ทีเส็บซักซ้อมธุรกิจไมซ์ก่อนคลายล็อกดาวน์

กรุงเทพฯ 13 พ.ค. – ทีเส็บร่วมกับสมาคมอุตสาหกรรมไมซ์ ซักซ้อมผู้ประกอบการไมซ์ทั่วประเทศให้พร้อมก่อนรัฐบาลเริ่มปลดล็อก 


นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ เปิดเผยว่า เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางของรัฐบาลในการดูแลด้านสุขอนามัยของประชาชน และเริ่มมาตรการผ่อนปรนการดำเนินธุรกิจ ทีเส็บจับมือสมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ (ไทย) หรือ TICA สมาคมการแสดงสินค้า (ไทย) หรือ TEA สมาคมธุรกิจสร้างสรรค์การจัดงาน (EMA) และสมาคมโรงแรมไทย (THA) ร่วมพัฒนาและจัดทำแนวปฏิบัติด้านสุขอนามัยสำหรับอุตสาหกรรมไมซ์ สถานที่จัดงาน ผู้จัดงานประชุม นิทรรศการ และงานอีเวนต์ เพื่อป้องกันและควบคุมการติดเชื้อโควิด-19 และโรคติดต่ออื่น ๆ เพื่อให้ผู้ประกอบการไมซ์ภายในประเทศได้ศึกษาทำความเข้าใจ เตรียมความพร้อมในการกลับมาจัดงานไมซ์อีกครั้ง หากได้รับการผ่อนปรนให้ดำเนินกิจการได้ตามพื้นที่ที่ได้รับอนุญาต โดยยังคงมาตรการความเข้มงวดดูแลความปลอดภัยด้านสุขอนามัยของผู้ร่วมงานตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข 


โดยเน้น 5 มาตรการควบคุมหลัก ดังนี้  1.จำกัดจำนวนผู้ใช้บริการ (จำนวน 1 คนต่อพื้นที่ 2 ตารางเมตร)  2.ตรวจคัดกรองอุณหภูมิร่างกาย (ต้องมีระบบดูแล ส่งต่อ และติดตามผู้ป่วย เช่น การใช้ Application) 3.การเว้นระยะห่างในสถานประกอบการ เช่น สถานที่จัดงาน : ห้องประชุม บันไดเลื่อน ห้องน้ำ ห้องอาหาร  เป็นต้น 4.ระบบติดตามผู้ใช้บริการ (Tracking system) ในกรณีผู้ใช้บริการป่วย หลังจากมาใช้บริการในสถานประกอบการ และ 5.จัดระบบคิว โดยแยกพื้นที่รอก่อนใช้บริการ   

ทั้งนี้ แนวปฏิบัติด้านสุขอนามัยสำหรับอุตสาหกรรมไมซ์จะครอบคลุมตั้งแต่ก่อนเริ่มงาน ระหว่างงาน และหลังจบงาน โดยแนวปฏิบัติก่อนเริ่มงาน ครอบคลุมด้านการเตรียมความพร้อมของพนักงาน การจัดการเดินทางระหว่างงาน การจัดตั้งจุดคัดกรอง และการจัดทำคู่มือสื่อสารผู้เกี่ยวข้องกับงาน เช่น จำนวนคนที่รวมกลุ่มในการจัดงาน คำแนะนำและแนวทางในการทำกิจกรรมขนาดใหญ่ การจัดทำคู่มือและวีดีโอคำแนะนำการปฏิบัติตัวด้านสุขอนามัยให้กับผู้เข้าร่วมงาน การนำส่ง Self-Screening Application หรือเว็บไซต์คัดกรองตนเองให้ผู้ร่วมงานตอบกลับภายใน 24 ชั่วโมงก่อนงานเริ่ม เป็นต้น  


ส่วนแนวปฏิบัติระหว่างงาน มุ่งเน้นมาตรการด้านความปลอดภัยสาธารณสุข ตลอดจนการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาช่วยลดความเสี่ยง เช่น จัดเตรียมความพร้อมของสถานที่เพื่อลดจุดสัมผัส การทำความสะอาดในจุดสัมผัสต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ จุดลงทะเบียนและการตอบแบบสอบถามความพึงพอใจควรใช้ระบบ QR Code และกระจายให้เพียงพอต่อผู้ร่วมงานเพื่อลดความแออัด  

การจัดประชุมสัมมนา จัดแผนผังของห้องให้มีระบบอากาศถ่ายเทสะดวก จัดที่นั่งเว้นระยะห่างทางกายภาพไม่ต่ำกว่า 2 เมตร วางไมโครโฟนไว้ตามจุดต่างๆ และจัดเจ้าหน้าที่ดูแลทำความสะอาดทุกครั้งที่มีผู้ใช้งาน ในกรณีที่มีวิทยากรเดินทางข้ามจังหวัดหรือข้ามประเทศมา ต้องสร้างความมั่นใจให้ผู้เข้าอบรมด้วยการชี้แจงมาตรการควบคุมป้องกันโรคและการอำนวยความสะดวกให้แก่วิทยากรเพื่อลดความเสี่ยงในการสัมผัสเชื้อโรค เช่น บริการรถรับส่ง หรือเลือกที่พักใกล้สถานที่จัดประชุม เป็นต้น 

