ตม.จ่อเอาผิดผู้โพสต์เฟซบุ๊ก ด่าทอการทำงานเจ้าหน้าที่ ตม.

กรุงเทพฯ 6 เม.ย.- ตม.จ่อดำเนินคดีกับผู้โพสต์เฟซบุ๊ก ด่าทอการทำงานเจ้าหน้าที่ ตม. หลังเชิญญาติเข้ากักตัว14วันหลังเดินทางกลับจากต่างประเทศ วอนประชาชนให้เข้าใจมาตรการของรัฐบาล เพื่อความปลอดภัยของตัวท่าน ครอบครัวและส่วนรวม  


พ.ต.อ.เชิงรณ ริมผดี รองโฆษก สตม.เปิดเผย กรณีมีการเผยแพร่ภาพผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ด่าการทำงานของเจ้าหน้าที่ จากการเชิญตัวญาติที่เดินทางกลับจาก สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นแหล่งระบาดของเชื้อโควิด 19 แซงอันดับจีน เพื่อเข้ารับการทำ State Quarantine เมื่อมาถึงไทย เป็นเวลา 14 วัน โดยใช้ถ้อยคำหยาบคาย และดูถูก จนท.ตม

กรณีดังกล่าว ขอชี้แจงว่า ทางรัฐบาล ได้ประกาศใช้ข้อกำหนดตาม พรบ.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ซึ่งได้ยกระดับให้ คนไทย และ คนต่างชาติ ต้องถูกเชิญไปพักดูอาการแบบ State Quarantine ยังสถานที่ที่ทางราชการกำหนด เป็นเวลา 14 วัน แม้จะผ่านการรับรองจากสถานทูต และมีใบรับรองสุขภาพ หรือ Fit to Fly มาจากประเทศต้นทาง และ ผ่านการวัดอุณหภูมิจากควบคุมโรคมาแล้วก็ตาม เนื่องจากกระทรวงสาธารณสุขพบว่า การติดเชื้อจากคนที่เดินทางกลับจากต่างประเทศมีจำนวนตัวเลขสูง โดยเฉพาะในรายที่พยายามใช้ยาลดไข้เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจอุณหภูมิ หรือ อยู่ในภาวะพาหะนำเชื้อโดยไม่มีอาการ


ซึ่งที่ผ่านมาในช่วงคาบเกี่ยวการเพิ่มมาตรการจาก Self Quarantinr เป็น State Quarantine อาจมีข้อติดขัด จากการสื่อสาร ซึ่งได้มีการแก้ไขปัญหา โดยได้รับความร่วมมืออย่างดีจากพี่น้องคนไทย 158 ท่าน ในการกลับมารายงานตัว ครบทุกท่านเป็นอย่างดี รวมถึงพี่น้องลูกหลานคนไทยในเที่ยวบินอื่นๆที่ให้ความร่วมมือด้วยดีเช่นกัน โดยขณะนี้ ทางศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน หรือ EOC ภายใต้การบริหารสถานการณ์โดย พล.อ.ปริพัฒน์ ผลาสินธ์ รองเสนาธิการทหาร ได้ปรับระบบการทำงานเพื่อรองรับพี่น้องประชาชนคนไทย ให้ได้รับการคัดกรองที่ชัดเจนและสะดวกยิ่งขึ้น โดยทุกคนที่เดินทาง จะต้องลงนามรับทราบว่าตนยินดีที่จะเข้าทำ State Quarantine ทันทีเมื่อถึงไทยทุกราย ซึ่งที่ผ่านมา ได้ปรับการบริหารจัดการ ตั้งแต่ลงเครื่อง ผ่านการวัดอุณหภูมิจากควบคุมโรค ผ่านระบบคัดกรองเอกสารลงข้อมูลที่ Health Control ผ่าน ตม. และ ตำรวจ สภ.สุวรรณภูมิ จนท.รปภ.การท่าฯ จนท.ทหาร และ จนท.ขนส่ง จะรับตัวไปพักยังสถานที่ที่ทางราชการจัด ซึ่งจะมีการดูแลทางการแพทย์ และ สวัสดิการ ต่างๆ จนครบกำหนด โดยการพักดูอาการดังกล่าว ไม่ใช่การคุมขัง สามารถใช้โทรศัพท์ติดต่อสื่อสาร เล่นเน็ตต่างๆได้ตามปกติ

จึงวิงวอนให้ พี่น้องประชาชน ทั้งที่เดินทางมาไทย และญาติพี่น้องผู้ปกครองได้โปรดเข้าใจ บางทีอาจไม่ได้รับความสะดวกเหมือนการไปพักผ่อนตากอากาศทั่วไป แต่การที่รัฐบาลใช้มาตรการดังกล่าว ก็เพื่อความปลอดภัยของตัวผู้เดินทาง และญาติพี่น้องครอบครัวที่บ้านของท่านทุกคน

สำหรับกรณีการโพสดังกล่าว ทาง พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม รับทราบแล้ว ได้ฝากถึงสังคมได้โปรดเข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกคน ทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็น ควบคุมโรค การท่า หมอ ทหาร ตำรวจ ขนส่งหรือ ตม.ที่กำลังทำหน้าที่ที่สนามบิน ทุกคนมีความตั้งใจที่จะทำงานเพื่อสกัดกั้นการติดเชื้อให้ดีที่สุด ทุกคนมีความเสี่ยง กลับบ้านต้องแยกกิน แยกอยู่กับคนในครอบครัวทุกวัน ถึงแม้จะถูกก่นด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย ดูถูก ซึ่งอาจจะทำลายขวัญกำลังใจผู้ปฏิบัติงาน แต่เชื่อว่า จนท.ทุกคนก็ยังคงปฏิบัติหน้าที่ด้วนความทุ่มเทต่อไป ส่วนการดำเนินคดี จะมีการพิจารณาโดยฝ่ายกฏหมายต่อไป 


ที่สำคัญขอแค่เพียงสังคมให้ความร่วมมือ และอดทนต่อความไม่สะดวกในบางเรื่อง โดยให้ทุกท่านมีความปลอดภัยจากการติดเชื้อ พวก จนท ทุกคนก็ถือเป็นการให้กำลังใจให้ จนท.ทุกคนหายเหนื่อยแล้ว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อช็อก ลูกสาวเสียชีวิตเหตุเครื่องบินไถลออกนอกรันเวย์

พ่อช็อก น้ำตาคลอรู้ข่าวลูกสาวเสียชีวิตเหตุเครื่องบินเชจูแอร์ ไถลออกนอกรันเวย์ เผยเป็นลาง ลูกยื่นเงินหมื่นให้พ่อจ่ายเงินฌาปนกิจศพให้ตัวเอง

Jeju plane crashes

เปิดภาพการกู้ภัยที่สนามบินเกาหลีใต้

โซล 29 ธ.ค.- รอยเตอร์ประมวลภาพการกู้ภัยที่ท่าอากาศยานนานาชาติมูอัน ในจังหวัดช็อลลาใต้ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาหลีใต้ หลังเกิดเหตุเครื่องบินสายการบินเชจูแอร์ (Jeju Air) พยายามลงจอดโดยที่ล้อเครื่องบินไม่กางและพุ่งชนรั้วกั้นที่เป็นกำแพงคอนกรีตในเช้าวันนี้ ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้แถลงว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่ทหาร 180 นาย รถดับเพลิงและรถพยาบาลไปยังจุดเกิดเหตุแล้ว.-814.-สำนักข่าวไทย

families of South Korea plane crash passengers informed of victim list

ครอบครัวใจสลายฟังขานชื่อคนตายบนเครื่องบินเกาหลีใต้

โซล 29 ธ.ค.- ครอบครัวของผู้โดยสารเครื่องบินสายการบินเชจูแอร์ (Jeju Air) รอฟังเจ้าหน้าที่แจ้งความคืบหน้าเหตุการณ์เครื่องบินชนรั้วกั้นที่เกิดขึ้นในเช้าวันนี้ และฟังการแจ้งรายชื่อผู้เสียชีวิตด้วยหัวใจสลาย บรรยากาศที่ห้องโถงรอภายในท่าอากาศยานนานาชาติมูอันของเกาหลีใต้เต็มไปด้วยความเศร้าโศก ครอบครัวผู้เสียชีวิตบางรายร่ำไห้เสียงดังอย่างน่าสะเทือนใจ เมื่อผู้อำนวยการศูนย์สาธารณสุขเมืองมูอันประกาศรายชื่อผู้เสียชีวิต 22 คนที่ได้รับการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลจากลายนิ้วมือ ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันแล้วมีทั้งหมด 151 คน นับจนถึงเวลา 16.49 น.วันนี้ตามเวลาเกาหลีใต้ ตรงกับเวลา 14.49 น.วันนี้ตามเวลาไทย จากจำนวนคนบนเครื่องบินทั้งหมด 181 คน เป็นผู้โดยสาร 175 คน ลูกเรือ 6 คน พบผู้รอดชีวิตแล้ว 2 คน เป็นลูกเรือที่ได้รับการช่วยเหลือทันทีที่เกิดเหตุ อาการบาดเจ็บไม่ถึงชีวิต และถูกย้ายจากโรงพยาบาลท้องถิ่นไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลในกรุงโซลแล้ว เจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่เข้าร่วมการกู้ภัยเผยว่า หลังจากที่เครื่องบินชนกับรั้วกั้นที่เป็นกำแพงคอนกรีต คนบนเครื่องบินได้ถูกเหวี่ยงกระเด็นออกมา โอกาสรอดชีวิตจึงต่ำมาก ขณะที่การพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลผู้เสียชีวิตเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากเครื่องบินอยู่ในสภาพเสียหายหนัก เจ้าหน้าที่กำลังเก็บกู้ซากทั้งหมดซึ่งจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง.-814.-สำนักข่าวไทย

อลังการเคาท์ดาวน์เชียงใหม่ดึงดูดผู้คนทั่วโลก

ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ที่เชียงใหม่กลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ที่จะไปร่วมเฉลิมฉลองกันที่นั่นไม่ต่ำกว่า 3 แสนคน ซึ่งมีการจัดกิจกรรมนับถอยหลังสู่ปีใหม่ในหลายจุด โดยเฉพาะที่อุทยานหลวงราชพฤกษ์ ซึ่งเต็มไปด้วยความสวยงามของดอกไม้และแสงไฟ เรียกว่าเป็นจุดเคาท์ดาวน์ที่สวยงามทั้งกลางวันและกลางคืน

ข่าวแนะนำ

ชินวัตรกลับสู่อำนาจ

ข่าวแห่งปี 2567 : “ชินวัตร” กลับสู่อำนาจ

ปี 2567 เกิดเหตุการณ์ขึ้นหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องการเมือง เดือนสิงหาคม หลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้นายเศรษฐา ทวีสิน พ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็นำมาสู่การตั้งรัฐบาลและเปลี่ยนตัวผู้นำคนใหม่ สายเลือดตรงตระกูลชินวัตร กลับสู่อำนาจทางการเมืองอีกครั้ง

เชจูแอร์ล้อไม่กาง

เชจู แอร์ ประสบปัญหาล้อไม่กางอีกลำ

เกิดเหตุระทึกกับเที่ยวบินของสายการบินเชจู แอร์ ของเกาหลีใต้อีกลำหนึ่งจนต้องบินวกกลับสนามบินต้นทางหลังพบปัญหาที่ระบบล้อที่เพิ่งเกิดกับเที่ยวบิน กรุงเทพฯ-มูอัน และพบเป็นเครื่องบินโบอิ้ง รุ่นเดียวกัน