บุรีรัมย์แจงวิสัญญีแพทย์ติดโควิด-19 ไม่ใช่ผู้ป่วยรายใหม่

บุรีรัมย์ 25 มี.ค.- ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ ห่วงประชาชนวิตกข่าวโควิด-19 โดยเฉพาะวิสัญญีแพทย์ติดเชื้อ นำแพทย์แจงข้อเท็จจริงยันไม่ใช่ผู้ป่วยรายใหม่ เป็น 1 ใน 5 รายเดิม การสอบสวนโรคพบส่วนใหญ่ติดเชื้อมาจากนอกจังหวัด และให้ผู้สัมผัสผู้ป่วยกักตัวดูอาการอีก 40 คน


นายธัชธร หัตถาธยากูร ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อม นพ.วิทิต   สฤษฎีชัยกุล  นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด นพ.ภูวดล กิตติวัฒนาสาร  ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบุรีรัมย์ และผู้แทนจากมณฑลทหารบกที่ 26  ค่ายสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก  ร่วมแถลงที่ห้องประชุมสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีมีข่าววบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อโควิด-19 ว่า ผู้ติดเชื้อเป็นวิสัญญีแพทย์โรงพยาบาลบุรีรัมย์ แต่ไม่ใช่ผู้ป่วยรายใหม่ เป็นหนึ่งในผู้ป่วย 5 ราย ที่เคยแถลงยืนยันผลตรวจไปก่อนหน้านี้ คือ เป็นชายชาวต่างชาติ 2 ราย หญิงไทย 2 ราย และวิสัญญีแพทย์ 1 ราย การสอบสวนโรคพบว่าวิสัญญีแพทย์ดังกล่าวเดินทางออกนอกจังหวัดไปภาคใต้ กทม. และนครราชสีมา  ช่วงวันที่ 16-18 มี.ค. โดยยังไม่รู้ว่าตัวเองติดเชื้อและไปปฏิบัติงานดมยาให้กับผู้ป่วยที่มาผ่าตัดตามปกติ โดยไม่มีผู้ป่วยรายใดติดเชื้อหรืออยู่ในข่ายต้องสงสัย จากนั้นวันที่ 19  มี.ค. เริ่มมีน้ำมูก  เสียงแหบ  เจ็บคอเล็กน้อย  ไข้ต่ำ ๆ ไอมากขึ้น จึงไปพบแพทย์ที่ห้องอุบัติเหตุฉุกเฉินโรงพยาบาลบุรีรัมย์ ผลตรวจออกมาเป็นลบ และเอกซเรย์ปอดไม่พบความผิดปกติ จึงกลับมาพักที่บ้าน วันต่อมาอาการยังทรง จึงไปพบอายุรแพทย์โรคติดเชื้อ การวินิจฉัยเป็นปอดอักเสบ ถูกกักในห้องแยกโรค ผลตรวจพบเชื้อโควิด-19  แพทย์รับเข้ารักษาที่ห้อง EIU ได้รับยาต้านไวรัส  24 มี.ค.อาการดีขึ้น  ไอน้อยลง  คัดจมูกเล็กน้อย  เจ็บคอ  ไม่มีไข้  จึงย้ายออกจากห้อง EIU  พักฟื้นที่โรงพยาบาลสนาม BRIC BOX  ของเอกชน  ที่เตรียมไว้รองรับผู้ป่วย และผู้เสี่ยงสัมผัสเชื้อโควิด โดยรวมอาการของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั้ง 5 ราย ดีขึ้น 4 ราย อีก 1 ราย แพทย์ยังต้องดูแลใกล้ชิดเป็นชาวต่างชาติ


การสอบสวนโรคยังพบว่าขณะที่วิสัญญีแพทย์คนดังกล่าวมาปฏิบัติหน้าที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์  ก็มีแพทย์   พยาบาล บุคลากรอื่น และผู้ป่วยทั่วไปที่มาใช้บริการ  ที่เสี่ยงสัมผัสเชื้อต้องเข้าข่ายถูกกักตัวและเฝ้าติดตามอาการเป็นเวลา 14 วัน ประมาณ 30 – 40 คน  ในจำนวนนี้กักตัวที่โรงแรม BRICBOX และที่บ้าน  โดยมีทีมแพทย์ตรวจวัดไข้  และติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง

นพ.วิทิต กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่ไม่ได้รุนแรงตามที่มีข่าวออกไป ขอประชาชนอย่าตื่นวิตกและไว้วางใจเชื่อมั่นในระบบการคัดกรองและตรวจรักษา  ซึ่งแพทย์ พยาบาลทุกคนก็ทำงานกันอย่างเต็มที่   ส่วนผู้ป่วยทั้ง 5 รายนั้นก็เป็นผู้ที่ติดเชื้อมาจากนอกพื้นที่แล้วเดินทางเข้ามาในจังหวัดบุรีรัมย์ อย่างไรก็ตาม ได้กำชับให้บุคลากรทางแพทย์งดการเดินทางไปจังหวัดที่เสี่ยง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง