ทำเนียบรัฐบาล 31 มี.ค. –ศบค.แถลงสถานการณ์โควิด-19 ประจำวัน พบผู้ป่วยใหม่ 127 ราย สะสมเพิ่มเป็น 1,651 ราย กระจายใน 61 จังหวัดทั่วประเทศ ขอบคุณเพจ “อีเจี๊ยบ เลียบด่วน” ช่วยเตือนอย่าเล่นโกหกโควิด-19 วัน April Fool’s Day พรุ่งนี้ ยังไม่ประกาศล็อกดาวน์ กทม.เพิ่มเติม ขอนายจ้างลดทำงานนอกบ้าน ลดเสี่ยงติดเชื้อ
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19 ) หรือ ศบค. แถลงว่า วันนี้ (31 มี.ค.) มีรายงานผู้ป่วยใหม่ 127 ราย รวมผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 1,651 ราย เสียชีวิตรวม 10 คน ล่าสุดผู้เสียชีวิต เป็นชายไทยอายุ 48 ปี อาชีพนักดนตรี ทำงานที่กรุงเทพฯ มีโรคประจำตัวคือเบาหวานและมะเร็ง เริ่มป่วยเมื่อวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา มีอาการไอ ไข้ หอบ เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลในภาคอีสานและส่งต่อไปยังโรงพยาบาลประจำจังหวัดพบว่ามีอาการปอดอักเสบอย่างรุนแรง จนระบบการหายใจล้มเหลวและติดเชื้อในกระแสเลือด เสียชีวิตวานนี้(30 มี.ค.) เวลา 05.00 น.
“ผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 127 ราย จำแนกเป็นผู้มีประวัติมาจากสนามมวยและสถานบันเทิง เป็นคนไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ และมี 3 ราย เป็นบุคลากรทางการแพทย์ของกระทรวงสาธารณสุข ที่มีความเชื่อมโยงกับผู้ป่วย ซึ่งจะต้องหามาตรการป้องกันต่อไป ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อสะสมของไทยกระจายไปใน 61 จังหวัดทั่วประเทศ ทั้งกรุงเทพมหานคร นนทบุรี ภูเก็ต ยะลา และสมุทรปราการ” โฆษกศบค. กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศบค. กล่าวขอบคุณประชาชน และรู้สึกซาบซึ้งใจการสร้างปรากฏการณ์การปรบมือให้กำลังใจแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ที่ดูแลผู้ป่วยเมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา และขอส่งต่อกำลังใจไปยังแพทย์และพยาบาล เพราะถือเป็นเรื่องที่ไม่ได้เห็นบ่อยนัก ซึ่งทางรัฐบาลจะจัดนำส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้ถึงมือแพทย์พยาบาลและประชาชนโดยเร็วที่สุด
โฆษกศบค. กล่าวถึงการใช้งบกลางสำหรับแก้ปัญหาโควิด-19 ว่า นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการนำงบกลางมาเพิ่มค่าตอบแทน ค่าเสี่ยงภัยให้กับบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์เป็นหลัก
ส่วนกระแสข่าวจะล็อคดาวน์กรุงเทพฯ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า วิธีการล็อกดาวน์จะใช้เฉพาะบางจุด ซึ่งขณะนี้พื้นที่กรุงเทพฯ ยังเป็นไปตามประกาศเดิม ไม่มีข้อสั่งการพิเศษเพิ่มเติมจากนายกรัฐมนตรี โดยนายกรัฐมนตรีพอใจภาพรวมหลังประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในถสากรรณ์การณ์ฉุกเฉินเกือบครบสัปดาห์ แต่ยังไม่สามารถวางใจได้ทั้งหมดอยู่ระหว่างการติดตามข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข หากตัวเลขของผู้ติดเชื้อมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น อาจต้องมีมาตรการเข้มข้นขึ้น
โฆษกศบค. กล่าวถึงกรณีทันตแพทย์พบคนไข้ที่มีประวัติไปสนามมวยปกปิดข้อมูล จนส่งผลให้บุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อ สามารถเอาผิดและลงโทษได้หรือไม่ ว่า พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อมีผลบังคับใช้ แต่ข้อย้ำว่าเป็นหน้าที่ของผู้ป่วย ญาติที่จะเปิดเผยข้อมูลให้แพทย์ได้รับทราบ แม้กฎหมายจะมีบทลงโทษ ไม่ได้ต้องการให้ประชาชนถูกจองจ หรือต้องเสียเงินค่าปรับ แต่วัตถุประสงค์ที่แท้จริงต้องการให้เปิดเผยข้อมูล เพื่อแพทย์จะเพิ่มความระมัดระวัง ป้องกันผลกระทบที่จะเกิดบุคลากรทางการแพทย์และวงกว้าง จึงต้องขอความร่วมมือประชาชนอย่าให้ต้องบังคับใช้กฎหมาย
เมื่อถามว่าบริษัทเอกชนหลายแห่ง ยังไม่ประกาศให้พนักงานหยุดงานเพื่อทำงานที่บ้าน รัฐบาลจะมีมาตรการเพิ่มเติมหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า รัฐบาลยังขอความร่วมมือนายจ้าง ผู้ประกอบการ ที่ขอให้พิจารณาผลดี ผลเสียของการนำบุคลากรมาอยู่ร่วมกับในที่ทำงานจำนวนมาก เพราะมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อ และอาจนำความเสี่ยงมาสู่ตัวนายจ้างเอง ซึ่งจะเสียหายมากกว่าเดิม เรื่องนี้จึงขอความร่วมมือผู้ประกอบการที่สามารถหาทางออกได้หลายแนวทาง ทั้งการทำงานที่บ้าน หรือเหลื่อมเวลาทำงาน
ส่วนรัฐบาลจะประกาศแจ้งเตือนประชาชนเกี่ยวกับพื้นที่เสี่ยง พื้นที่แออัด ไม่ให้เดินทางไปหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีจะมองภาพใหญ่ ส่วนรายละเอียดปลีกย่อย ผู้ว่าราชการจังหวัดจะนำข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขมาพิจารณาประกอบการตัดสินใจบนพื้นฐานของผลกระทบ และมาตรการที่จะออกมารองรับให้กับประชาชน ซึ่งถือเป็นอิสระในการตัดสินใจของผู้ว่าราชการจังหวัดจะดำเนินการ
โฆษกศบค. กล่าวขอบคุณเพจ “อีเจี๊ยบ เลียบด่วน” ที่ออกมาเตือนว่า ในวันพรุ่งนี้(1 เม.ย.) ซึ่งเป็นวัน April Fool’s Day ขอทุกคนอย่าเล่นโกหกเรื่องไวรัสโควิด-19 ซึ่งถือว่าการที่เพจดังกล่าวโพสต์เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ดีที่ประชาชนช่วยกัน .-สำนักข่าวไทย
