ออกกำลังกายในบ้านแทน หลังฟิตเนส-สวนสาธารณะปิด

สำนักข่าวไทย 3 เม.ย.-ผู้ที่ชอบออกกำลังกาย ปรับตัวรับมาตรการปิดฟิตเนส-สวนสาธารณะ หันมาออกกำลังกายในบ้านแทน หรือวิ่งรอบหมู่บ้านถนนใกล้บ้าน 


จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ส่งผลให้มีมาตรการปิดสถานออกกำลังกาย สวนสาธารณะ ป้องกันการแพร่กระจาย ทีมข่าวสำนักข่าวไทย สำรวจความคิดเห็นถึงผลกระทบต่อผู้ออกกำลังกายเป็นประจำรวมทั้งการปรับตัว 


นายสุวัฒน์ ฉัตรสง่า เจ้าของร้าน”ฉัตรรุ่งเรือง” ริมคลองหลอด และเจ้าของเพจ “สุวัฒน์คัดเรื่องเล่า” เผยว่า ตามปกติจะออกกำลังกายที่ฟิตเนสในโรงแรมย่านรัชดาภิเษกทุกเช้า โดยจะเป็นการวิ่งบนลู่และเล่นเวท แต่เมื่อเริ่มมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่มีข่าวมา ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นมา ก็ยังเดินทางไปออกกำลังกายตามปกติ แต่เพิ่มมาตรการป้องกันดูแลตนเองด้วยการใส่หน้ากากอนามัยและใช้แอลกอฮอล์เช็ดเครื่องเล่นและอุปกรณ์ทุกชิ้นที่ใช้ในการออกกำลังทั้งก่อนและหลังเพื่อเป็นการป้องกันอีกขั้นหนึ่ง 

จนกระทั่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีประกาศปิดสถานที่ที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อ ทั้งฟิตเนสและสวนสาธารณะ ตอนนี้จึงเปลี่ยนมาวิ่งออกกำลังบริเวณริมถนนในย่านใกล้บ้านแทน ถามว่ามีความอันตรายไหม มองว่าที่ออกมาวิ่งตอนเช้ารถค่อนข้างน้อย และไม่พลุกพล่านเหมือนปกติจึงทำให้การออกกำลังกายเป็นไปไม่อยากนัก แต่ที่อาจจะดูลำบากหน่อย คือต้องสวมหน้ากากอนามัยและแผ่น Face Shield ทุกครั้งที่มาวิ่งออกกำลังกายด้วย ซึ่งก็คงต้องค่อยปรับตัวกันไปตามสถานการณ์ แต่เชื่อว่าหากคนที่ชอบออกกำลังกายปรับตัวได้ก็จะสามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ


นายชาตรี ชื่นจิตร พนักงานบริษัท เผยว่าตอนนี้เปลี่ยนมาออกกำลังกายที่บ้านแทน โดยจะวิ่งรอบหมู่บ้าน ก่อนจะกลับมาเล่นเวทที่บ้าน ยอมรับต้องปรับเปลี่ยนวิธีการออกกำลังกายของตัวเอง จากปกติ จะออกกำลังกายทุกวันหลังเลิกงาน ใช้เวลาออกกำลังกายประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง แต่เมื่อต้องปรับตัวกลับมาออกกำลังกายที่บ้าน ต้องใช้ความพยายามต่อสู้กับความ  ขี้เกียจมากขึ้น 

อย่างไรก็ตามมองว่ามีข้อดี คือได้ใช้เวลาอยู่ที่บ้านประกอบกับออฟฟิศมีนโยบายให้ work from home ได้ จึงปรับตัวในเรื่องการทำงานและออกกำลังกาย โดยการกำหนดเวลาของตัวเองในแต่ละวันได้ พร้อมให้กำลังใจคนที่ชื่นชอบออกกำลังกายให้ลองปรับเปลี่ยนวิธีการออกกำลังกายอยู่ที่บ้านแทน เชื่อว่าทุกคนสามารถทำได้ไม่ยาก .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” คณะกรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

นายกฯพบสีจิ้นผิง

นายกฯ เข้าเยี่ยมคารวะ “สี จิ้นผิง”

นายกฯ เข้าเยี่ยมคารวะ “สี จิ้นผิง” ย้ำความสัมพันธ์ทางการทูตและหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ ด้านจีนหนุนไทยมีบทบาทในเวที ระดับโลกและภูมิภาค

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่แม่สอด ชี้ยังสรุปไม่ได้ หลังตัดไฟเมื่อวาน

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่แม่สอด ชี้ยังสรุปไม่ได้ หลังตัดไฟแก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ ขอทำไปประเมินไป อย่าทำให้เป็นประเด็น มองเป็นสิทธิฝั่งเมียนมาซื้อไฟฟ้าจากลาว ลั่นเดี๋ยวต้องคุยอีก ย้ำตัดไฟครั้งนี้ไม่ได้ใช้อารมณ์ รู้อยู่กระทบเศรษฐกิจบ้าง แต่แค่ 0.1%

รวบแล้วนักโทษหนีเรือนจำนนทบุรี จนมุมที่ จ.ชลบุรี

จับได้แล้วนักโทษชายหนีเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ระหว่างออกกองงานภายนอก จนมุมที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางแสน จ.ชลบุรี ก่อนนำตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนนทบุรี