ทำเนียบรัฐบาล 20 เม.ย.-โฆษก ศบค. ย้ำคนออกจากบ้านใช้ชีวิตปกติยังเสี่ยงติดเชื้อ แม้ตัวเลขจะดีขึ้น ขอให้คนส่วนใหญ่ทำงานที่บ้าน วอนผู้ใจบุญประสานหน่วยงานรัฐก่อนแจกของช่วยประชาชนป้องกันการติดเชื้อ
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวถึงกรณีตัวเลขผู้ติดเชื้อน้อยลง ว่า ไม่ใช่เพราะตรวจน้อย จากการยืนยันตัวเลขว่าตรวจเพียงแค่ 20,000 กว่าคนนั้นเป็นตัวเลขเก่า เพราะปัจจุบันสามารถตรวจได้ถึง 142,589 ตัวอย่างแล้ว ซึ่งตั้งแต่วันที่ 4-17 เมษายนที่ผ่านมา ตรวจได้ถึงวันละประมาณ 3,000 ตัวอย่าง บางวันแม้จะตรวจน้อยแต่ก็พบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก
“จะหว่านตรวจทุกคนคงไม่ได้ เพราะต้องสูญเสียงบประมาณ รวมถึงความเสี่ยงของบุคลากรทางการแพทย์จะมากขึ้น จึงออกแบบวิธีการที่จะพยายามเจาะเข้าไปถึงกลุ่มเสี่ยงจริง ๆ ช่วงเช้า(20 เม.ย.) ประชุมศบค.ทางกระทรวงสาธารณสุขมีวิธีการตรวจรูปแบบใหม่ด้วยการใช้น้ำลาย ซึ่งจะปลอดภัยและได้ผลระดับหนึ่ง และคงจะพัฒนาให้ครอบคลุมและกว้างขึ้นต่อไป” โฆษกศบค. กล่าว
ส่วนกรณีประชาชนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ จะมีความสุ่มเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของโควิด-19 หรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า เสี่ยงแน่นอน เพราะขณะนี้โรคยังไม่ได้หายไปจากโลกนี้ แต่ยังวนเวียนอยู่รอบ ๆ ตัวเรา แต่มองไม่เห็น อาจจะอยู่กับพี่น้องเราเอง แต่ไม่แสดงอาการ เราจึงต้องป้องกันตัวเอง ประเทศไทยเราซีลไว้ ไม่ให้คนติดเชื้อมาเดินในประเทศเรา
“ประเทศอื่นเขาอาจจะผ่อนคลาย เขาไม่เชื่อ เพราะมีวัฒนธรรมเสรี แต่ก็เสียชีวิตหลายหมื่น ในภาวะแบบนี้จึงต้องชั่งน้ำหนักสิ่งที่เกิดขึ้นกับสิ่งที่เสียไป แน่นอนว่า การออกมาจากบ้าน ขอให้เหลื่อมเวลาได้หรือไม่ บริษัทห้างร้านที่มีความจำเป็น ขอให้มีคนทำงานที่บ้านสัก 70 เปอร์เซ็นต์ และ 25 เปอร์เซ็นต์ทำงานในออฟฟิตได้หรือไม่ ถ้าเราดูแลกันได้หมด เชื่อว่าเราคุมได้” โฆษกศบค. กล่าว
ส่วนกรณีที่ช่วง 1-2 วันนี้ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเอาผิดคนแจกข้าวและสิ่งของต่างๆให้กับประชาชนที่เดือดร้อน นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นเช่นนั้น เชื่อว่าทุกคนมีเจตนาดี แต่หากใครอยู่ในกทม.และต้องการบริจาคหรือแจกสิ่งของช่วยเหลือให้ประสานหน่วยงานของกทม.เพื่อให้เข้าไปช่วยจัดระเบียบที่ดีได้ ยอมรับว่า การช่วยเหลือคนเป็นเรื่องที่เห็นด้วย แต่การช่วยคนต้องปลอดโรค ขอให้ประสานทางการและดูจำนวนของ จำนวนคน จัดสถานที่ที่เหมาะสม เชื่อว่าสิ่งเหล่านี้ทำได้ เพราะรัฐมีบุคลากรเพียงพอที่จะดูแลทั้งผู้ที่จะบริจาคและมารับของ
โฆษกศบค. กล่าวถึงการปล่อยข่าวปลอมว่าจะแจกสิ่งของและแจกเงินหลายแห่งว่า ทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมประชุมและติดตามเรื่องดังกล่าวแล้ว ผู้ที่ปล่อยข่าวเท็จ จะต้องถูกดำเนินคดีอย่างแน่นอน ผู้ที่ปล่อยข่าวถือว่าสร้างความหวังให้กับประชาชน แล้วถ้าคนเหล่านั้นมาแล้วติดโรค
“ขอร้องว่าอย่าเลยนะครับ ไม่ได้ประโยชน์อะไรทั้งสิ้น เชื่อว่า ภาครัฐเกือบทุกที่จัดคิวให้ เมื่อมีผู้ทุกข์ยากต้องการการรับบริจาคประทังชีพ ฝากขอบคุณทุกท่านที่เป็นผู้ใจบุญที่จะให้ แต่ผู้ให้สุขใจ ผู้รับปลอดโรค และสังคมต้องปลอดภัยด้วย” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย