กลุ่ม อสม.พิษณุโลก ร้องไม่ได้เบี้ยเลี้ยงงานคัดกรองโควิด

พิษณุโลก 5 พ.ค.- กลุ่ม อสม.พิษณุโลก เรียกร้องผู้ว่าฯ ตรวจสอบกรณีไม่ได้รับเบี้ยเลี้ยงช่วงวันที่ 12-30 เม.ย. จากการปฏิบัติงานตรวจคัดกรองโควิด-19 ในชุมชน อ้างไม่สามารถเบิกเงินได้ ผิดระเบียบกรมบัญชีกลาง 


วันนี้กลุ่มเจ้าหน้าที่ อสม.พิษณุโลก ออกมาเรียกร้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ตรวจสอบกรณีไม่ได้รับเบี้ยเลี้ยงวันละ 240 บาท ระหว่างวันที่ 12-30 เม.ย. เป็นเงิน 5,040 บาท หลังได้รับคำสั่งให้ออกไปปฏิบัติงานตรวจคัดกรองโควิด-19  ในชุมชน อ้างไม่สามารถเบิกเงินได้ ผิดระเบียบกรมบัญชีกลาง วอนหน่วยงานที่รับผิดชอบแสดงความชัดเจน


นายคนาธิป นาทิพย์ ประธานอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เขตเทศบาลนครพิษณุโลก กลุ่มเจ้าหน้าที่ อสม.กว่า 100 คน นัดรวมตัวหน้าศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก เรียกร้องขอความเป็นธรรม กรณีไม่ได้รับเบี้ยเลี้ยงจากการปฏิบัติงานตรวจคัดกรองโควิด-19  ในชุมชน เดินถือป้ายไปหน้าศาลากลางจังหวัด 


นายคนาธิป เปิดเผยว่า ไปพบท่านผู้ว่าฯ แต่ผู้ว่าฯ ไม่ลงมาเจรจา จำเป็นต้องมาขอความชัดเจน ทั้งเรื่องการปฏิบัติงานวัดอุณหภูมิชาวบ้าน 1 ต่อ 100 ครัวเรือน เรื่องการเบิกค่าตอบแทนการลงเวลาตามคำสั่งจะได้หรือไม่ ค่าตอบแทนจะได้ 120 บาท หรือ 240 บาท หรือมื้อละ 50 บาท อยากได้ยินจากท่านผู้ว่าฯ เอกสารประกอบการเบิกต้องทำขึ้นมาใหม่ใช่หรือไม่ ถ้าใช่เท่ากับต้องทำเอกสารปลอมหรือไม่ เพราะงานได้เสร็จเรียบร้อยแล้ว หลักฐานคือการรายงานผ่านแอปพลิเคชัน นอกจากนี้ยังมีการให้ข่าวจากศูนย์สุขภาพที่ 2 พิษณุโลก ให้ข่าวกับเพจเอนตี้เฟคนิวส์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม แจ้งข่าวว่า อสม.พิษณุโลก ไม่ได้ค่าตอบแทนตามที่กำหนดไว้ “เป็นข่าวบิดเบือน” เป็นข่าวปลอม และยังไม่ให้ประชาชนแชร์ ไม่ส่งต่อ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบ แต่ความจริงแล้ว อสม.ไม่ได้รับค่าตอบแทน อ้างผิดระเบียบของกรมบัญชีกลาง ทำให้เกิดปัญหาเบิกจ่ายเงินให้กับกลุ่ม อสม.  

