กฟผ. เตรียมพร้อมรับเรือ LNG ลำที่ 2

กรุงเทพฯ 17 เม.ย. – กฟผ. เตรียมพร้อมนำเข้า LNG แบบ Spot ปริมาณ 65,000 ตัน ตามกำหนดการ 21 เม.ย. นี้ มีมาตรการเข้ม ป้องกันแพร่ระบาด COVID-19 ตั้งแต่ขบวนการ Load LNG จากหน่วยผลิต LNG  ณ ประเทศมาเลเซีย มีการตรวจคัดกรองลูกเรือและผู้เกี่ยวข้องที่ต้องเดินทางพร้อมเรือ Seri Angkasa ตามข้อกำหนดของกรมควบคุมโรคติดต่อและ มาตรฐานของสถานี PTT LNG และมาตรการคัดกรอง COVID-19


นางราณี โฆษิตวานิช ผู้ช่วยผู้ว่าการบริหารเชื้อเพลิง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมของ กฟผ. ในการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (Liquefied Natural Gas : LNG) ลำเรือที่ 2 แบบตลาดจร (Spot) ปริมาณ 65,000 ตัน จากบริษัท PETRONAS LNG ว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่เกิดขึ้นทั่วโลกขณะนี้ กฟผ. ได้ตระหนักและให้ความสำคัญพร้อมปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันแพร่ระบาด COVID-19 ของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด ซึ่งตลอดการดำเนินงานตั้งแต่การเตรียมความพร้อมตั้งแต่ต้นทาง Load LNG จนถึงวันส่งมอบ LNG  กฟผ. ได้ติดต่อประสานงานผ่านการประชุมทางไกลระบบวิดีโอ (VDO Conference) กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น บริษัท PETRONAS LNG, บริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด (PTT LNG) และ ปตท. ระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ (PTT TSO) เพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินงานจะเป็นไปตามขั้นตอนและไม่มีความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรค

สำหรับการนำเข้า LNG ลำเรือที่ 2 โดยเรือ Seri Angkasa ประเทศมาเลเซีย ซึ่งจะเดินทางมาเทียบท่าเรือ PTT LNG อ.มาบตาพุด จ.ระยอง ในวันที่ 21 เมษายน 2563 นี้ ลูกเรือและผู้เกี่ยวข้องทุกคนจะต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันหรือลดผลกระทบจาก COVID-19 ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขและข้อกำหนดของสถานี PTT LNG นอกจากนี้ กฟผ. ยังมีการตรวจสอบเอกสาร การตรวจรับ LNG ผ่านจดหมายอิเล็กทรอนิกส์หรืออีเมล์ และในขั้นตอนการ Load ก๊าซธรรมชาติเข้าระบบเพื่อนำไปผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้า กฟผ. ทีมงาน กฟผ. ทุกคนได้มีการเฝ้าติดตามการบริหารจัดการเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติผ่านโปรแกรมเรียกรับก๊าซของ PTT LNG และ PTT TSO เพื่อให้การบริหารจัดการเชื้อเพลิงเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ การนำเข้า LNG ลำเรือที่ 2 ของ กฟผ. จะถูกนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าบางปะกง ชุดที่ 5 โรงไฟฟ้าวังน้อย ชุดที่ 4 และ โรงไฟฟ้าพระนครใต้ ชุดที่ 4 ผ่านโปรแกรมเรียกรับก๊าซของ PTT LNG และ PTT TSO ตั้งแต่วันที่ 22 เมษายน 2563 เป็นต้นไป ซึ่งจะใช้เวลาส่งก๊าซจากคลัง ปตท. ไปยังแต่ละโรงไฟฟ้าเพื่อผลิตไฟฟ้ารวมแล้วเสร็จโดยประมาณ ทั้งสิ้น 13 วัน คาดว่าจะช่วยลดต้นทุนค่าเชื้อเพลิง (Ft) 0.7 สตางค์ต่อหน่วย


“อย่างไรก็ดีจากเหตุการณ์แพร่ระบาดของโรค COVID-19 กฟผ. อยู่ในระหว่างการทบทวนแผนการจัดหา LNG ในระยะกลางระหว่างปี 2563 – 2565 ซึ่งได้ผ่านมติคณะกรรมการ กฟผ. เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เห็นชอบให้จัดหา LNG แบบ Spot เพิ่มเติม เพื่อเสริมความมั่นคงในการจัดหาเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนค่าเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าของประเทศ และเกิดการแข่งขันเสรีก๊าซธรรมชาติ และคาดว่าจะสามารถนำเสนอทางด้านนโยบายเพื่อขอความเห็นชอบในลำดับถัดไป” ผู้ช่วยผู้ว่าการบริหารเชื้อเพลิง กล่าวในที่สุด . – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย