นพ.ยง ระบุยา “เรมเดซิเวียร์” รักษาโควิด-19 ความหวังที่ยังต้องรอ

กทม.1 พ.ค.-“นพ.ยง” เผยยาใหม่รักษาโควิด-19 “เรมเดซิเวียร์” ยังอยู่ในระหว่างการศึกษาของบริษัทยักษ์ใหญ่ในสหรัฐ ต้องรอขึ้นทะเบียนอย่างเป็นทางการ โดยยานี้เป็นยาที่ใช้สำหรับฉีดเข้าเส้น ไม่ใช่ยารับประทาน


ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Yong Poovorawan เรื่อง ยาต้านไวรัสรักษาโควิด-19 “ยาเรมเดซิเวียร์”  ว่า ยาต้านไวรัสรักษาโควิด-19 Remdesivir ยานี้เป็นยาใหม่ ที่ยังไม่ได้ผ่านการขึ้นทะเบียนให้ใช้ในการรักษาโรค เคยมีการมารักษาโรคปอดบวมตะวันออกกลาง ยาจะไปขัดขวางการเพิ่มจำนวน RNA ของไวรัส

ยานี้เป็นยาของบริษัทยักษ์ใหญ่ของประเทศสหรัฐอเมริกา ได้มีการศึกษานำมาใช้รักษาโควิด-19 ที่มีการเผยแพร่ครั้งแรกในประเทศจีน แต่การศึกษายังไม่สมบูรณ์เพราะผู้ป่วย น้อยลง และได้มีการเผยแพร่ผลของการรักษา แบบเปรียบเทียบกับยาหลอกจำนวน 237 คน ในผู้ป่วยที่มีอาการหนัก ผลการรักษาไม่ได้แตกต่างกันอย่างมีนัยยะสำคัญ ระหว่าง Remdesivir กับยาหลอก


จากการศึกษาเพิ่งออกมาใหม่ ที่ทำในหลายประเทศ โดยมีผู้วิจัยหลักอยู่ในสหรัฐอเมริกา ทำการศึกษาเปรียบเทียบการให้ยา Remdesivir กับยาหลอกในผู้ที่ติดเชื้อโควิด 19 และมีอาการหนัก

ในจำนวน 1,063 คน พบว่าผู้ป่วยหายเร็วขึ้น และลดอัตราการตายจาก 11.6 เปอร์เซ็นต์ ลงเหลือ 8% ผู้ป่วยที่หายสามารถกลับบ้านได้เร็วกว่า ยานี้ต้องรอขึ้นทะเบียนอย่างเป็นทางการ และเป็นยาที่ใช้สำหรับฉีดเข้าเส้น ไม่ใช่ยารับประทาน

ข้อมูลต่างๆ ที่ยังเป็นความหวัง สำหรับผู้ติดเชื้อและมีอาการหนัก ยานี้ยังไม่มีใช้ในประเทศไทย ยังคงต้องรอและจะมีข้อมูลออกมาอย่างต่อเนื่องแน่นอน ถ้าเราสามารถรักษาผู้ป่วยลดอัตราการเสียชีวิต ลดอัตราการ  เป็นปอดบวมได้ ความวิตกกังวลต่างๆ ก็จะน้อยลง .-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย