ราชกิจจาฯ ประกาศข้อกำหนดคลายล็อกดาวน์ มีผล 1 ก.ย.นี้

กรุงเทพฯ 29 ส.ค.- เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ ประกาศข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 32) คลายล็อกดาวน์ 29 จังหวัดพื้นที่สีเเดงเข้ม มีผล 1 ก.ย.นี้


เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ ประกาศข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 32) 

  • ข้อ 1 การกำหนดระดับของพื้นที่สถานการณ์เพื่อการบังคับใช้มาตรการควบคุมแบบบูรณาการ พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (พื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัด) พื้นที่ควบคุมสูงสุด (พื้นที่สีแดง 37 จังหวัด) และพื้นที่ควบคุม (พื้นที่สีส้ม 11 จังหวัด) ให้ยังคงบังคับใช้ต่อไป
  • ข้อ 2 พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ห้ามจัดกิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่า 25 คน พื้นที่ควบคุม ห้ามจัดกิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่า 50 คน พื้นที่ควบคุม ห้ามจัดกรรมการซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่า 100 คน
  • ข้อ 3 มาตรการเตรียมความพร้อมสำหรับการบังคับใช้ในอนาคต โดยเพิ่มความระมัดระวังในการป้องกันตนเองขั้นสูงสุดตาม “มาตรการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล” (Universal Prevention for COVID – 19) ให้ผู้ประกอบการหรือผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบขององค์กรหรือหน่วยงานตรวจสอบและกำกับดูแลให้มีการปฏิบัติตาม “มาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร” (Covid Free setting) โดยให้มีการประเมินผลภายใน 1 เดือน
  • ข้อ 4 การขยายเวลาการบังคับใช้มาตรการสำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ได้แก่ การห้ามออกนอกเคหสถาน (เคอร์ฟิว) ในระหว่างเวลา 21.00 น. ถึง 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น การปฏิบัติงานนอกสถานที่ (work from home) ของส่วนราชการและเอกชนให้ดำเนินการเต็มความสามารถเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 14 วัน (จนถึงวันที่ 14 กันยายน 2564)
  • ข้อ 5 การปรับมาตรการควบคุมแบบบูรณาการสำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ได้แก่

1.โรงเรียน หรือ สถาบันการศึกษาทุกประเภทให้สามารถใช้อาคารหรือสถานที่เพื่อการจัดการเรียนการสอน การสอบ การฝึกอบรม หรือ การทำกิจกรรมใด ๆ ที่มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมากได้


2. ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม สามารถเปิดให้บริหารได้โดยให้บริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มในร้านได้ไม่เกินเวลา 20.00 น. ห้ามบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านและจำกัดจำนวนผู้นั่งบริโภคในร้าน ห้องปรับอากาศไม่เกิน 50 % ของจำนวนที่นั่งปกติ แต่หากเป็นการบริโภคในพื้นที่เปิดที่อากาศสามารถระบายถ่ายเทได้ดี เช่น ร้านอาหารขนาดเล็ก หาบเร่ แผงลอย รถเข็น ไม่เกิน 75 % ของจำนวนที่นั่งปกติ และให้บังคับมาตรการนี้กับร้านอาหารที่ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ หรือสถานประกอบการอื่นที่มีลักษณะคล้ายกันด้วย

3.สถานเสริมความงาม ร้านเสริมสวย แต่งผมหรือตัดผมให้เปิดดำเนินการได้

4.สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ หรือ สถานประกอบการนวดแผนไทย ให้เปิดบริการได้เฉพาะการให้บริการนวดเท้า


5.ตลาดนัด ให้เปิดได้ตามปกติจนถึง 20.00 น. เฉพาะการจำหน่ายสินค้าอุปโภคหรือบริโภค

6.ห้างสรรสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ หรือ สถานประกอบกิจการอื่นที่มีลักษณะคล้ายกันสามารถเปิดได้ตามเวลาปกติของสถานที่นั้นๆ จนถึงเวลา 20.00 น.

