แพทย์ห่วง 6 กลุ่ม-กลุ่มอาชีพเสี่ยง “โรคจากความร้อน”

กรมการแพทย์ 12พ.ค.-แพทย์ห่วงสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย มีผลต่อการเกิดโรคจากความร้อน ทั้งลมแดด-ตะคริว โดยเฉพาะ 6 กลุ่มเสี่ยง คนทำงานกลางแจ้ง-เด็กผู้สูงอายุ-ผู้มีโรคประจำตัวฯลฯ และกลุ่มอาชีพที่ทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม ผลิตเซรามิค ทำแก้ว กระเบื้องเคลือบ ถลุงเหล็ก ทำเหมืองเปิด ฯลฯ แนะจัดให้มีน้ำเย็นให้คนงานได้ดื่มน้ำบ่อยๆ สวมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี จัดหาอุปกรณ์ป้องกันความร้อนฯลฯ


นพ.สมศักดิ์  อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์  เปิดเผยว่า จากสภาพอากาศของประเทศไทย ซึ่งทุกภูมิภาครวมทั้งกรุงเทพมหานคร มีอากาศร้อนเพิ่มสูงขึ้น จึงขอเตือนกลุ่มเสี่ยงเกิดโรคจากคลื่นความร้อนได้ง่าย ได้แก่ 1.ผู้ที่ทำงานหรือทำกิจกรรมกลางแดด เช่น ออกกำลังกาย ผู้ใช้แรงงาน ก่อสร้าง เกษตรกร  2.เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีและผู้สูงอายุ  3.ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคความดันโลหิตสูง  4.คนอ้วน 5.ผู้ที่พักผ่อนไม่เพียงพอ และ 6.ผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งโรคจากความร้อน เป็นภาวะผิดปกติในการตอบสนองของร่างกายต่อการสัมผัสความร้อนสูงกว่าปกติ  และไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ ในระดับปกติได้ 


กลุ่มอาชีพที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคจากความร้อน  ได้แก่ คนทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมที่มีแหล่งกำเนิดความร้อนจากเครื่องจักรหรือกระบวนการผลิตที่มีความร้อน เช่น โรงงานหล่อหลอมโลหะและอโลหะ โรงงานผลิตเซรามิค การถลุงเหล็ก การทำแก้ว การทำกระเบื้องเคลือบ การทำเหมืองเปิด การสำรวจแร่ น้ำมัน พนักงานดับเพลิง เป็นต้น 

สาเหตุที่ทำให้เกิดการเจ็บป่วยเนื่องจากการทำงานที่มีสภาวะแวดล้อมมีอุณหภูมิสูงกว่าปกติ คือ 1.มีอุณหภูมิและความชื้นสูง การสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง 2.สถานที่ไม่มีการระบายอากาศหรือลมพัด 3. ดื่มน้ำน้อย 4. ทำงานที่ต้องใช้พลังงานมาก 5. สวมเสื้อผ้าที่ระบายเหงื่อไม่ดี 6. ไม่เคยชินกับการทำงานในที่มีอากาศร้อนมาก่อน ดังนั้นผู้ปฏิบัติงานควรหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่จะเกิดในระหว่างปฏิบัติงานเพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้น


นพ.สมบูรณ์  ทศบวร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี กล่าวว่า การเจ็บป่วยเนื่องจากความร้อน  เกิดขึ้นเมื่อกลไกการระบายความร้อนภายในร่างกายทำงานไม่ถูกต้องตามหน้าที่ ทำงานในที่มีอากาศร้อนหรือได้รับความร้อนโดยตรง จะทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยต่างๆ เนื่องจากในภาวะที่ร่างกายมีอุณหภูมิสูงขึ้น ระบบทำงานของศูนย์ควบคุมอุณหภูมิของร่างกายทำงานผิดปกติ  ระบบการถ่ายเทความร้อนออกจากร่างกายไม่ได้ผลเกิดขึ้นได้ดังนี้ 1. ตะคริวจากความร้อน 2. อาการเหนื่อยล้าจากความร้อน ได้แก่ เหงื่อออกมาก อ่อนเพลีย ชีพจรเต้นเร็ว ปวดศีรษะ วิงเวียน ผิวหนังเปียกชื้น อาจหมดสติ 3. เป็นลมจากความร้อน มีอาการเปลี่ยนแปลงทางระบบประสาท ชักหมดสติ และอาจเสียชีวิต 

ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันการเจ็บป่วยเนื่องจากความร้อนควรปฏิบัติดังนี้ 1.อบรมให้ความรู้เกี่ยวกับอันตรายของความร้อนที่อาจทำให้เกิดการเจ็บป่วย และการป้องกันอันตรายจากความร้อน 2. จัดให้มีน้ำเย็นและกระตุ้นให้คนงานดื่มน้ำบ่อยๆ ในระหว่างทำงานที่มีอากาศร้อน อย่างน้อยครั้งละ 1 แก้วทุก 20 นาที  3. จัดให้มีช่วงเวลาพักบ่อยกว่าการทำงานในสภาพปกติ และบริเวณที่พักมีสภาพอากาศไม่ร้อน 4.สวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี 5. จัดหาอุปกรณ์ป้องกันความร้อนไม่ให้สัมผัสคนงานโดยตรง 6.หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์หรือคาแฟอีน .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

ผู้เสียหาย 70 ราย ร้องสภาทนายฯ ถูกหอพักโหดเอาเปรียบ

ผู้เสียหาย 70 คน เข้าร้องสภาทนายความช่วยเหลือ หลังถูกเจ้าของหอพัก ย่านรังสิต เอาเปรียบ ข่มขู่กักขัง-ยึดทรัพย์ ด้านนายกสภาทนายความ ตั้งคณะทำงานช่วยเหลือทางคดี ทั้งแพ่ง-อาญา เชื่อมีผู้เสียหายเพิ่มอีก

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษ 3 แพทย์ เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 ท่าน เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยว่ากล่าวตักเตือน 1 ท่าน พักใช้ใบประกอบวิชาชีพ 2 ท่าน เผยมติที่ประชุมมีความเห็น “เป็นเสียงส่วนใหญ่มาก มาก มาก”

นายกฯ มาเลเซีย ต่อสายคุย “แพทองธาร” ติดตามสถานการณ์ใต้

นายกฯ มาเลเซีย ต่อสายคุย “แพทองธาร” ติดตามสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนใต้ แสดงความพร้อมร่วมมือกับไทยเพื่อยุติความรุนแรง พร้อมใช้เวทีอาเซียนสนับสนุนความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างสมาชิกมากขึ้น