กรุงเทพฯ 7 พ.ค. – โฆษกกองทัพเรือ ระบุโรงพยาบาลจุฬาฯ แจ้งผลตรวจเมื่อเวลา 22.00 น. พลฯ สุรเดช แสงจันทร์ ไม่ติดโควิด-19 ด้านผู้ใกล้ชิดเกี่ยวข้องที่ถูกส่งไปสังเกตอาการ ที่อาคารรับรองสัตหีบ เตรียมเดินทางกลับ
พล.ร.ท.ประชาชาติ ศิริสวัสดิ์ รอง เสนาธิการ ทหารเรือ และ โฆษกกองทัพเรือ กล่าวชี้แจงว่ากรณีที่มีสื่อมวลชนหลายสำนักเผยแพร่ข่าว ว่า พลฯ สุรเดช แสงจันทร์ สังกัด ฐานทัพเรือกรุงเทพฯ ช่วยปฏิบัติราชการ กิจการร้านสวัสดิการกิองทัพเรือ ตกเป็นข่าวติดเชื้อโควิด-19 นั้น ล่าสุดวันนี้ผลตรวจครั้งที่ 3 จาก รพ.จุฬาฯ ได้ยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วไม่พบเชื้อโควิด-19 ทั้งในการตรวจเชื้อจากลำคอ ตามวิธีปกติ และการตรวจเชื้อวิธีเพิ่มเติม ด้วยการตรวจหาจากผลเลือด
โดยสาเหตุที่ต้องทำการตรวจถึง 3 ครั้ง และการขอความร่วมมือจาก รพ.จุฬาฯ ร่วมยืนยันผลตรวจด้วยนั้น สืบเนื่องจากการตรวจโรคโดยวิธีปกติ ด้วยการตรวจเชื้อในลำคอ ที่ Lap ขอ งรพ.ปิ่นเกล้าในครั้งที่ 1 และ 2 มีผลขัดแย้ง ตามหลักการวินิจฉัยจึงจำเป็นต้องทดลองนำเชื้อในลำคอไปตรวจที่ Lap รพ.ที่สอง เพื่อเทียบเคียงผล (Second opinion) และเพื่อให้ได้ผลยุติจึงมีการตรวจเพิ่มเติมอีกวิธีหนึ่ง ด้วยการนำเลือดของคนไข้ไปตรวจด้วย ว่าในกระแสเลือดคนไข้เคยมีการติดเชื้อโควิด-19 มาก่อนหรือไม่
ทั้งนี้ พลเรือเอก ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้สั่งการและมอบนโยบายเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไว้ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.63 ที่ผ่านมา ตั้งแต่การกำหนดมาตราการส่วนบุคคล มาตรการให้ปฏิบัติเป็นการส่วนรวมของหน่วย รวมไปถึงมาตราการให้ปฏิบัติเมื่อตรวจพบผู้มีอาการเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค หรือหากพบผู้มีอาการไม่เข้าเกณฑ์สอบสวนโรค ดังนั้นกองทัพเรือจึงมีแนวทางดำเนินการในเรื่องนี้อย่างชัดเจน และขอให้ทุกฝ่ายไม่ต้องวิตกกังวล เพราะการติดเชื้อโรคในสภาวะปัจจุบันอาจเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่ได้เป็นเรื่องเสียหายที่จะต้องมีการปกปิด แต่สิ่งที่ควรคำนึงถึงคือเมื่อผลตรวจทางการแพทย์ยังไม่สามารถได้ข้อยุติ สังคมจึงควรต้องให้ความเคารพต่อการไม่ละเมิดสิทธิผู้ป่วย และการนำเสนอข่าวที่อาจเกิดจากการส่งต่อข้อมูลเบื้องต้นทางสังคมออนไลน์ ก็ควรรอให้ได้ทราบความชัดเจนก่อน ซึ่งการติดเชื้อหรือไม่ติดเชื้อนั้น ไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่ ทร.จะปกปิดข้อมูล
ในเบื้องต้นต่อกรณีที่ผลตรวจครั้งที่ 1 และ 2 มีความขัดแย้ง และยังต้องรอผลตรวจยืนยันในครั้งที่3 กำลังพลที่เป็นผู้เกี่ยวข้องใกล้ชิดของ พลฯ สุรเดช ในห้วงที่ตกเป็นข่าว จึงพร้อมใจกันให้ความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการที่กองทัพเรือที่มีไว้อย่างรวดเร็ว ด้วยการเดินทางไปสังเกตอาการ ณ อาคารรับรอง สัตหีบไว้ก่อน นับเป็นการแสดงออกถึงความรับผิดชอบต่อส่วนรวม และความมีระเบียบวินัยของนักรบชาวเรือ ที่น่าจดจำและเป็นเยี่ยงอย่าง และจากนี้ก็จะเตรียมตัวเดินทางกลับเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามปกติต่อไป .- สำนักข่าวไทย