รมว.เกษตรฯ มั่นใจระบบคัดกรองไม่ซ้ำซ้อน ยืนยันจ่ายเงินทัน พ.ค. นี้

กรุงเทพฯ 7 พ.ค. – รมว.เกษตรฯ เร่งเยียวยาเกษตรกร มั่นใจจ่ายเงินทันพ.ค. นี้ พร้อมจับมือ CPF ส่งรถ Food Truck อุ่นอาหารจากใจมอบสู่ชุมชนบางกอกน้อย


นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้ผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 ในส่วนรับผิดชอบโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่า ได้ส่งข้อมูลจำนวนเกษตรกรที่พร้อมได้รับการเยียวยากลุ่มแรกถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแล้ว เพื่อดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลือรายละ 5,000 บาทเป็นเวลา 3 เดือน พร้อมย้ำว่า จะดำเนินการอย่างทั่วถึง เกษตรกรไม่ต้องกลัวรายชื่อตกหล่นหรือกังวลว่า เข้าใช้ระบบออนไลน์ไม่ได้ เนื่องจากทั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ จะใช้ระบบประมวลผลด้วยระบบคอมพิวเตอร์สำหรับการคัดกรองไม่ให้รายชื่อผู้มีสิทธิซ้ำซ้อนกัน กรณีบางรายลงทะเบียนไว้กับหลายหน่วยงาน โดยใช้เลขประจำตัวประชาชน 13 หลักสำหรับยืนยันตัวตน จากนั้นจะส่งให้กระทรวงการคลังตรวจคัดกรองไม่ให้ใช้สิทธิ์ซ้ำซ้อนกับโครงการเราไม่ทิ้งกัน มั่นใจว่า กระบวนการทั้งหมดจะไม่ล่าช้า เกษตรกรรับเงินช่วยเหลืองวดแรกได้ตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป


นอกจากนี้นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) โดย นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร(ซีอีโอ) บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด(มหาชน) หรือซีพีเอฟ ร่วมกันมอบอาหารจากรถ Food Truck ของซีพีเฟรขมาร์ท ให้แก่ชาวชุมชนบางกอกน้อย ตามโครงการ “อาหารปลอดภัยจากใจ…สู่ชุมชน” ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนด้านอาหารจากวิกฤตโควิด19 ให้แก่ประชาชนในชุมชนแออัดเขตบางกอกน้อย ณ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร

รมว. เกษตรฯ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรฯ ได้ร่วมมือกับซีพีเอฟจัดโครงการ “อาหารปลอดภัยจากใจ…สู่ชุมชน” เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในชุมชนแออัดจากผลกระทบของโควิด-19 เริ่มต้นโครงการที่ เขตบางกอกน้อย และจะขยายความช่วยเหลือไปยังเขตอื่นๆต่อไป

“กระทรวงเกษตรฯ เป็นผู้กำกับดูแลมาตรฐานการผลิตอาหารปลอดภัยของประเทศไทย จึงต้องการส่งมอบสิ่งดีๆเกี่ยวกับอาหารเพื่อช่วยบรรเทาทุกข์พี่น้องประชาชนในช่วงสถานการณ์โควิด19 ด้วย “โครงการอาหารปลอดภัยจากใจ…สู่ชุมชน” โดยร่วมกับบริษัทผู้นำด้านอาหารปลอดภัยอย่างซีพีเอฟ และในลำดับแรกนี้ ได้ทำการส่งมอบอาหารให้แก่พี่น้องในชุมชมบางกอกน้อย และจะขยายความช่วยเหลือไปยังเขตบางพลัด บางขุนเทียน บางบอน และหนองแขม ตลอดจน จ.พิจิตร และ จ.ตรัง ต่อไป” นายเฉลิมชัยกล่าว


นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร(ซีอีโอ) บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด(มหาชน) หรือซีพีเอฟ กล่าวว่า บริษัทฯ ยินดีที่ได้นำอาหารปลอดภัยของบริษัท มาแบ่งปันและบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในชุมชนต่างๆ โดยในครั้งนี้ได้นำรถ Food Truck CP Freshmart ออกมาใช้เป็นครั้งแรก ณ เขตบางกอกน้อย บนรถมีอุปกรณ์ในการอุ่นร้อน สำหรับให้ทุกท่านรับมอบอาหารและนำไปรับประทานได้ทันที โดยจะมาส่งมอบอาหารให้พี่น้องประชาชนได้อิ่มท้องในช่วงเวลายากลำบากจากสถานการณ์โควิด19 นี้เป็นระยะเวลาเขตละ 10 วัน

นายประสิทธิ์  กล่าวว่า รถ Food Truck  คันนี้สร้างขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกในการอุ่นอาหารเพื่อแจกให้กับพี่น้องคนไทยในชุมนุมต่างๆในช่วงโควิด19 ซึ่งสามารถอุ่นอาหารได้ 120 กล่องต่อครั้ง และจะช่วยรักษาคุณภาพและรสชาติความอร่อยของอาหารไว้

“อาหารที่ซีพีเอฟ นำมาเสริฟวันนี้เป็นอาหารแช่เย็นผลิตตรงจากโรงงานมี6 เมนูซึ่งจำเป็นต้องควบคุมอุณหภูมิระหว่างการขนส่งและนำมาอุ่นร้อนให้พี่น้องได้รับประทานอย่างปลอดภัย โดยซีพีเอฟ ร่วมกับกระทรวงเกษตรฯจะแจกอาหารให้กับชุมชนในเขตกรุงเทพฯจำนวน23 ครั้ง โดยจะแจกทุกวันอังคาร พฤหัสบดีและเสาร์”   นายประสิทธิ์ กล่าว

ทั้งนี้ การส่งมอบอาหารให้ประชาชนในครั้งนี้ เป็นอีกส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือประเทศชาติ ประชาชน ให้ก้าวผ่านวิกฤตไวรัสโควิด19 ไปด้วยกัน ภายใต้หลักคิด Good Corporate Citizen กล่าวคือเป็นบริษัทที่ร่วมสร้างและดูแลสังคม ควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างคุณค่าให้กับประเทศ โดยก่อนหน้านี้ ซีพีเอฟร่วมกับกองทัพภาคที่ 1 ได้มอบอาหารให้แก่ชุมชนคลองเตยไปแล้ว 8,499 ครัวเรือน

ตลอดช่วงเวลาของการรับมือสถานการณ์โควิด – 19 นอกจากความรับผิดชอบที่จะไม่หยุดสายพานการผลิตอาหารเพื่อให้ประเทศชาติและประชาชนมีอาหารอย่างเพียงพอแล้ว ซีพีเอฟยังสนับสนุนมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข โดยส่งอาหารให้แพทย์และพยาบาลในโรงพยาบาลหลายแห่งทั่วประเทศ รวมถึงการส่งอาหารให้ประชาชนที่กลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง และขยายผลไปถึงครอบครัวแพทย์-พยาบาลด้วย สะท้อนบทบาทของการเป็นบริษัทไทยผู้ร่วมต้านภัยโควิด19 อย่างจริงจังและต่อเนื่องตลอดมาจนถึงปัจจุบัน . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง เปิดแนวปะทะพื้นที่ “อานม้า-ภูมะเขือ”

30 ก.ค. – กัมพูชากลับกลอก ละเมิดข้อตกลงอีก เปิดแนวปะทะ 2 พื้นที่ “อานม้า และภูมะเขือ” ขณะที่ ทบ.เผยทหารกัมพูชาใช้ปืนเล็ก สลับระเบิดขว้าง เมื่อคืนนี้ (29 ก.ค.) กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยก่อนอีกแล้ว ละเมิดข้อตกลงถึง 2 ครั้ง โดยเปิดแนวปะทะ 2 พื้นที่ที่ อานม้า และภูมะเขือ ทบ.เปิดเผยว่า ทหารกัมพูชาใช้ปืนเล็กสลับระเบิดขว้าง โดยเมื่อเวลา 20.45 น. แหล่งข่าวฝ่ายมั่นคงรายงานว่า ช่องอานม้า มีเหตุปะทะ กัมพูชาเปิดฉากยิง หวังยึดพื้นที่ ฝ่ายไทยตอบโต้ ขณะที่ช่วงเวลา 22.19 น. พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบขั้นต้นเกิดเหตุปะทะที่ภูมะเขือ และช่องอานม้า โดยมีปืนเล็กกับระเบิดขว้างเข้ามาที่ฐานฝั่งไทย ประมาณ 30 นาที ขณะที่เพจกองทัพบก ทันกระแส โพสต์ไม่ต้องนอน ตามคาด! กัมพูชาละเมิดอีกแล้ว อานม้าปะทะภูมะเขือ […]

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสาน-กลาง-ตอ.ฝนตกหนัก กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 30 ก.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือตอนบน ภาคอีสานเหนือตอนบน ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน ตาก บึงกาฬ สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วน กทม.-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน ตาก บึงกาฬ สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามันประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบน มีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า […]

แนวป้องกันน้ำท่วมฝีมือทหารช่าง ลดความรุนแรงน้ำท่วม

เชียงราย 29 ก.ค. – น้ำจากลำน้ำสายที่ทะลักเข้าท่วมชุมชนชายแดนแม่สายที่เชียงรายลดลงแล้ว แต่ทิ้งเศษซากความเสียหายไว้จำนวนมากและทำให้ชาวแม่สายอย่างน้อย 500 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน แต่ยังถือว่าไม่หนักหนาสาหัสเหมือนน้ำท่วมใหญ่เมื่อปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งมาจากแนวป้องกันน้ำท่วมยาวเกือบ 4 กิโลเมตร จากฝีมือของทหารช่าง.-สำนักข่าวไทย

เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนาม ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 29 ก.ค.-เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนามรอบปราสาทตาเหมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ จากเหตุสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ในหลายพื้นที่ รวมทั้งบริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดที่มีการปะทะรุนแรง และก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์ที่ฝ่ายกัมพูชาพยายามยั่วยุในลักษณะต่างๆ เช่น การขึ้นมาร้องเพลง และทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ขณะที่แม่ทัพภาคที่ 2 ก็เชิญชวนให้คนไทยมาเที่ยวปราสาทตาเมือนธม โดยยืนยันว่าเป็นพื้นที่อธิปไตยไทย และได้รับความสนใจจากประชาชนจากทั่วสารทิศ ทั้งนี้ บริเวณปราสาทตาเมือนธม ถือเป็นพื้นที่แรกๆ ที่เกิดเหตุปะทะ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ด้วยเหตุว่ากัมพูชาพยายามจะเข้ามายึดพื้นที่ปราสาท ซึ่งเป็นจุดสูงได้เปรียบในเชิงจุดยุทธศาสตร์ ก่อนจะเกิดเหตุปะทะในหลายพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 และนำมาสู่การเจรจาหยุดยิงโดยรัฐบาล 2 ประเทศ เมื่อวานนี้ จนกระทั่งมีการหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างฝ่ายทหารในพื้นที่ 2 ประเทศในวันนี้ และทำให้เสียงปืนสงบลง.-313.-สำนักข่าวไทย