สมอ. เตรียมบังคับภาชนะและเมลามีนเป็นสินค้าควบคุม

กรุงเทพฯ 6 เม.ย. – สมอ. เตรียมบังคับให้ภาชนะและเครื่องใช้เมลามีนเป็นสินค้าควบคุม หลัง ครม. เห็นชอบเมื่อวันที่ 1 เมษายน ที่ผ่านมา คาดบังคับใช้ได้ในเดือนกันยายน 2563 นี้  ซึ่งจะมีผลให้ภาชนะเมลามีนทุกใบต้องได้มาตรฐาน 


        

นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้ภาชนะและเครื่องใช้เมลามีนเป็นสินค้าควบคุมตามที่ กระทรวงอุตสาหกรรม โดย สมอ. เสนอ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน เนื่องจากพบว่าปัจจุบันมีการนำเข้าภาชนะที่มีลักษณะใกล้เคียงกับภาชนะเมลามีนจากต่างประเทศ ซึ่งหากมีการนำไปใช้ใส่อาหารอาจมีการปนเปื้อนของสารฟอร์แมลดีไฮด์ซึ่งเป็นสารที่มีอันตรายต่อสุขภาพ ปะปนออกมาในอาหารได้ โดยเฉพาะเมื่อนำไปใส่อาหารที่มีความร้อนสูง มีไขมัน และอาหารที่มีความเป็นกรด เช่น ต้มยำ แกงส้ม เป็นต้น ทั้งนี้ มาตรฐานภาชนะเมลามีนฉบับนี้ คาดว่าจะประกาศบังคับใช้ภายในเดือนกันยายน 2563 ซึ่งจะทำให้ภาชนะเมลามีนทุกใบต้องได้มาตรฐาน มอก. และต้องแสดงเครื่องหมายมาตรฐานที่สินค้าทุกใบด้วย ทั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ได้กำชับให้ สมอ. เร่งดำเนินการให้เป็นไปตามมติ ครม. อย่างเร่งด่วนเพราะถือเป็นนโยบายที่สำคัญของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับประชาชนมาเป็นอันดับแรก


ปัจจุบัน สมอ. มีมาตรฐานภาชนะและเครื่องใช้เมลามีนแล้วจำนวน 2 มาตรฐาน คือ มาตรฐานภาชนะและเครื่องใช้เมลามีน มอก.524-2539 และมาตรฐานภาชนะและเครื่องใช้เมลามีน-ฟอร์แมลดีไฮด์ ยูเรีย-ฟอแมลดีไฮด์ และเมลามีน-ยูเรีย-ฟอร์แมลดีไฮด์ สำหรับอาหาร : เฉพาะด้านความปลอดภัย มอก. 2921 – 2562 มีผู้ประกอบการที่ได้รับใบอนุญาตแสดงเครื่องหมายมาตรฐานตาม มอก.524-2539 ซึ่งเป็นมาตรฐานทั่วไป จำนวน 4 ราย ซึ่งหากมาตรฐานใหม่ที่เป็นมาตรฐานด้านความปลอดภัยนี้มีผลบังคับใช้ ผู้ประกอบการที่ทำ และนำเข้าสินค้าดังกล่าวทุกรายจะต้องขออนุญาตจาก สมอ. ก่อน หากฝ่าฝืนจะมีความผิดตามกฎหมาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ สำหรับผู้จำหน่ายหากท่านขายสินค้าที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

เลขาธิการ สมอ. กล่าวเพิ่มเติมว่า ในขณะที่มาตรฐานด้านความปลอดภัยฉบับใหม่นี้ยังไม่มีผลบังคับใช้ ก็ขอให้ผู้บริโภคเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เมลามีนที่ได้มาตรฐานที่มีเครื่องหมาย มอก. แบบทั่วไปก่อนเพื่อความปลอดภัย ส่วนภาชนะที่ไม่ได้แสดงเครื่องหมาย มอก. ไม่แนะนำให้ใช้ เพราะผู้บริโภคไม่สามารถแยกแยะได้ด้วยตาเปล่าว่าได้มาตรฐานหรือไม่ เนื่องจากของที่มี มอก. และไม่มี มอก. มีลักษณะคล้ายกัน การพิสูจน์ต้องส่งห้องแล็ปทดสอบ ในเบื้องต้นขอแนะนำว่า หากนำภาชนะที่มีอยู่มาใช้ แล้วนำไปใส่อาหารร้อนหรืออาหารที่มีความเป็นกรด แล้วพบว่ามีความผิดปกติ เช่น ภาชนะเสียความมันเงา ผิวสาก บวม หรือขรุขระ หรือสีภาชนะซีดลง ก็ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าอาจเป็นภาชนะที่ไม่ได้มาตรฐาน มีความเสี่ยงที่จะมีสารปนเปื้อนที่เป็นอันตรายปะปนออกมาสู่อาหารได้ แนะนำว่าอย่าใช้ภาชนะดังกล่าว . – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่กู้ภัยตึก สตง.ถล่ม

นายกรัฐมนตรี เยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่กู้ภัย ค้นหาผู้สูญหายเหตุตึก สตง.ถล่ม พร้อมสอบถามถึงอุปสรรคในการทำงานและความต้องการเพิ่มเติม

ปรับวิธีรายงานยอดผู้เสียชีวิต ให้นิติเวชยืนยันก่อน

รองผู้ว่าฯ กทม. เผยยอดผู้เสียชีวิตเหตุตึกถล่ม ที่ผ่านการพิสูจน์อัตลักษณ์แล้ว อยู่ที่ 16 ราย และอยู่ระหว่างการค้นหาอีก 78 ราย พร้อมแจงปรับวิธีรายงานยอดผู้เสียชีวิต ให้นิติเวชยืนยันก่อน