พรรคประชาธิปัตย์ 26 เม.ย.-โฆษก ปชป เห็นว่าในสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของโควิด
19 การเปิดประชุมสภาสมัยสามัญ 22 พ.ค.ไม่ถือว่าช้า
นายราเมศ รัตนะเชวง
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์
กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านยื่นขอให้มีการเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญว่า
ในเรื่องนี้โดยหลักการไม่มีความสลับซับซ้อน แต่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของรัฐบาลว่าจะเห็นถึงความเหมาะสมหรือไม่เพียงใด
เพราะรัฐบาลจะมีฐานข้อมูลในการตัดสินใจได้ดีที่สุดว่าสถานการณ์ช่วงนี้ที่อยู่ในช่วงการป้องกัน
และการช่วยเหลือประชาชนจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา หรือโควิด 19
รัฐมนตรีทุกคนก็ทุ่มเทในการแก้ปัญหาช่วยเหลือพี่น้องประชาชนกันอย่างเต็มที่
ดังนั้นการจะจัดให้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในสถานการณ์ช่วงนี้จะยากลำบากยิ่งหรือไม่
เพราะอยู่ในช่วงการเข้มงวดในมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาด และเห็นว่าระยะเวลาในการปิดประชุมสภาสมัยสามัญ
ในวันที่ 22 เม.ย. ก็เหลืออีกไม่ถึง 11เดือน จึงไม่ถือว่าช้า
และทันทีที่เปิดสมัยประชุมรัฐสภา รัฐธรรมนูญก็กำหนดไว้ชัดเจนให้คณะรัฐมนตรีเสนอพระราชกำหนดต่อรัฐสภาโดยไม่ชักช้า และเมื่อถึงเวลานำพระราชกำหนดเข้าที่ประชุม
ฝ่ายค้านก็สามารถใช้สิทธิ์แสดงเหตุและผลได้อย่างเต็มที่ว่าจะอนุมัติหรือไม่
นายราเมศ ยังกล่าวต่อว่า
ตนเข้าใจดีถึงการที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝ่ายค้านที่อยากสะท้อนความคิดเห็นในมุมต่าง
ๆ ด้วยความเป็นห่วงเป็นใย แต่ด้วยสถานการณ์ขณะนี้อาจจะไม่เอื้ออำนวยให้เปิดประชุมได้
ช่องทางที่ดีที่สุดคือฝ่ายค้านสามารถสรุปความเห็นจาก ส.ส.
ของแต่ละพรรคแล้วนำเสนอเป็นลายลักษณ์อักษร ผ่านผู้นำฝ่ายค้านเพื่อให้เสนอต่อรัฐบาล
ซึ่งรัฐบาลก็ต้องรับฟังอยู่แล้ว ก็จะเป็นช่องทางที่เกิดประโยชน์ในการระดมความเห็น และในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์นั้น
การดูแลสะท้อนปัญหาของประชาชนจากผลกระทบในสถานการณ์นี้ได้มีการนำเสนออยู่เป็นระยะผ่านรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง
โดยให้ ส.ส. สะท้อนมายังพรรคฯ พรรคฯ ส่งต่อให้รัฐมนตรีอยู่แล้ว. สำนักข่าวไทย