เปิดข้อมูลยา “เรมเดซิเวียร์” สู้โควิด-19

กรุงเทพฯ 2 พ.ค. – ปัจจุบันยังไม่มียาชนิดใดรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ได้ นอกจากให้ยารักษาตามอาการ ล่าสุดมียาอีกหนึ่งชนิด คือ เรมเดซิเวียร์ ซึ่งขณะนี้สหรัฐอเมริกานำมาใช้ หลังมีผลการวิจัยทางคลินิกเบื้องต้นพบว่าได้ผลดี ลดการนอนโรงพยาบาลได้ 


ยาเรมเดซิเวียร์ คือ ยาชนิดล่าสุดที่สำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (เอฟดีเอ) อนุมัติเป็นกรณีฉุกเฉินให้นำมาใช้รักษาผู้ป่วยโควิด-19 ในสหรัฐอเมริกาได้ หลังมีผลการวิจัยทางคลินิกเบื้องต้น โดยสถาบันโรคติดต่อและโรคภูมิแพ้แห่งชาติสหรัฐ ระบุว่า ประสิทธิภาพการรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นที่น่าพอใจ 


ยาเรมเดซิเวียร์ ผลิตและพัฒนาโดยบริษัทยาของสหรัฐอเมริกา เพื่อนำไปใช้ทดลองรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้ออีโบลา ยาตัวนี้มีลักษณะเป็นยาฉีด โดยหลักการทำงานของยาจะช่วยขัดขวางการเพิ่มจำนวนของไวรัส แต่เมื่อการทดลองในผู้ป่วยอีโบลาไม่สำเร็จ จึงนำมาทดลองทางคลินิกในผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 กว่า 1,000 คน และพบว่า ผู้ป่วยที่รักษาด้วยการใช้ยาเรมเดซิเวียร์ เวลารักษาพยาบาลจะสั้นกว่าผู้ป่วยที่ได้รับยาหลอกประมาณ 4 วัน 


ผลการศึกษาเบื้องต้นยังพบอีกว่า การใช้ยาชนิดนี้ ทำให้อัตราการเสียชีวิตลดลง 8% ส่วนยาหลอก อัตราการเสียชีวิตลดลง 11.6% แม้จะมีรายงานเบื้องต้นทางคลินิก ผลเป็นที่พอใจ กลายเป็นอีกหนึ่งความหวังใหม่ของการรักษาผู้ติดเชื้อ แต่ที่ปรึกษากรมควบคุมโรค และกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า นี่เป็นเพียงการทดลองเบื้องต้นเท่านั้น และต้องมีกระบวนการทดลองอีกหลายขั้นตอน ซึ่งปัจจุบันมีการศึกษาวิจัยในหลายประเทศ ทั้งที่สหรัฐอเมริกา ยุโรป แต่การทดลองในจีนไม่ได้ผล ส่วนประเทศไทยจะมีโอกาสได้ใช้ยาเรมเดซิเวียร์หรือไม่ ขึ้นอยู่กับการจดทะเบียนยา และเมื่อมีการขึ้นทะเบียนทั่วโลก ก็สามารถซื้อได้

ปัจจุบันยังไม่มียาที่สามารถรักษาโรคโควิด-19 ได้ ยาที่หลายประเทศนำมาใช้รักษาผู้ป่วย จึงเป็นยาที่มีหลักฐานทางการแพทย์น่าเชื่อว่าจะมีประโยชน์มาใช้รักษา ควบคู่ไปกับการเก็บข้อมูล เช่น ยาคลอโรควิน, ยาต้าน HIV สูตรโลพินาเวียร์ และริโทนาเวียร์, ยาฟาวิพิราเวียร์ และล่าสุดคือ ยาเรมเดซิเวียร์ ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นยาที่ยังไม่ผ่านการรับรอง แต่สำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (เอฟดีเอ) เพิ่งอนุมัติให้ใช้เป็นกรณีฉุกเฉินในโรงพยาบาล 27 มลรัฐของสหรัฐอเมริกา หลังมีข้อมูลทางวิชาการระบุว่า ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพในการรักษา โดยมีเงื่อนไขสำคัญ ผู้ป่วยที่จะรับยาชนิดนี้ต้องเจาะเลือด ตรวจหาเอนไซม์ตับทุกวัน พิจารณาว่าควรใช้ยาเรมเดซิเวียร์หรือไม่ เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ฆ่าควักหัวใจ

รวบชายชาวจีนฆ่าโหดคู่ขา กรีดหน้าอก ควักหัวใจ-ปอด

ตำรวจรวบชายชาวจีน ก่อเหตุสะเทือนขวัญฆ่าขู่ขาหมกห้องน้ำอพาร์ตเมนต์ กลางเมืองพัทยา พบร่องรอยถูกกรีดหน้าอก ควักหัวใจ ปอดหายไปข้างหนึ่ง

อุทาหรณ์! จอดรถยนต์ติดเครื่องไว้ เจอขโมยขับหนีหาย

อากาศร้อนเป็นเหตุ หนุ่มสตาร์ทเครื่องเปิดแอร์รถยนต์จอดไว้ ก่อนลงไปซื้อของ เดินออกมาอีกที เจอคนขโมยรถ ขับหนีหายไปแล้ว

ดับแล้ว 8 ราย รถชนบนมอเตอร์เวย์ อัดก๊อปปี้พังยับ

เกิดอุบัติเหตุใหญ่ช่วงกลางดึก บนมอเตอร์เวย์ สาย 7 มุ่งหน้าชลบุรี รถเทรลเลอร์ 2 คัน กับเอสยูวีอีก 1 คัน คนในรถเอสยูวี เสียชีวิต 8 ราย

ข่าวแนะนำ

พายุลูกเห็บถล่มโคราช

โคราชอ่วม พายุลูกเห็บพัดถล่มรุนแรง “พิมาย-ประทาย” กองน้ำแข็งขาวโพลน ต้นไม้โค่นล้มหลายจุด ชาวบ้านบอกไม่เคยเจอพายุลูกเห็บหนักขนาดนี้มาก่อน

ล่าโจรชิงทอง 30 เส้น กลางห้างฯ อุดรธานี

อุกอาจกลางห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี คนร้ายสวมเสื้อไรเดอร์ ใส่หมวกกันน็อก ควงปืนปลอมบุกเดี่ยวจี้ชิงทองคำภายในร้านทอง ได้ไปถึง 30 เส้น ตำรวจเร่งตามล่าตัว

หนุ่มจีนฆ่าโหดคู่ขา อ้าง “อยากเล่นและแกล้งศพ”

หนุ่มจีนยอมรับฆ่าสาว LGBTQ+ เพราะถูกปฏิเสธร่วมหลับนอน และถูกถีบตกเตียง จึงโมโหแล้วบีบคอจนสิ้นใจตายคามือ ก่อนอ้าง “อยากเล่นและแกล้งศพ” เลยใช้กรรไกรกรีดหน้าอก ตัดหัวใจ คว้านซิลิโคน ออกมาไว้ข้างนอก ส่วนปอดที่หายไป ยืนยันไม่ได้แตะต้อง

เกิดเหตุระเบิดที่ท่าเรือในอิหร่าน-เสียชีวิตแล้ว 18 ราย

สื่อของทางการอิหร่านรายงานว่า เกิดเหตุระเบิดรุนแรง ที่อาจจะมีสาเหตุมาจากการระเบิดของวัสดุเคมี ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 18 ราย และบาดเจ็บมากกว่า 700 ราย โดยเหตุระเบิดเกิดขึ้นในวันเสาร์ ตามเวลาท้องถิ่น ที่ท่าเรือบันดาร์ อับบาส ท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดของอิหร่าน