“สมอ.” แจงขอ มอก. ปลอดทุจริต ตรวจสอบได้

กรุงเทพฯ​ 20 ส.ค.​ – สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) แจงประเด็น​ข้อกล่าวหา​ การขอมาตรฐานผลิตภัณฑ์​อุตสาหกรรม​ (มอก.) ล่าช้า​และ​เกิดช่องว่าง​การทุจริต​ ยืนยัน​ใช้​ระบบยื่นคำขอใบอนุญาต มอก. ผ่าน​ e-License ใช้เวลาในการออกใบอนุญาต เฉลี่ยไม่เกิน 4 วันทำการ​ โดย สมอ. จะขอข้อมูล​หลักฐาน​เพิ่ม​จากผู้​เกี่ยว​ข้องตามที่​ถูก​พาดพิง หากพบการกระทำ​ผิด จะดำเนิ​นการ​ลงโทษ​อย่าง​เด็ดขาด


นายนนทิชัย​ ลิขิตาภรณ์ ผู้​อำนวยการ​กองตรวจการมาตรฐาน​ 1 รักษา​ราชการ​แทนเลขาธิการ​สำนักงาน​มาตรฐาน​ผลิตภัณฑ์​อุตสาหกรรม​ (สมอ.)​ กล่าว​ถึง​กรณีที่มีการกล่าวพาดพิงการทำงานของ สมอ. และเผยแพร่ทางสื่อโซเชียลว่า การขออนุญาตมาตร​ฐาน​ผลิต​ภัณฑ์​อุตสาหกรรม​ (มอก.) มีขั้นตอนยุ่งยาก ใช้เวลานานจนเกิดช่องว่างในการทุจริต มีการเรียกรับสินบน จากเจ้าหน้าที่ และการเข้าตรวจโรงงานโดยไม่มีหมายค้นนั้น สมอ. ขอชี้แจงว่า ปัจจุบัน สมอ. ใช้ระบบ e-License ในการออกใบอนุญาต จะใช้ระยะเวลาเฉลี่ยในออกใบอนุญาต ไม่เกิน 4 วันทำการ เมื่อผู้ประกอบการยื่นผล การตรวจโรงงาน และผลการตรวจสอบสินค้าเข้ามาในระบบ ซึ่งผู้ขอรับใบอนุญาตและเจ้าหน้าที่ผู้พิจารณาจะไม่เจอหน้า กัน จึงสามารถป้องกันการทุจริตได้

การนำระบบอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในกระบวนการทำงานตั้งแต่ปี 2561 จนถึงปัจจุบัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน และอำนวยความสะดวกในการให้บริการแก่ผู้ประกอบการ และประชาชน โดยเฉพาะภารกิจด้านการอนุมัติหรืออนุญาต เพื่อลดโอกาสในการติดต่อกับเจ้าหน้าที่โดยตรง และปิด ช่องทางการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเรียกรับผลประโยชน์ส่วนตัว โดย สมอ. มีการพัฒนาระบบอิเล็กทรอนิกส์มาอย่าง ต่อเนื่อง ครบเต็มรูปแบบ ทุกกิจกรรม ตั้งแต่การยื่นคำขอใบอนุญาต มอก. ผ่านระบบ e-License เมื่อผู้ประกอบการ ยื่นผลการตรวจโรงงาน พร้อมผลการตรวจสอบสินค้า เข้ามาในระบบครบทั้ง 2 ส่วน ระบบจะใช้เวลาในการออกใบอนุญาต เฉลี่ยไม่เกิน 4 วันทำการ สำหรับการชำระค่าบริการของผู้ประกอบการสามารถชำระผ่านระบบ e-Payment รวมถึงการตรวจติดตามภายหลังได้รับใบอนุญาตผู้ประกอบการสามารถดำเนินการผ่านระบบ e-Surveillance ได้ ซึ่งเป็นการลด โอกาสในการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ สมอ. โดยตรง


ทั้งนี้ สมอ. ยืนยันถึงความโปร่งใส่ในการทำงาน โดยมีรางวัลการประเมิน คุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (Integrity & Transparency Assessment Awards: ITA Awards) จากสำนักงาน ป.ป.ช. เป็นเครื่องการันตี ซึ่ง สมอ. ได้คะแนนสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของกระทรวงอุตสาหกรรม จึงเป็นสิ่งตอกย้ำว่า การดำเนินงานของ สมอ. มีความโปร่งใส และเป็นธรรม สามารถตรวจสอบได้

ทั้งนี้ ​เชื่อ​ว่า การ​ที่​ถูก​กล่าวหา​ มีความเป็​นไปได้​ว่า​ เกิด​จาก​ความ​เข้มงวดตรวจสอบ​สินค้า​ที่ไม่เป็น​ไปตามมาตรฐาน​ มอก.​ ผู้ประกอบการ​บางรายที่ถูก​ตรวจสอบ​และ​มีสินค้า​ไม่ได้มาตรฐาน​จึงกล่าว​พาดพิง สมอ.