การจัดนิทรรศการ ควรนำเทคโนโลยีในการจองคิวล่วงหน้ามาใช้จองรอบเข้าดูนิทรรศการแต่ละบูธเพื่อลดความแออัด หรือนำเทคโนโลยีการจัดงานเสมือนจริงมาใช้งานสร้างประสบการณ์ของผู้ร่วมงานระหว่างรอคิวเข้าชมนิทรรศการ และสร้างแพลทฟอร์มออนไลน์ ให้สามารถจองหรือสั่งซื้อสินค้าภายในงานได้ทันที  ส่วนแนวปฏิบัติหลังจบงาน ผู้จัดงานต้องตรวจสอบประกาศคําสั่งและข้อกําหนดที่ได้จากรัฐและศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เรื่องการจัดทํารายงานผลการจัดงานชี้แจงต่อหน่วยงานที่อนุญาตให้จัดงาน และจัดระบบการจัดการขยะมูลฝอยให้สามารถป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคได้  

“ทีเส็บจับมือกับสมาคมโรงแรมไทยจัดทำแนวปฏิบัติด้านสุขอนามัยสำหรับอุตสาหกรรมไมซ์ เพื่อเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการไมซ์และเผยแพร่แนวปฏิบัติไปยังสมาชิกโรงแรมทั่วประเทศกว่า 1,000 แห่ง  โดยผู้ประกอบการไมซ์อื่น ๆ สามารถดาวน์โหลดแนวปฏิบัติดังกล่าวนี้ได้ที่ http://www.micecapabilities.com/mice/uploads/attachments/MICE_Hygiene_Guidelines_(Post_COVID-19).pdf” นายจิรุตถ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทอ.โต้กัมพูชาอ้างขุดพบ MK-84 ชี้ระเบิดเก่าขึ้นสนิม ยันไม่ใช่ของไทย

31 ก.ค.- โฆษกกองทัพอากาศ ยันระเบิดที่ถูกขุดพบจากกัมพูชา ไม่ใช่ของกองทัพอากาศที่ปฏิบัติกับฐานที่มั่นทางทหารของกัมพูชา ตั้งข้อสังเกตเก่า เหมือนถูกขุดจากใต้ที่พักอาศัย จากกรณีที่พบระเบิด MK-84 ที่กัมพูชาขุดขึ้น ตามที่เฟซบุ๊กของนายแฮง รัตนา เอาภาพมาลงนั้น พลอากาศโท ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ ระบุกว่า ได้มีข้อสังเกตว่า ระเบิดดังกล่าวอยู่ในสภาพเก่าและมีลักษณะคล้ายถูกขุดขึ้นมาจากใต้ที่พักอาศัยของประชาชน จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดจากปฏิบัติการทางอากาศในช่วงที่ผ่านมา ดูจากสภาพที่ขึ้นสนิมไม่ใช่ของกองทัพอากาศไทย เนื่องจากลูกระเบิดที่กองทัพอากาศใช้มีสภาพใหม่และสมบูรณ์ ไม่เป็นสนิมขนาดนั้น ดูจากเส้นรอบวงโดยประมาณและความยาวคาดว่าเป็นลูกระเบิดอากาศขนาด 2000 ปอนด์ แบบตะวันตกที่มีใช้ทั่วไปสภาพความลึก และวางขนานกับพื้น ไม่เหมือนทิ้งจากเครื่องบิน .-313 -สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” ปัดตอบเสียปราสาทตาควาย ไม่เชื่อลมปากตระกูลฮุน

กระทรวงมหาดไทย 31 ก.ค.- “ภูมิธรรม” เสียใจผู้อพยพจบชีวิตเหตุเครียดอยากกลับบ้าน ขอประเมินให้ปลอดภัยก่อน บอกไทยประสบความสำเร็จยึดดินแดนได้ ปัดตอบเสียปราสาทตาควาย ไม่เชื่อลมปาก 2 พ่อลูกตระกูลฮุน ชี้ ทหารกัมพูชา 18 นาย รุกล้ำเข้าไทยหลังประกาศหยุดยิง เตรียมส่งตัวคืน แต่อีกฝ่ายปล่อยเฟกนิวส์ จึงต้องคุมตัวสอบก่อน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการประเมินสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะนี้ประชาชนที่อยู่ในศูนย์อพยพสามารถเดินทางกลับบ้านได้แล้วหรือไม่ เนื่องจากตอนนี้พบว่ามีประชาชนฆ่าตัวตาย เพราะเครียดต่อสถานการณ์และอยากกลับบ้าน ว่าตนขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิต พร้อมยอมรับว่าเป็นความห่วงใยของรัฐบาล แม้ว่าจะอยากให้เดินทางกลับบ้านพักเลยแต่สถานการณ์ยังไม่มั่นใจ 100 % เพราะไม่รู้ว่าสิ่งที่กัมพูชาพูดสามารถเชื่อได้หรือไม่ เพราะที่ผ่านมามักบิดเบือนจากข้อเท็จจริง ซึ่งต้องรอการประเมินอีกครั้งหนึ่งก่อนว่าหากไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นก็สามารถเดินทางกลับบ้านพักได้ ขณะเดียวกันก็ต้องยอมรับว่าการที่กัมพูชาพาผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศลงพื้นที่ เป็นเพราะเขาเป็นผู้ก่อเหตุจึงมั่นใจว่าเราจะไม่ทำอะไร และเราเองก็เป็นฝ่ายถูกกระทำ เพราะฉะนั้นเราจึงไม่มั่นใจว่ากัมพูชาจะกระทำอย่างไร ส่วนไทยจะใช้มาตรการเชิงรุกทั้งด้านการทูตและด้านพื้นที่อย่างไร นายภูมิธรรม ระบุว่า ขณะนี้เราไม่ได้ด้อยไปกว่าเขา การดำเนินการต่างๆเราก็คุยกับนานาชาติอยู่เสมอ แต่ข้อสำคัญอยู่ที่หลักฐานเพราะเขาพูดไปได้เรื่อยๆ แต่เราพูดมีหลักฐานรองรับ ขณะที่ข้อเท็จจริงเรื่องปราสาทตาควายที่มีการพูดกันว่าทางกัมพูชาเข้าครอบครองตัวปราสาท แต่เราได้ครอบครองเพียงพื้นที่โดยรอบ นายภูมิธรรม กล่าวว่า หากพูดถึงในแง่การยุทธ์ การยึดคืนในพื้นที่ต่างๆ ถือว่าเราประสบความสำเร็จ ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า แล้วพื้นที่ตัวปราสาทเป็นเช่นไร […]

กต.นำผู้ช่วยทูตทหารลงพื้นที่จุดปะทะชายแดนพรุ่งนี้

31 ก.ค. – โฆษก กต. เตรียมนำผู้ช่วยทูตทหาร ลงพื้นที่จุดปะทะ พรุ่งนี้ (1 ส.ค.68) ขณะที่ ผบ.ทสส.มาเลเซีย พบแม่ทัพภาคที่ 1 และ 2 เพื่อรับฟังสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รวมถึงแนวทางการแก้ไขปัญหา นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงว่าที่ทูตสหรัฐประจำประเทศไทยคนใหม่ เตือนไทยทำสงครามกับเพื่อนบ้านจะเป็นอันตรายต่อความเป็นพันธมิตรไทย-สหรัฐ ตรวจสอบแล้วว่ามีการพูดจริง แต่เป็นการพูดในการพิจารณารับรองของกับวุฒิสภาสหรัฐ กัมพูชาเอาไปปั่นกระแส เสมือนว่าพูดโจมตีประเทศไทย ส่วนกรณีกัมพูชาเชิญผู้แทนทางทูตและผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารจาก 13 ประเทศ ลงพื้นที่จุดผ่อนปรน เรื่องนี้ไทยไม่กังวล แต่กัมพูชาควรกังวลมากว่า เพราะเป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลงหยุดยิง เพราะฉะนั้นถ้าทูตสำรวจละเอียดจริง ก็คงเห็นข้อเท็จจริง และขณะนี้กระทรวงกลาโหมของไทยกำลังประสานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และจะนำผู้ช่วยทูตทหารและสื่อมวลชนลงพื้นที่ในส่วนของไทยเหมือนกัน โดยคาดว่าจะเป็นวันศุกร์นี้ (1 ส.ค.) จะได้เห็นสถานที่ เห็นข้อเท็จจริง และเห็นพื้นที่ที่เกี่ยวกับการทำร้ายประชาชน ผบ.ทสส.มาเลเซีย พบแม่ทัพภาพ 1-2 รับทราบข้อเท็จจริง ด้าน พลเอก ดาโต๊ะ โมฮัมหมัด นิซัม จาฟฟาร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดมาเลเซีย […]

เอกอัครราชทูตชี้แจงข้อเท็จจริงยูเอ็น ปมกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง

31 ก.ค. – เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ขึ้นเวทียูเอ็น ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 ระหว่างการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศว่าด้วยการระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธีและการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ระหว่างการกล่าวถ้อยแถลง เนื่องจากกัมพูชากล่าวพาดพิงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ในเวทีดังกล่าว ไทยเข้าร่วมการประชุมโดยมีเป้าหมายร่วมกับประชาคมระหว่างประเทศในการผลักดันการแก้ปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธีผ่านแนวทางสองรัฐ.-สำนักข่าวไทย