ภูมิภาค 14 พ.ค. – พายุฝนกระหน่ำ จ.นครราชสีมา ต้นไม้ขนาดใหญ่หักโค่นทับรถยนต์จอดอยู่ริมถนนพังเสียหาย 2 คัน หลังคาบ้านเรือนและป้ายโฆษณาพังระเนระนาด ส่วน จ.ปทุมธานี ฝนตกหนัก ลมแรงพัดเสาไฟฟ้าแรงสูงหักโค่น 5 ต้น บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย
เวลา 19.00 น. เมื่อวานนี้ (13 พ.ค.) เกิดฝนตกหนัก ลมพายุพัดกระหน่ำรุนแรงในเขตตัวเมือง จ.นครราชสีมา มีต้นไม้ขนาดใหญ่หักโค่นหลายจุด หลังคาบ้านเรือน ป้ายโฆษณาพังระเนระนาด ที่ถนนไชยณรงค์ ประตูผี ต้นสนขนาดใหญ่สูง 20 เมตร ติดสำนักงานตำรวจภูธรภาค 3 โค่นล้มกีดขวางถนน ทับสายไฟฟ้าแรงสูงขาดเสียหาย รถยนต์ไม่สามารถสัญจรผ่านได้ ไฟดับเป็นบริเวณกว้างรัศมี 1 กิโลเมตร
จุดที่หนักที่สุดคือบริเวณถนนหน้าเรือนจำกลางนครราชสีมา ต้นไม้ขนาดใหญ่หักโค่นทับรถยนต์ที่จอดอยู่ริมทางพังเสียหาย 2 คัน เจ้าหน้าที่เทศบาลนครนครราชสีมา หน่วยกู้ภัย หน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เร่งเคลียร์ซากปรักหักพัง เพื่อเปิดเส้นทางจราจร ขณะที่เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าเร่งแก้ไขปัญหาไฟฟ้าดับ เพื่อเปิดใช้งานกระสไฟฟ้าให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว
ที่อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี เกิดเหตุฝนตกหนัก ลมแรงพัดเสาไฟฟ้าแรงสูงหักโค่น 5 ต้น บริเวณถนนทางหลวงชนบท ส่งผลให้กระแสไฟฟ้าดับ ส่วนบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากพายุฝนถล่มได้รับความเสียหาย
นายไพทูรย์ แสงสวัสดิ์ ปลัดอำเภอลำลูกกา ฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า จากการลงพื้นที่สำรวจบ้านเรือนประชาชนที่ประสบภัยจากพายุฤดูร้อน ในพื้นที่ ตำบลบึงคอไห อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี เบื้องต้นมีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายประมาณ 30 หลังคาเรือน แต่ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ซึ่งมอบหมายให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และหน่วยงาน อบต.บึงคอไห สำรวจอย่างละเอียด เพื่อยื่นเรื่องมายังอำเภอลำลูกกา เพื่อจะได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
ส่วนนี่เป็นภาพวินาทีที่กล้องวงจรปิดบริเวณชุมชนเทศบาลตำบลบ่อทอง อำเภอบ่อทอง จังหวัดชลบุรี จับภาพขณะเกิดเหตุฝนตกหนักและลมพัดรุนแรง ทำให้หลังคาสังกะสีปลิวลงมาถูกรถยนต์เก๋งที่จอดอยู่ได้รับความเสียหาย
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบที่ตำบลบ่อทอง พบว่าร้านซ่อมรถจักรยาน ร้านอาหาร และบ้านเรือน ได้รับความเสียหายกว่า 20 หลังคาเรือน นายกิตติพงศ์ กิตติคุณ นายอำเภอบ่อทอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ผู้นำชุมชน ผู้นำท้องถิ่น เข้าดูความเสียหาย โดยจะจัดเตรียมที่พักให้กับประชาชน และจะเร่งให้หน่วยงานปกครองภายในท้องถิ่นสำรวจครัวเรือน ส่วนชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบยังตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากนี้คงต้องไปอาศัยบ้านญาตินอนไปก่อน ระหว่างที่ซ่อมบ้านเรือน.-สำนักข่าวไทย