สปสช.พร้อมช่วยเหลือ บุคลากรสาธารณสุขติดโควิด-19

สปสช.25 มี.ค.-สปสช.เป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในการรับมือโควิด-19 พร้อมจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้น กรณีบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จากการดูแลผู้ป่วยสิทธิบัตรทอง 30 บาท 



นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ในปัจจุบัน สปสช.ขอชื่นชมและเป็นกำลังใจแก่บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขทุกท่านซึ่งปฏิบัติงานอย่างหนักในการรับมือกับการระบาดดังกล่าวและขอร่วมฝ่าฟันวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน 


นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวอีกว่า ขณะนี้มีบุคลากรทางการแพทย์ภาครัฐในประเทศไทยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จากการให้บริการผู้ป่วย สปสช.ตระหนักถึงเรื่องดังกล่าว  ตลอดจนมีความห่วงใยบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่กำลังปฏิบัติหน้าที่เป็นอย่างมาก และพร้อมจะสนับสนุนเงินช่วยเหลือช่วยเหลือเบื้องต้นแก่บุคลากรที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จากการให้บริการ ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข การรับเงิน การจ่ายเงิน การรักษาเงินและรายการของค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องและจำเป็นต่อการสนับสนุนและส่งเสริมการจัดบริการสาธารณสุขและค่าใช้จ่ายอื่น พ.ศ. 2559

โดยตามประกาศฯ ดังกล่าว ในหมวดที่ 5 ว่าด้วยค่าใช้จ่ายเพื่อเป็นเงินช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ผู้ให้บริการที่ได้รับความเสียหายจากการให้บริการสาธารณสุขของหน่วยบริการ ข้อที่ 29 กำหนดหลักเกณฑ์การจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นไว้ 3 กรณี ประกอบด้วย

1.กรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพอย่างถาวร หรือเจ็บป่วยเรื้อรังที่ต้องได้รับการรักษาตลอดชีวิตและมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการดำรงชีวิต จ่ายเงินช่วยเหลือได้ตั้งแต่ 240,000 บาท แต่ไม่เกิน 400,000 บาท 


2.กรณีสูญเสียอวัยวะ หรือพิการที่มีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต จ่ายเงินช่วยเหลือได้ตั้งแต่ 100,000 บาท แต่ไม่เกิน 240,000 บาท

และ 3.กรณีบาดเจ็บ หรือเจ็บป่วยต่อเนื่อง จ่ายเงินช่วยเหลือได้ไม่เกิน 100,000 บาท

นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า หากเกิดกรณีบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขได้รับความเสียหายหรือติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 จากการให้บริการผู้ป่วยสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือสิทธิบัตรทอง 30 บาท สามารถยื่นคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นได้ที่ สปสช.สาขาเขตพื้นที่ หรือหน่วยบริการที่ปฏิบัติหน้าที่ภายใน 1 ปีนับแต่วันที่ทราบความเสียหาย ซึ่งในแต่ละสำนักงานสาขาเขตพื้นที่จะมีคณะอนุกรรมการพิจารณาวินิจฉัยคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นเป็นผู้พิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว

กะเหรี่ยงโจมตีฐานทหาร

ชาวเมียนมาหนีตายข้ามมาฝั่งไทย หลังทหารกะเหรี่ยงโจมตีฐานทหารเมียนมา

สถานการณ์แนวชายแดนไทย-เมียนมา กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง หลังทหารกะเหรี่ยงจำนวนมากบุกโจมตีฐานทหารเมียนมา ฝั่งตรงข้าม อ.แม่ระมาด จ.ตาก ล่าสุดยังปะทะกันอย่างดุเดือด ทำให้ชาวเมียนมา 233 คน ต้องอพยพหนีตายข้ามแม่น้ำเมยมาฝั่งไทย