นายนนทิชัย กล่าว​ว่า​ ตั้งแต่​เดือน​กันยายน​ 2566 ​จนถึง​ปัจจุบัน​ สมอ.​ ตรวจสอบ​พบผู้ประกอบการ​ที่​ลักลอบ​นำเข้า​สินค้า​จากต่างประเทศ​และเป็​นสินค้า​ที่ไม่มี ​มอก.​ 431​ ราย​ ในจำนวน​นี้ตรวจสอบ​เบื้องต้น​จาก​ 57​ ราย ที่โฆษณา​ผ่านแพลตฟอร์ม​อีคอมเมิร์ซ​ จากนั้น​จึงขยายผล​ตรวจสอบ​พบเพิ่ม​เติม​ นอกจากนี้​ยังพบ​ว่า​ กว่า​ 50% ผู้​ประกอบการ​เป็น​ชาวต่างชาติ​ที่มาประกอบ​กิจการ​ในประเทศ​ไทย​ นอกจาก​นี้ยังพบ​ว่า​บางรายมีใบอนุญาต​ มอก.​ แต่ต่อมา​ลักลอบ​นำเข้า​สินค้า​ชนิด​เดียวกัน​ แต่​เป็น​ผลิตภัณฑ์​ที่​ไม่ได้​มาตรฐาน​


สำหรับ​กลุ่ม​สินค้า​ที่​พบว่า​ ลักลอบ​นำเข้า​และ​ไม่ได้​มาตรฐาน​มากที่สุด​ได้แก่​ เหล็ก​ ยาง​ล้อ​ เครื่อง​ใช้​ไฟฟ้า และ​โภคภัณฑ์ สมอ. ยืนยัน​ว่า การเข้าตรวจค้นสถานประกอบการโดยไม่มีหมายค้น ขอชี้แจงว่า พ.ร.บ. มาตรฐานผลิตภัณฑ์ อุตสาหกรรม พ.ศ.2511 เป็นกฎหมายเฉพาะที่ให้อำนาจกับ สมอ. ในการกำกับดูแลสินค้าที่ส่งผลต่อความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน โดยสามารถเข้าไปตรวจสถานที่ผลิต สถานที่เก็บ และสถานที่จำหน่ายสินค้าได้โดยไม่ต้องมี หมายค้น แต่ต้องแสดงบัตรพนักงานเจ้าหน้าที่ และมีผู้ประกอบการเจ้าของสถานที่ร่วมตรวจด้วยทุกครั้ง

อย่างไรก็ตาม สมอ. ได้ดำเนินการเพื่อหาข้อเท็จจริง โดยประสานกับผู้เกี่ยวข้องเพื่อขอหลักฐานเพิ่มเติม และอยู่ระหว่างการพิจารณาตรวจสอบ เพื่อให้ปรากฏข้อเท็จจริงเป็นที่ประจักษ์ต่อสังคม หากตรวจสอบแล้วพบการกระทำ ผิดจริงตามที่ถูกพาดพิง จะดำเนินการทางวินัยขั้นเด็ดขาดกับเจ้าหน้าที่ผู้กระทำความผิดโดยไม่มีข้อยกเว้น

หากมีข้อสงสัย หรือถูกเรียกรับผลประโยชน์จากเจ้าหน้าที่ สมอ. สามารถร้องเรียนได้ทาง https://www.tisi.go.th/website/ about/tisi_corruption รวมถึงทุกช่องทางการติดต่อของ สมอ. ทั้งเว็บไซต์ www.tisi.go.th เฟสบุ๊ค https://www. facebook.com/tisiofficial และติ๊กต๊อก​www.tiktok.com/@tisiofficial หรือ โทร. 02 4306815. -512​ – สำนักข่าว​ไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

รวบยกแก๊ง 4 ชาวอังกฤษขับรถชิงทรัพย์ชาวอเมริกัน

ภูเก็ต 19 ก.ย. – วานนี้มีเหตุอุกอาจกลางเมืองภูเก็ต กลุ่มชายฉกรรจ์ขับรถชนรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายก่อนลงไปชิงนาฬิกาหรู มูลค่ากว่า 2 ล้าน เช้านี้ตำรวจรวบผู้ก่อเหตุได้ครบ เชื่อวางแผนทำกันเป็นขบวนการ.-สำนักข่าวไทย

ไทยยึดหลักสากล จัดการปมบ้านหนองหญ้าแก้ว

กระทรวงการต่างประเทศ 19 ก.ย.- “อนุทิน” แจงประธานอาเชียน เหตุบ้านหนองหญ้าแก้ว ไทยยืนยันยึดหลักสากล จัดการปัญหา กัมพูชาขัดข้อตกลงหยุดยิง ใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์ ไร้มนุษยธรรม ไม่สร้างสรรค์ บิดเบือนข้อเท็จจริง พร้อมเรียกร้องกัมพูชาแสดงความจริงใจในการแก้ปัญหา นายนิกรเดช พลางกูล อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ที่มีการรื้อถอนสิ่งกีดขวางของฝ่ายไทย และมีการปะทะจนมีเจ้าหน้าที่ไทยได้รับบาดเจ็บ ซึ่งถือเป็นการทำผิดกฎหมายไทยหลายมาตรา โดยย้ำว่าที่ผ่านมาฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัดทุกประการมาโดยตลอด ข้อตกลงนี้เป็นหมุดหมายสำคัญที่จะปูทางไปสู่สันติภาพ แม้สถานการณ์สงบลง แต่กัมพูชายังยั่วยุในรูปแบบต่างๆ ซึ่งขัดข้อตกลงหยุดยิง พร้อมย้ำว่าการวางเครื่องกีดขวางเสริมความมั่นคง เป็นการดำเนินการในอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยอดกลั่น และใช้เวลาชี้แจงกับประชาชนกัมพูชา แต่ไม่เป็นผล ที่สุดเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนของไทยต้องเข้าระงับเหตุตามหลักสากล ตามหลักมนุษยชนการปลุกระดมให้ประชาชนมาเป็นโล่มนุษย์ ขัดกฎหมายระหว่างประเทศ ไร้มนุษยธรรม ขาดความรับผิดชอบ ไม่สร้างสรรค์ และไม่ยึดถือประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนเป็นที่ตั้ง นอกจากนี้ ทั้ง 2 ประเทศให้คำมั่นหยุดยิงไปแล้ว แต่กัมพูชาเลือกเส้นทางจากต่างไทยโดยสิ้นเชิง ไทยมุ่งมั่นแสวงหาสันติภาพ ซึ่งต่างจากกัมพูชาที่แสวงหาความรุนแรง การวางรั้วลวดหนามของฝ่ายไทย เป็นไปเพื่อป้องกันการปะทะ และเพื่อสร้างความปลอดภัยของประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ และเหตุความรุนแรงอาจนำไปสู่การสูญเสีย […]

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

คุณหญิงกัลยา ลาออกสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์

กทม. 19 ก.ย.-คุณหญิงกัลยา ลาออกสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ขอบคุณสำหรับโอกาสที่ผ่านมา คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ประกาศลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ โดยระบุว่า “ข้าพเจ้า คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ขอเรียนแจ้งความประสงค์ในการลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตลอดเวลาที่ผ่านมาในการที่ข้าพเจ้าได้เป็นส่วนหนึ่งของพรรค ข้าพเจ้าได้รับเกียรติและประสบการณ์อันทรงคุณค่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการที่ข้าพเจ้าได้มีโอกาสร่วมผลักดันนโยบายด้านวิทยาศาสตร์ การศึกษา และการสร้างโอกาสให้เยาวชนประสบความสำเร็จ รวมถึงการขับเคลื่อนโครงการบริหารจัดการน้ำโดยชุมชนตามแนวพระราชดำริ เพื่อแก้จน แก้หลาก และแก้แล้ง อันช่วยให้พี่น้องเกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งล้วนเป็นประสบการณ์ที่ทรงคุณค่าอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม ข้าพเจ้ายังคงมีความเชื่อมั่นว่า “การศึกษา คือรากฐานสำคัญที่สุดในการพัฒนาคนและชาติ” จึงตั้งใจจะอุทิศเวลาและความรู้ ความสามารถทั้งหมดต่อจากนี้ เพื่อพัฒนาการศึกษาไทย สร้างโอกาสที่เท่าเทียม และขับเคลื่อนการเรียนรู้สู่ความยั่งยืนต่อไป ขอขอบพระคุณพรรคประชาธิปัตย์ที่ได้มอบโอกาสและความไว้วางใจเสมอมา ข้าพเจ้าขอส่งความปรารถนาดีต่อพรรคประชาธิปัตย์ ให้ประสบความสำเร็จในภารกิจเพื่อประชาชนและประเทศชาติสืบไป”.-315.-สำนักข่าวไทย