กรุงเทพฯ 20 เม.ย. – ทีเอ็มบี โชว์กำไรไตรมาส 1 ปีนี้อยู่ที่ 4,163 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 164 % เป็นไปตามเป้าหมาย หลังรับรู้รายได้จากธนาคารธนชาต
นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบี เปิดเผยว่า ทีเอ็มบี มีกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักสำรองฯ เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 9,862 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 91% จากไตรมาส 4/2562 และ 160% จากไตรมาส 1/2562 ตามลำดับ ซึ่งผลการดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมาย ทั้งยังมีการรับรู้รายได้จากธนาคารธนชาตเข้ามาเต็มไตรมาสหลังเสร็จสิ้นการซื้อหุ้นธนาคารธนชาตไปเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2562 ส่วนการตั้งสำรองฯ ตามมาตรฐานบัญชีใหม่ TFRS 9 อยู่ที่ 4,760 ล้านบาท ซึ่งหลังหักสำรองและภาษี ธนาคารมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 4,163 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 158% จากไตรมาสก่อนและ 164% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
นายปิติ กล่าวว่าหลังการรวมกัน ธนาคารก็ได้เริ่มปรับโครงสร้างงบดุลใหม่ในทันที โดยในส่วนของเงินฝาก มีแผนการปรับโครงสร้างด้วยการปรับลดสัดส่วนเงินฝากประจำและแทนที่ด้วยเงินฝากที่เป็นผลิตภัณฑ์หลัก เช่น เงินฝาก All Free และเงินฝาก No Fixed ซึ่งในไตรมาส 1 ก็ทำได้ตามเป้าหมายและทำให้ยอดเงินฝากรวมอยู่ที่ 1.4 ล้านล้านบาท ทรงตัวจากไตรมาสก่อนหน้า ด้านสินเชื่ออยู่ที่ 1.4 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.8% จากไตรมาสก่อน หนุนโดยกลุ่มสินเชื่อรถยนต์ สอดคล้องกับเป้าหมายของธนาคารที่เน้นเพิ่มสัดส่วนสินเชื่อรายย่อยที่มีหลักประกัน ทำให้ในปัจจุบันกว่า 90% ของพอร์ตสินเชื่อรายย่อยเป็นสินเชื่อที่มีหลักประกัน
นายปิติ กล่าวว่า ธนาคารจะเดินหน้าตามแผนรวมกิจการเพื่อให้การรวมธนาคารที่คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ในปี 2564 เป็นไปอย่างราบรื่น ที่เพิ่มเติมเข้ามาก็คือการดูแลให้ความช่วยเหลือลูกค้าเพื่อบรรเทาผลกระทบจากโควิด-19 ให้ครอบคลุมลูกค้าทุกกลุ่ม สำหรับผลกระทบต่อการดำเนินงานนั้น เชื่อว่าอุตสาหกรรมธนาคารไทยสามารถรับมือได้เพราะมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ทั้งในเรื่องของสภาพคล่องและความเพียงพอของเงินกองทุน อีกทั้งยังได้มาตรการสนับสนุนจากธนาคารแห่งประเทศไทยและกระทรวงการคลังเข้ามาช่วยหนุนให้ธนาคารมีความยืนหยุ่นในการดำเนินงานและการให้ความช่วยเหลือลูกค้าได้มากขึ้น.-สำนักข่าวไทย