เว้นแต่กิจการหรือกิจกรรมบางประเภทที่กำหนดเงื่อนไขควบคุมการให้บริการ หรือ ให้ปิดกิจการดำเนินการไว้ก่อน ได้แก่

– ก.คลินิกเวชกรรมเสริมความงาม สถานเสริมความงาม สามารถเปิดดำเนินการและให้บริการได้ผ่านการนัดหมาย ส่วนร้านเสริมสวย แต่งผมหรือตัดผมให้เปิดบริการได้โดยผ่านการนัดหมายและจัดกัดเวลาให้บริการในร้านไม่เกินรายละ 1 ชั่วโมง

– ข.สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ หรือ สถานประกอบการนวดแผนไทยให้เปิดดำเนินการได้โดยผ่านการนัดหมายและจัดกัดเฉพาะการให้บริการนวดเท้า

– ค.สถาบันกวดวิชา โรงภาพยนตร์ สวนสนุก สวนน้ำ สระว่ายน้ำ สถานที่ออกกำลังกาย ฟิตเนส ตู้เกม เครื่องเล่นเกม ร้านเกม การจัดเลี้ยงหรือการจัดประชุม ยังคงให้ปิดการดำเนินการไว้ก่อน

7.สวนสาธารณะ ลานกีฬา สนามกีฬา สระน้ำเพื่อการกีฬา หรือ กิจกรรมทางน้ำเพื่อการสันทนาการ หรือ สระว่ายน้ำสาธารณะ หรือ สถานที่เพื่อออกกำลังกายประเภทกลางแจ้งหรือตั้งอยู่ที่เป็นพื้นที่โล่ง สนามกีฬาหรือสถานที่ออกกำลังกายประเภทในร่มที่อากาศถ่ายเทได้ดี สามารถเปิดดำเนินการได้ไม่เกินเวลา 20.00 น. และสามารถจัดการแข่งขันได้โดยไม่มีผู้ชมในสนาม

8.การเข้าใช้สนามกีฬาทุกประเภทเพื่อการฝึกซ้อมของนักกีฬาทีมชาติได้ โดยไม่มีผู้ชมในสนาม

  • ข้อ 6 การใช้เส้นทางคมนาคมเพื่อการเดินทางข้ามจังหวัดจากเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดไปยังพื้นที่อื่นสามารถกระทำได้ แต่ขอความร่วมมือเดินทางเมื่อกรณีมีเหตุจำเป็นเท่านั้น
  • ข้อ 7 การขนส่งสาธารณะ จำกัดจำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการไม่เกิน 75 % ของความจุผู้โดยสารสำหรับยยานพาหนะแต่ละประเภท
  • ข้อ 8 ในกรณี ศปก.ศบค.ได้ประเมินสถานการณ์ตามข้อกำหนดนี้แล้วเห็นว่า ควรปรับเปลี่ยนหรือขยายความมาตรการในเรื่องใดเพื่อให้เกิดความชัดเจน เหมาะสม สะดวกแก่การปฏิบัติทำให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ให้เสนอนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาสั่งการได้  ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2564 เป็นต้นไป.-สำนักข่าวไทย
ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี

ชลบุรี 26 มิ.ย. – คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท ห้างดังกลางเมืองชลบุรี ระหว่างหนีเจอตำรวจนอกเครื่องแบบ คนร้ายยิงปืนใส่ 1 นัด โดนหมวกกันน็อก ตำรวจหลบทันแย่งปืนได้ แต่คนร้ายวิ่งหลบหนี คนร้ายชายสวมเสื้อแขนยาวสีเทาดำสวมหมวกสีชมพูใส่แมสก์ปิดบังใบหน้ากางเกงขายาว ทำทีเข้ามาซื้อทองภายในร้านทอง ในห้างสรรสินค้าย่านบ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี ก่อนจะชักปืนออกมาจี้บังคับพนักงานให้หยิบ สร้อยคอทองคำรูปพรรณหนัก 10 บาท จำนวน 2 เส้น และหนัก 9 บาท จำนวน 2 เส้น ก่อนจะเอาทองใส่กระเป๋าแล้วรีบวิ่งหลบหนีออกจากห้าง ระหว่างหลบหนี มีตำรววิ่งไล่ติดตามคนร้าย และตำรวจนอกเครื่องแบบที่มาทำธุระเห็นเหตุการณ์ได้เข้าไปจับกุม แต่ถูกผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่สุดท้ายสามารถแย่งปืนจากคนร้ายเอาไว้ได้ พนักงานร้านทอง เล่าว่าตอนเกิดเหตุเป็นช่วงกำลังจัดร้านเพราะเพิ่งเปิดมีผู้ก่อเหตุสวมหมวกสีชมพู ใส่แมสก์ปิดบังใบหน้าเข้ามาขอดูทองหนัก 10 บาท จึงบอกให้ถอดหมวกและแมสก์ แต่พูดยังไม่ทันขาดคำผู้ก่อเหตุได้ชักปืนออกมาพร้อมกับจี้บังคับให้เอาทองหนัก 10 บาท มาให้สองเส้นและสร้อยคอหนัก 9 บาทอีกสองเส้น รวมเป็น 4 เส้น น้ำหนักรวม […]

ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone สอยร่วง 4 ลำโดรนไม่ทราบฝ่าย

กองทัพเรือ 26 มิ.ย.-ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone ตอบโต้โดรนไม่ทราบฝ่ายที่บินเหนือฐานชายแดนจันทบุรีช่วงต้นสัปดาห์ สอยร่วง 4 ลำ พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ ระบุถึงกรณี จนท.เฝ้าตรวจการณ์นาวิกโยธิน ใช้ Anti-Drone ตัดสัญญาณโดรน ไม่ทราบฝ่ายตก 4 ลำ ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังจันทบุรีตราด ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า โดรนไม่ทราบฝ่าย บินเหนือฐาน ชายแดนจันทบุรี ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ใช้ Anti-Drone ยิงตกไป 4 ลำ ทั้งนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลายวันแล้ว และเป็นไปตามที่ได้ชี้แจง ถึงแนวทางปฏิบัติของกองทัพเรือไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยกองทัพเรือมีมาตรการควบคุมการใช้โดรนบริเวณแนวชายแดน และแจ้งเตือนหากมีโดรนเข้ามาในเขตหวงห้ามก็จะใช้มาตรการต่อต้านโดรน.-313.-สำนักข่าวไทย

สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย. – เลขาธิการ กพฐ. สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ พร้อมตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงทันที เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์ กรณีโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ จัดอาหารมื้อเช้าให้นักเรียนเป็นข้าว พะโล้ไก่ กับไข่ต้ม 1 ใบนั้น สพฐ.ได้รับทราบเหตุและไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตามขั้นตอนโดยทันที เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วนและเกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย พร้อมทั้งให้ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวไปปฏิบัติหน้าที่ยังสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ เป็นการชั่วคราวจนกว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาด้านการบริหารภายในสถานศึกษา โดย สพฐ. จะกำกับติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ได้กำชับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกแห่งให้กำกับติดตามสถานศึกษาในสังกัดให้ดำเนินการโครงการต่างๆ ตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของนักเรียนและครูต่อไป.-417-สำนักข่าวไทย

เลื่อน! “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ลงทะเบียน 1 ก.ค.

25 มิ.ย. – เลื่อน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” 5 แสนสิทธิ์ ประชาชนเริ่มลงทะเบียน 1 ก.ค. เวลา 08.00 น. เดินทางได้ตั้งแต่ 4 ก.ค. – 31 ต.ค.68 เมื่อวานนี้ (24 มิ.ย.) นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่าครม. มีมติเห็นชอบโครงการและรายการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 110,000 ล้านบาท จากกรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท หนึ่งในนั้นคือโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง วงเงิน 1,750 ล้านบาท โดยมีการแจ้งว่า จะเริ่มเปิดลงทะเบียนให้ประชาชนเข้าร่วมโครงการ 5 แสนสิทธิ์ เที่ยงคืนที่ผ่านมา และสามารถเที่ยวได้ 1 ก.ค.เป็นต้นไป แต่ปรากฏว่า มีการแจ้งเลื่อนเมื่อคืนนี้เช่นกัน โดย ผู้ว่าการ ททท. แจ้งว่าจะเปิดลงทะเบียนวันที่ 1 กรกฎาคม เวลา 08.00 น. […]

ข่าวแนะนำ

เริ่มแล้ว! ม็อบรวมพลังแผ่นดิน ทยอยปักหลักอนุสาวรีย์ชัยฯ

กทม. 28 มิ.ย.- เริ่มแล้ว! มวลชนกลุ่มรวมพลังแผ่นดินฯ เดินเท้าเคลื่อนขบวนไปยังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อร่วมชุมนุมใหญ่ ขณะที่การจราจรเช้านี้ รถยังเคลื่อนตัวได้ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา กลุ่ม คปท. กองทัพธรรม กปปส. และมวลชนหลายร้อยคน รวมตัวกันบริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ เพื่อเตรียมเคลื่อนขบวนไปยังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยมีประชาชนจากหลายจังหวัดเข้าร่วม ต่างยกธงชาติไทย ชูป้ายข้อความเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ลาออก เวลา 08.30 น. เริ่มเคลื่อนขบวนมุ่งหน้าแยกอุรุพงษ์ จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าถนนพระราม6 เลี้ยวขวาเข้าถนนศรียุธยา ตรงเข้าแยกราชเทวี และเลี้ยวซ้ายเข้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ส่วนกำหนดการวันนี้เวลา 10.00 น. จะมีการเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญอุทิศส่วนกุศลแด่ทหารกล้า หลังจากนั้น เวลา 12.00 น. จะเปิดเวทีปราศรัย ขณะที่ช่วง 17.30-18.10 น. จะอ่านแถลงการณ์ “รวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยไทย” จากนั้นจะเป็นการปราศรัยหลักจากกลุ่มแกนนำ อาทิ นายสนธิ ลิ้มทองกุล, นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ เป็นต้น จนถึงเวลา 21.00 […]

นายกฯ บินเชียงรายตรวจน้ำท่วม ไม่กังวลม็อบขับไล่ ชี้เป็นสิทธิ

บน.6 ดอนเมือง 28 มิ.ย.- นายกฯ นำคณะตรวจน้ำท่วมเชียงราย ไม่กังวลม็อบชุมนุมขับไล่ ชี้เป็นสิทธิ ยินดีคุยด้วยสันติวิธี เช้านี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง ต.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ หลังฝนตกหนัก ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และให้กำลังใจกลุ่มชาติพันธุ์ที่ได้รับสัญชาติไทย ก่อนออกเดินทาง นายกรัฐมนตรีได้ตอบคำถามสื่อมวลชน กรณีกลุ่มรวมพลังแผ่นดิน นัดชุมนุมใหญ่ วันนี้ ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เรียกร้องให้ตนเองลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ว่า ไม่กังวล เนื่องจากมองว่าเป็นสิทธิ หากยังอยากคุยกันด้วยสันติวิธีเหมือนเดิมก็ยินดี สำหรับกำหนดการวันนี้ นายกรัฐมนตรี จะลงพื้นที่อำเภอพญาเม็งราย และวัดสันติคีรี จังหวัดเชียงราย เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วมและให้กำลังใจประชาชน พร้อมมอบถุงยังชีพให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย จากนั้นจะเดินทางไปยังอำเภอเชียงแสน ติดตามการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ โดยหารือกับเจ้าหน้าที่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ก่อนเดินทางไปพบปะและให้กำลังใจกลุ่มชาติพันธุ์ที่ได้รับสัญชาติไทยตามมติอนุมัติของกระทรวงมหาดไทย ที่โรงเรียนแม่จันวิทยาคม อำเภอแม่จัน .-สำนักข่าวไทย

เตือน “เหนือ-อีสาน” ฝนถล่ม ระวังน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก

กทม. 28 มิ.ย.- กรมอุตุฯ เตือน “เหนือ-อีสาน” เตรียมรับมือฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลและภาคตะวันออกมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือบริเวณจังหวัดเชียงรายและน่าน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมาตอนบน และตอนบนของภาคเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนบนและประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย – สำนักข่าวไทย

ฝนถล่มน้ำท่วมหลายพื้นที่ ส่งสัญญาณรับมือฤดูน้ำหลาก

เชียงราย 27 มิ.ย. – ชาวบ้านอย่างน้อย 4,000 ครอบครัวใน 5 อำเภอของเชียงราย เดือดร้อนหนักจากน้ำท่วม หลังฝนตกทั้งคืน โดยเฉพาะ อ.พญาเม็งราย วัดปริมาณฝนได้กว่า 300 มิลลิเมตร น้ำท่วมสูงเป็นวงกว้าง เจ้าหน้าที่ต้องเร่งอพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุออกจากบ้านเพื่อความปลอดภัย ล่าสุดแม้ระดับน้ำที่ท่วมหลายจุดเริ่มลดลงแล้ว แต่ยังต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง เพราะน้ำท่วมครั้งนี้เป็นเหมือนสัญญาณเตือนให้เตรียมรับมือฤดูน้ำหลากในปีนี้.-สำนักข่าวไทย