บสย. เผย 4 เดือนแรก ปี 63 ยอดค้ำฯกว่า 50,000 ล้านบาท

กรุงเทพฯ 5 พ.ค. – บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม(บสย.) เผยผลดำเนินงานค้ำประกันสินเชื่อ มกราคม-เมษายน ขยายตัวเกินเป้า ทั้งด้านยอดค้ำประกันสินเชื่อและลูกค้า SMEs รายใหม่ พร้อมเร่งผลักดัน 2 โครงการใหม่ PGS9 วงเงิน 200,000 ล้านบาท และโครงการเพื่อรายย่อย Micro Entrepreneur ระยะที่ 4วงเงิน 50,000 ล้านบาท ช่วย SMEs ต่อเนื่อง


นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผยว่า ผลดำเนินงาน บสย. 4 เดือนแรกปี 2563 (ม.ค.-เม.ย.) ขยายตัวทั้งยอดอนุมัติค้ำประกันสินเชื่อ จำนวนลูกค้า SMEs รายใหม่ และการอนุมัติหนังสือค้ำประกันสินเชื่อ (LG) โดยมียอดอนุมัติค้ำประกันสินเชื่อ จำนวน 52,194 ล้านบาท จำนวนลูกค้า SMEs รายใหม่ จำนวน 60,644 ราย และอนุมัติหนังสือค้ำประกันสินเชื่อ จำนวน 75,389 ฉบับ (LG) ในจำนวนนี้เป็น LG จากโครงการค้ำประกันสินเชื่อ Micro Entrepreneur ระยะที่ 3  ในสัดส่วน 79%  


ผลดำเนินงาน ตั้งแต่เดือนมกราคม-เมษายน  ขยายตัวทุกมิติ ซึ่งเป็นผลจากการดำเนินการมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs 3 มาตรการ ได้แก่ 1.มาตรการ “ต่อเติม เสริมทุน SMEs สร้างไทย” สำหรับลูกค้า SMEs ที่ต้องการสินเชื่อใหม่ บสย. ยกเว้นค่าธรรมเนียมค้ำประกันสินเชื่อ 2 ปี และค้ำประกันสินเชื่อวงเงินสูงสุด 30 ล้านบาทต่อราย  2.มาตรการพักชำระค่าธรรมเนียมการค้ำประกันสินเชื่อ ระยะเวลา 12 เดือน สำหรับลูกค้าเดิมบสย. ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 อาทิ ธุรกิจท่องเที่ยว ร้านอาหาร โรงแรม และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ที่ถึงกำหนดระยะเวลาค่าธรรมเนียมค้ำประกันสินเชื่อ ตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ – 31 กรกฎาคม 2563  3.มาตรการขยายระยะเวลาการค้ำประกันโครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGS5-7 ซึ่ง บสย. ได้ขยายระยะเวลาค้ำประกันสินเชื่อออกไปอีก 5 ปี และฟรีค่าธรรมเนียม 

ทั้ง 3 มาตรการดังกล่าว มีส่วนสำคัญในการส่งเสริมและผลักดันให้สถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อให้ผู้ประกอบการ SMEs ด้วยความมั่นใจ โดยเฉพาะการค้ำประกันสินเชื่อผ่านโครงการ Portfolio GuaranteeScheme ระยะที่ 8 (PGS8) เดือน ม.ค.-เม.ย. คิดเป็นยอดอนุมัติค้ำประกันสินเชื่อ 43,591 ล้านบาท 

สำหรับแผนงานและการดำเนินมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ไตรมาส 2  บสย. ได้เตรียมโครงการความช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs เพิ่มเติมอีก 2 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการค้ำประกันสินเชื่อ Portfolio Guarantee Scheme (PGS) ระยะที่9 วงเงิน 200,000 ล้านบาท  2.โครงการค้ำประกันสินเชื่อ  Micro Entrepreneur ระยะที่ 4 วงเงิน 50,000 ล้านบาท เพื่อช่วยผู้ประกอบการ SMEs ร่วมกันฝ่าวิกฤตCOVID-19 ให้เข้าถึงสินเชื่อได้มากขึ้นรวมทั้งการสร้างระบบหมุนเวียนทางเศรษฐกิจของประเทศไทย . – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร