กทม. 27 เม.ย. – หลายคนคงคุ้นเคยกับภาพที่ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” ลงพื้นที่ไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในยามภัยพิบัติ แต่ยามนี้ไร้ภัยธรรมชาติ แต่พี่น้องประชาชนก็เดือดร้อน จึงได้เห็นคุณบิณฑ์และชาวคณะลงไปพื้นที่ที่เดือดร้อน เบื้องหลังการทำงานกว่าจะสำเร็จไม่ใช่เรื่องง่าย เกิดจากความร่วมใจของหลายฝ่าย
เข้าสู่ช่วงสัปดาห์ที่ 3 ที่ บิณฑ์ และเอกพันธุ์ บรรลือฤทธิ์ สองพี่น้องคู่แฝดคนบันเทิง พร้อมด้วยทีมงาน เดินหน้าภารกิจลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในชุมชนแออัด ขัดสน และได้รับผลกระทบจากโควิด-19 รวมแล้วกว่า 30 ชุมชนที่ลงไปส่งต่อน้ำใจ และวันนี้ไปที่ชุมชนมาชิม เป็นชุมชนแออัดใจกลางเมืองในเขตวัฒนา
แต่กว่าที่งานของพระเอกในเรื่องนี้จะออกมาสำเร็จสวยงาม เบื้องหลังคือทีมงานหนุ่มสาวกว่า 30 ชีวิต ล่วงหน้ามาตั้งแต่ 11.00 น. เพื่อเตรียมของสิ่ง จัดสถานที่ ประสานงานกับเขต หลายคนก็ประสบปัญหาจากวิกฤติโควิด-19 จนตกงานรายได้หาย แต่ไม่เคยบ่น หรือนำมาเป็นอุปสรรคในการลงไปเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนกว่า
บ่ายโมง บิณฑ์ และเอกพันธุ์ ก็มาถึงหน้างาน โดยจะมีทีมงานคู่ใจ 6-7 คนที่คอยตามติด ถือกล้องไลฟ์ภารกิจให้ผู้คนเห็นกันทางโลกโซเชียล ส่วนเกณฑ์ในการเลือกลงไปช่วยเหลือชุมชน ทั้งคู่ก็ไม่ได้ทำเองทั้งหมด ยังมีทีมงานที่คอยตรวจสอบรับเรื่องจากผู้นำชุมชน ก่อนจะคัดเลือก และให้ทั้งคู่ตัดสินใจในขั้นสุดท้าย
แต่ที่ดูจะได้รับความสนใจจากทุกคนคือ เงินที่ถือในมือปึกใหญ่มูลค่ากว่า 500,000 บาท ที่ บิณฑ์ พกไปมอบให้ชาวบ้านคนละ 300-500 บาท ตอนนี้ใช้ไปแล้วกว่า 7 ล้านบาท ย้ำว่าเป็นเงินส่วนตัวที่ได้อานิสงส์ผลบุญจากตอนน้ำท่วมอุบลราชธานี และถึงเวลาแล้วที่ต้องนำกลับคืนสู่สังคม แม้จะยืนยันสิ่งที่ทำไปเป็นความตั้งใจ ไม่หวังผล แต่ก็ไม่วายโดนแซะกระแหนะกระแห ว่า ปลอม ทำดีสร้างภาพ ซึ่งบิณฑ์ก็ยอมรับกับเราว่า จริง!
บิณฑ์ และเอกพันธุ์ ย้ำว่า ลำพังแค่คนสองคนจะทำให้สำเร็จไม่ได้ ต้องได้รับความร่วมมือจากทีมงาน และน้ำใจจากคนไทย ยืนยันว่าตราบใดที่ยังไม่สิ้นลม จะเดินหน้าช่วยเหลือพี่น้องคนไทยที่เดือดร้อนต่อไป หวังช่วยจุดประกายกับคนที่อยากจะช่วยเหลือผู้อื่นกล้าที่จะเป็นผู้ให้ ไม่ว่าจะมากหรือน้อยนั้นไม่สำคัญเท่ากับที่ได้เริ่มลงมือทำ .- สำนักข่าวไทย