เบื้องต้น นายอธิปไตย ไกรราช ผอ.กลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพิษณุโลก เป็นตัวแทนมารับหนังสือเรียกร้องจากกลุ่ม อสม.พิษณุโลก ระบุว่า ผู้ว่าฯ รู้สึกซาบซึ้งใจและไม่มีสิ่งใดจะตอบแทนน้ำใจ อสม. ในการทำหน้าที่คัดกรองโควิด-19 สิ่งที่ราชการต้องดำเนินการเร่งด่วน คือ เบิกจ่ายค่าตอบแทนทำเป็นพิเศษเร่งด่วนจากกรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งตามระเบียบสามารถเบิกจ่ายค่าตอบแทน อสม. 1 คน วันละ 6-8 ชม. อัตราละ 120 บาท 

ทั้งนี้เกณฑ์ดังกล่าวได้รับการยืนยันและสอบทานจากหัวหน้าหน่วยตรวจสอบภายในจังหวัดพิษณุโลก ว่าดำเนินการได้ โดยให้แนบหลักฐานการทำงาน รายชื่อประชากรให้ครบถ้วนเป็นปัจจุบัน และรับรองโดยผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล และผู้ใหญ่บ้าน ยืนยันไม่มีการเบิกจ่ายซ้ำซ้อนจากแหล่งเงินอื่นๆ โดยยื่นเอกสารเบิกจ่ายโดยเร็วมายังสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพิษณุโลก. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สุดยื้อ! ด.ช.5 ขวบ น้ำหนัก 50 กก. อาหารติดคอดับ

เจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามปั๊มหัวใจเด็กชายวัย 5 ขวบ น้ำหนัก 50 กิโลกรัม อาหารติดคอ แต่สุดยื้อ เสียชีวิต ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัว

เจอร่างใต้ตึกถล่ม

เจออีก 4 ร่างใต้ซากตึกถล่มโซน C จ่อนำเครนยักษ์เปิดพื้นที่

กู้ภัยเจอ 4 ร่างผู้สูญหายตึกถล่ม โซน C รอส่งนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ เตรียมนำเครนเข้ายกแผ่นปูนขนาดใหญ่ เปิดพื้นที่มากขึ้น

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

ปิดฉาก “มอเตอร์โชว์” ครั้งที่ 46 ยอดจองพุ่ง 7.9 หมื่นคัน โต 44.8%

ยอดจองรถยนต์ในงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46” รวมทุกเซกเมนต์โตพุ่ง 44.8% หรือคิดเป็น 79,941 คัน โดยเป็น EV 65% ส่งผลให้ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยในปีนี้ยังคงอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ยอดผู้เข้าชมงานทั้งสิ้น 1.6 ล้านคน

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ควงหัวหน้าพรรคร่วม แถลงเลื่อน “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์”

นายกฯ ควงหัวหน้าพรรคร่วม แถลงเห็นตรงกันเลื่อนพิจารณาร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ออกไปก่อน หลังมีเรื่องด่วนกว่า ต้องจัดลำดับความสำคัญ แต่ไม่ถอนการพิจารณาในสภา บอกการเมืองบิดเป็นกาสิโน ลั่นผู้นำสไตล์ “แพทองธาร” พรรคร่วมต้องเห็นด้วยอย่างเต็มใจ

“คะน้า” แจ้งความเอาผิดไฮโซเก๊ หลอกจ่ายค่าแชมเปญ

“คะน้า” ดาราสาว แจ้งความตำรวจไซเบอร์ ดำเนินคดีกับอดีตแฟนหนุ่ม ข้อหาฉ้อโกง หลังหลอกให้จ่ายค่าแชมเปญ 98,000 บาท เพื่อเป็นของขวัญ

ตึกสตง.ถล่ม

เข้าสู่วันที่ 12 นำออกได้อีก 4 ร่าง ภารกิจค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.ถล่ม

หลังดีเอสไอรับคดีตึก สตง.ถล่ม เป็นคดีพิเศษ วันนี้ (8 เม.ย.) กรรมการคดีพิเศษได้ลงพื้นที่สังเกตการณ์และหารือแรงงานที่เกี่ยวข้องกับพยานหลักฐาน เพื่อใช้ในคดีกับผู้ที่เข้าข่ายกระทำความผิด ขณะที่ กทม. ยืนยันใช้แผนเดิมในการรื้อถอนอาคาร โดยวันนี้จะพยายามตัดยอดส่วนบนให้ได้ 5 เมตร เพื่อหาร่างผู้ติดอยู่ในโซน B และ C