สหภาพ รฟท.เรียกร้องหยุดเดินรถ หลัง พขร.เสียชีวิตจากโควิด- 19

กทม. 3 เม.ย. – หลังจากพนักงานขับรถไฟเสียชีวิตจากโควิด-19 ทำให้พนักงานขับรถไฟที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ ต้องปรับตัวป้องกันตัวเองมากขึ้น ขณะที่สหภาพรัฐวิสาหกิจรถไฟเรียกร้องให้หยุดเดินรถชั่วคราว เพื่อลดความเสี่ยงให้กับพนักงาน ผู้ที่มีความเสี่ยงต้องกักตัว โดยไม่คิดวันลา เพื่อป้องกันการปกปิดข้อมูลการติดเชื้อ 


เอกสารจากนิติบุคคลของหมู่บ้านแห่งหนึ่งในอำเภอคลองหลวง จ.ปทุมธานี ส่งถึง อบต.คลองสาม แจ้งว่าสมาชิกในหมู่บ้านเสียชีวิต แพทย์ยืนยันว่าติดโควิด-19 ผู้เสียชีวิตรายนี้มีอาชีพเป็นพนักงานขับรถไฟ เมื่อตรวจสอบการทำงานย้อนหลังพบว่า ตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม ขับรถไฟเส้นทางกรุงเทพฯ-หัวหิน และเดินทางด้วยรถไฟในช่วงวันที่  และล่าสุดขับรถไฟเส้นทาง แก่งคอย-กรุงเทพฯ วันที่ 24 มีนาคม ก่อนจะกักตัวอยู่ที่บ้านและเสียชีวิตเมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่าน จึงมีการติดตามบุคคลที่ทำงานและสัมผัสใกล้ชิดกับผู้เสียชีวิต โดยเฉพาะกลุ่มพนักงานขับรถไฟและช่างเครื่อง 


พนักงานขับรถไฟ เปิดเผยว่า ต้องป้องกันตัวเองมากขึ้น แม้ในหัวรถจักรไม่ได้ใกล้ชิดกับผู้โดยสาร แต่ก็มีความเสี่ยงติดเชื้อจากเพื่อนร่วมงาน จึงต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย และใส่ถุงมือยางตลอดการเดินรถ จากเดิมที่ใช้เพียงถุงมือผ้า รวมทั้งพกแอลกอฮอล์ทำความสะอาดภายในรถ แม้ว่าก่อนออกจากสถานีต้นทางจะมีการทำความสะอาดฆ่าเชื้อทั้งขบวน 


หลังจากพบผู้โดยสารและพนักงานขับรถไฟติดโควิด-19 สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย ได้เรียกร้องให้การรถไฟกำหนดมาตรการป้องกันและลดความเสี่ยงให้กับพนักงาน โดยขอให้หยุดการเดินรถทุกเส้นทางชั่วคราว ยกเว้นขบวนสินค้าและขบวนที่จำเป็น และหากพบพนักงานกลุ่มเสี่ยงต้องกักตัวตามคำสั่งแพทย์ ต้องไม่คิดเป็นวันลา เพื่อป้องกันการปกปิดข้อมูล หากมีพนักงานเสี่ยงติดเชื้อ เพราะไม่อยากเสียสิทธิ์ที่ต้องลางาน 

มีข้อมูลว่า พนักงานที่ทำงานบนรถไฟ ทั้งในตู้โดยสารและหัวรถจักร มีความเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อโควิด-19 เนื่องจากรถไฟบางขบวนเดินทางหลายพื้นที่และมีผู้โดยสารขึ้นลงทุกสถานี เมื่อถึงปลายทางพนักงานขับรถไฟจะเข้าพักผ่อน ในสถานที่ที่มีพนักงานพักรวมจำนวนมาก หรือรันนิ่งรูม ซึ่งจะมีจุดพักตามสถานีขนาดใหญ่ระหว่างทาง 

มีข้อมูลว่า พนักงานขับรถไฟที่เสียชีวิตได้แวะพักที่สถานีหัวหินและแก่งคอย ก่อนจะทำขบวนรถในเที่ยวกลับเข้ากรุงเทพฯ ทำให้ขณะนี้มีพนักงานกลุ่มเสี่ยงที่ต้องกัดตัวติดตามอาการมากกว่า 10 ราย. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

ก.อุตฯ บุกตรวจโกดังเก็บพลาสติกไฟไหม้สมุทรสาคร

“ทีมสุดซอย” ขยายผลตรวจโรงงานรีไซเคิลพลาสติกเถื่อนสมุทรสาคร ที่เกิดเหตุไฟไหม้ พบเปลือกหุ้มสายไฟหลอมเป็นเม็ดพลาสติก มูลค่ากว่า 170 ล้านบาท อุตสาหกรรมจังหวัดฯ สั่งหยุดกิจการทันที พร้อมยึดใบอนุญาต ฟันข้อหาตั้ง-ประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต

สนาม อบจ.ภูเก็ต แข่งขันเดือด คนทยอยใช้สิทธิ

ชาวภูเก็ตทยอยเข้าคูหาเลือกตั้ง อบจ. หลายฝ่ายจับตามองเป็นพิเศษ เพราะการแข่งขันดุเดือด ขณะที่ กกต. ตั้งเป้าผู้ใช้สิทธิไม่น้อยกว่าร้อยละ 65