏิบัติ เงินช่วยเหลือภายใต้เงื่อนไขที่รัฐบาลกำหนดเป็นสิ่งที่เข้าถึงยาก ล่าช้า ไม่เพียงพอและไม่ครอบคลุม ทำให้ประชาชนได้ประโยชน์ไม่เต็มที่ ไม่ทันการณ์ จนเป็นเหตุให้คนส่วนใหญ่ต้องประสบกับภาวะอดอยาก แร้นแค้นโดยไม่จำเป็น กระบวนการที่ขาดการเตรียมความพร้อม กลับส่งผลให้คนที่เข้าไม่ถึงทรัพยากรจำนวนมากสูญเสียศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และท้ายที่สุดส่งผลให้เกิดโศกนาฏกรรมและมีคนฆ่าตัวตายรายวัน อันเป็นตัวชี้วัดที่ชัดเจนจากปัญหาการจัดการนี้ 

“ที่สำคัญ ในส่วนของ พ.ร.ก.กู้เงินเพื่อฟื้นฟู ได้เปิดช่องให้มีการใช้วงเงินตามอำเภอใจ จนเป็นเหตุให้เกิดเป็นการใช้เงินแบบเบี้ยหัวแตก สูญเปล่า หรืออาจมีการใช้เพื่อผลทางการเมืองกับพรรคร่วมรัฐบาลและเอื้อกลุ่มทุนที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล ส่วน พ.ร.ก.ช่วยเหลือวิสาหกิจ หากไม่มีหลักการที่รัดกุมอาจเปิดช่องให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเกิดการเลือกปฏิบัติ ซึ่งอาจถูกกล่าวหาว่าใช้เงินรัฐอุ้มคนรวย จนก่อให้เกิดปัญหาคอร์รัปชั่น และเกิดความเสี่ยงต่อความเชื่อมั่นในระบบการเงินของประเทศ ทั้งหมดคือความจำเป็นสำคัญ ที่ตัวแทนของประชาชน ผู้มีหน้าที่ที่จะต้องร่วมกันตรวจสอบให้การใช้เงินก้อนนี้เป็นไปอย่างสุจริตและมีประสิทธิภาพสูงสุด ป้องกันไม่ให้เป็นการตีเช็คเปล่า ให้รัฐบาลใช้เงินตามอำเภอใจ ไร้การตรวจสอบ จนอาจส่งผลเสียต่อประเทศอย่างมีนัยสำคัญ” นายสมพงษ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“อนุทิน” โชว์ตัวว่าที่ รมต.ทีมเศรษฐกิจ ล้อมวงกินเค้กส้ม

พรรคภูมิใจไทย 6 ก.ย.- “อนุทิน” โชว์ตัว ว่าที่ 3 รมต.ทีมเศรษฐกิจป้ายแดง ล้อมวงกินเค้กส้ม “เอกนิติ” นั่งขุนคลัง เตรียมนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ชี้ปล่อยฟื้นคนละครึ่งกระแสเต็มฟีด ขณะ “สีหศักดิ์” เตรียมนั่ง รมว.กต. มั่นใจชื่อนี้นานาชาติยอมรับ รับเผือกร้อนแก้ปมชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะ “อรรถพล” อดีต CEO ปตท. นั่ง รมว.พลังงาน ทำงานได้เลยไม่ต้องรำมวย ยอมรับเก้าอี้กลาโหม ต้องมีความรู้ในวิชาชีพ ปัดตอบชิงดำ “บิ๊กป้อม-ธรรมนัส” นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อดีต ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงลอนดอน และอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ดื่มกาแฟร่วมกันที่ร้านจานิสตาร์ ชั้น 1 ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ภายหลังหารือร่วมกันที่บริเวณชั้นบน ทั้งนี้ คาดว่านายสีหศักดิ์ ถูกทาบทาม […]

“ธรรมนัส” ปัดแย่งเก้าอี้กลาโหม “บิ๊กป้อม” ไม่กังวลปมคุณสมบัติ

พรรคภูมิใจไทย 6 ก.ย.- “ธรรมนัส” ปัดแย่งเก้าอี้กลาโหม “บิ๊กป้อม” อุบตอบ “กล้าธรรม” ได้กระทรวงอะไรเพิ่ม ไม่กังวลปมคุณสมบัติ เหตุตัวเองเป็น “รมต.” มา 2 รอบแล้ว แย้ม เลขาฯ พรรค ต้องได้เก้าอี้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา และประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม เดินทางมายังที่ทำการพรรคภูมิใจไทย เพื่อพบกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะว่าที่นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือเป็นการส่วนตัว จากนั้นเวลา 16.50 น. นายอนุทิน และ ร.อ.ธรรมนัส เดินลงจากที่ทำการพรรคมายังร้านกาแฟจาริสต้าร์ ซึ่งมี น.ส.ธนพร ศรีวิราช ภรรยาของ ร.อ.ธรรมนัส รออยู่ ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัส สั่งเครื่องดื่มอเมริกาโน่ร้อน ไม่หวาน ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า มาซื้อกาแฟวันนี้ หมายความว่าได้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแล้วใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ทราบ ตนมารับภรรยา เมื่อถามว่า พรรคกล้าธรรมมีการพูดคุยตำแหน่งรัฐมนตรีลงตัวแล้วหรือไม่ […]

พายุไต้ฝุ่น ‘เผ่ย์ผ่า’ ถล่มชิซูโอกะในญี่ปุ่น

โตเกียว 6 พ.ย. – พายุไต้ฝุ่น “เผ่ย์ผ่า” (Peipah) ได้สร้างความเสียหายอย่างหนักในจังหวัดชิซูโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ในวันศุกร์ โดยมีรายงานว่าลมกระโชกแรงจากพายุลูกนี้ทำลายอาคารไปอย่างน้อย 220 หลัง และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 23 คน เอ็นเอชเค สื่อสาธารณะของญี่ปุ่นรายงานว่า ตรวจพบกระแสลมแรงใน เขตเทศบาล 4 แห่งของจังหวัดชิซูโอกะ ซึ่งรวมถึงเมืองโยชิดะและเมืองมากิโนะฮาระ เจ้าหน้าที่เมืองมากิโนะฮาระระบุว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 ราย และบาดเจ็บเล็กน้อย 20 ราย ณ เวลา 21:30 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกับ 19.30 น. ตามเวลาในประเทศไทย นอกจากนี้ เอ็นเอชเค ยังรายงานด้วยว่า มีอาคารอย่างน้อย 43 หลังในเมืองมากิโนะฮาระถูกทำลายทั้งหมดหรือเสียหายครึ่งหนึ่งและอีก 184 หลังได้รับความเสียหายบางส่วน พายุ “เผ่ย์ผ่า” ได้ลดระดับลงเป็นพายุโซนร้อนเมื่อเวลาประมาณ 21:00 น. ของวันศุกร์ ตามเวลาท้องถิ่น […]

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

ข่าวแนะนำ

บ้านหนองจานคึกคัก ชาวบ้านแห่ให้กำลังใจทหาร

สระแก้ว 6 ก.ค. – บรรยากาศบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว วันนี้ (6 ก.ย.) คึกคัก ชาวบ้านแห่ให้กำลังใจทหาร ส่วน “กัน จอมพลัง” นำบังเกอร์และกล้องวงจรปิดมาสนับสนุนเจ้าหน้าที่ ขณะที่ “รังสิมันต์ โรม” ลุยรับฟังปัญหาความมั่นคงและข้อพิพาทที่ดิน พร้อมเสนอจัดหา “แอนตี้โดรน” เสริมแนวชายแดน บ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ประชาชนทั้งจากในพื้นที่และใกล้เคียงต่างพร้อมใจกันเดินทางมามอบสิ่งของและเลี้ยงอาหารทหารที่ปฏิบัติภารกิจตรึงกำลังแนวชายแดน ทำให้บริเวณถนนสายหลักของบ้านหนองจาน เต็มไปด้วยไก่ทอดกระทะใหญ่ ผัก ผลไม้ อาหารพื้นบ้าน ขณะเดียวกันยังมีของดีเมืองจันท์ คือ ก๋วยเตี๋ยวเส้นจันท์ ข้าวเหนียวมูนราดน้ำกะทิ และทุเรียนพันธุ์ขึ้นชื่อที่ผู้ใหญ่เล็ก ขนมาจากเขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี บอกว่าอยากให้กำลังทหาร อยากให้ทหารได้กินอิ่มท้อง และได้กินของดีของจันทบุรี นอกจากนี้บรรดาพ่อค้าแม่ค้าทั้งในและนอกพื้นที่ไม่พลาดนำขนมท้องถิ่น เครื่องดื่ม น้ำดื่มบรรจุขวด ของใช้จำเป็น มาสร้างสีสัน ท่ามกลางการตรึงกำลังเข้มของทหารและตำรวจในการดูแลความสงบเรียบร้อย และรับน้ำใจจากชาวบ้านด้วยรอยยิ้ม กัน จอมพลัง มอบบังเกอร์-CCTV สนับสนุนชายแดนขณะที่ช่วงบ่าย กัน จอมพลัง […]

ฝนถล่มกรุงอีก สูงสุด 107 มม. เขตพระนคร จับตาฝนอีกก้อน

กทม. 6 ก.ย. – ฝนถล่มกรุงเย็นนี้ ปริมาณฝนสูงสุดแตะ 107 มม. ที่เขตพระนคร จับตาฝนอีกก้อน หากไม่อ่อนกำลังจะเคลื่อนตัวเข้า กทม. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ติดตามสถานการณ์ฝนกรุงเทพมหานคร โดยมีสำนักการระบายน้ำ ร่วมให้ข้อมูล ณ ศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม สำนักการระบายน้ำ กทม.2 ดินแดง ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า วันนี้ปริมาณฝนตกหนักไม่แพ้เมื่อวาน เนื่องจากร่องความกดอากาศต่ำที่พาดผ่านประเทศไทยเป็นตัวดึงเมฆฝนเข้ามา โดยในขณะนี้ (เวลา 17.10 น.) ฝนยังคงตกต่อเนื่องในพื้นที่ชั้นในบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา และกำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ นอกจากนี้ ยังมีเมฆฝนอีกกลุ่มกำลังเคลื่อนตัวเข้ามา คาดว่าหากไม่อ่อนกำลังจะเข้าสู่พื้นที่กรุงเทพฯ อีกระลอก จากการรายงานพบว่าปริมาณน้ำฝนสะสมสูงสุดในรอบ 6 ชั่วโมงอยู่ที่ 107 มิลลิเมตร ที่เขตพระนคร ตามมาด้วย 98.5 มิลลิเมตร ที่เขตวัฒนาและห้วยขวาง ซึ่งถือว่าเกินกว่าขีดความสามารถของระบบระบายน้ำของ กทม. ที่ออกแบบไว้ให้รองรับปริมาณฝนที่ 60 มิลลิเมตร รายงานสถานการณ์ล่าสุดยังพบน้ำท่วมขังในถนนสายหลักและสายรองหลายแห่ง ถนนสายหลัก […]

“อนุทิน” เผยโผ ครม. 100% แล้ว พร้อมเริ่มทำงานทันทีหลังถวายสัตย์ฯ

ภูมิใจไทย 6 ก.ย. – “อนุทิน” เผยโผ ครม. 100% แล้ว พร้อมเริ่มทำงานทันทีหลังถวายสัตย์ปฏิญาณตน ระบุยังไม่มีผู้ดำรงตำแหน่ง รมว.กลาโหม ยืนยันจะเปิดเผยเมื่อถึงเวลาสมควร นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยความชัดเจนการจัดโผคณะรัฐมนตรี ว่าหลายๆ อย่างเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ยืนยันว่าความชัดเจนในการจัดสรรนิ่ง 100% แล้ว ทุกคนที่มาทำหน้าที่ในคณะรัฐมนตรีทราบดีถึงเงื่อนไขและข้อจำกัดต่างๆ โดยจะต้องเริ่มทำงานทันทีหลังเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณตน ส่วนความชัดเจนในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายอนุทิน ยังปฏิเสธที่จะเปิดเผย ระบุว่าตำแหน่งนายกรัฐมนตรียังไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ ยืนยันว่าไม่มีการปิดบังซ่อนเร้น เมื่อถึงเวลาสมควร ไม่เป็นการก้าวล่วงใดๆ ก็จะรีบเปิดเผยให้ประชาชนได้รับทราบ เพราะรัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลของประชาชนคนไทยทุกคน จะไม่ดำเนินการใดๆ ลับหลังประชาชน และจะให้ได้รับทราบร่วมกัน เพื่อออกความเห็นให้รัฐบาลได้รับฟัง และรัฐบาลจะได้ปฏิบัติตาม นายอนุทิน ยังยืนยันว่ารัฐมนตรีทุกคน จะต้องมีคุณสมบัติไม่ขัดต่อกฎหมายและข้อจำกัด จะต้องทุ่มเททำงานด้วยความรู้ความสามารถ เป็นมืออาชีพ ซึ่งมีทั้งทหาร พลเรือน อส. นายกองใหญ่.-314-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” โชว์ตัวว่าที่ รมต.ทีมเศรษฐกิจ ล้อมวงกินเค้กส้ม

พรรคภูมิใจไทย 6 ก.ย.- “อนุทิน” โชว์ตัว ว่าที่ 3 รมต.ทีมเศรษฐกิจป้ายแดง ล้อมวงกินเค้กส้ม “เอกนิติ” นั่งขุนคลัง เตรียมนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ชี้ปล่อยฟื้นคนละครึ่งกระแสเต็มฟีด ขณะ “สีหศักดิ์” เตรียมนั่ง รมว.กต. มั่นใจชื่อนี้นานาชาติยอมรับ รับเผือกร้อนแก้ปมชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะ “อรรถพล” อดีต CEO ปตท. นั่ง รมว.พลังงาน ทำงานได้เลยไม่ต้องรำมวย ยอมรับเก้าอี้กลาโหม ต้องมีความรู้ในวิชาชีพ ปัดตอบชิงดำ “บิ๊กป้อม-ธรรมนัส” นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อดีต ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงลอนดอน และอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ดื่มกาแฟร่วมกันที่ร้านจานิสตาร์ ชั้น 1 ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ภายหลังหารือร่วมกันที่บริเวณชั้นบน ทั้งนี้ คาดว่านายสีหศักดิ์ ถูกทาบทาม […]