กรุงเทพฯ 25 ก.ย. – InnovestX ประเมินภาพรวมการลงทุนไตรมาส 4/2568 ว่า บรรยากาศการลงทุนเริ่มชัดเจนขึ้น เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มฟื้นตัว หลังสหรัฐฯ ประกาศเก็บภาษีศุลกากรต่ำและช้ากว่าที่คาด ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เร่งผ่อนคลายดอกเบี้ยเร็วกว่าประมาณการณ์ ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นต่อตลาดการเงินทั่วโลก แม้ยังคงเผชิญแรงกดดันเงินเฟ้อและความเสี่ยงจากสงครามการค้า ขณะที่เศรษฐกิจไทยยังมีความเปราะบาง ทั้งจากการส่งออกที่ชะลอ การบริโภคในประเทศที่ยังไม่ฟื้นเต็มที่ และหนี้ครัวเรือนสูง แต่ความชัดเจนทางการเมืองและนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ถือเป็นแรงหนุนสำคัญ
ดร.ปิยศักดิ์ มานะสันต์ หัวหน้านักวิจัยเศรษฐกิจ บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) ในเครือเอสซีบีเอกซ์ กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกปี 2568–2569 มีแนวโน้มขยายตัว 2.9% และ 3.0% หลังสหรัฐฯ ประกาศอัตราภาษี Reciprocal Tariff ต่ำกว่าคาด โดยเก็บเพียง 15% สำหรับประเทศพัฒนาแล้ว และ 19–20% สำหรับประเทศกำลังพัฒนา เช่น ไทย แม้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอแต่ยังไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย ตลาดแรงงานอ่อนลงแต่ยังไม่กระทบการบริโภค ขณะที่ยุโรปเริ่มฟื้นตัวจากมาตรการการคลังและนโยบายการเงินผ่อนคลาย ส่วนจีนยังชะลอจากปัญหาเชิงโครงสร้าง คาดโตเพียง 4.4% ในปี 2568 และ 4.0% ในปี 2569 แม้มีมาตรการ Anti-Involution เพื่อพยุงการเติบโต
นายสุทธิชัย คุ้มวรชัย Head of Research Department เปิดเผยว่า บรรยากาศการลงทุนในไทยไตรมาส 4/2568 ชัดเจนขึ้น หลัง Fed ลดดอกเบี้ยเร็วกว่าคาดและค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า ช่วยหนุนการลงทุนในตลาดเกิดใหม่รวมถึงไทย ด้านการเมืองที่มีเสถียรภาพมากขึ้น ยังช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นต่อนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจไทยยังเสี่ยงชะลอ โดย InnovestX คาดว่า GDP ปี 2568 โตเพียง 1.8% และปี 2569 โต 1.4% โดยแรงกดดันหลักมาจากการส่งออกที่ยังไม่ฟื้น ราคาสินค้าเกษตรผันผวน และหนี้ครัวเรือนสูง ขณะที่การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและมาตรการกระตุ้นเป็นปัจจัยพยุง
นายสิทธิชัย ดวงรัตนฉายา หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุน InnovestX มองว่า ความเสี่ยงขาลงของตลาดหุ้นไทยจำกัด นักลงทุนควรเน้นหุ้น Domestic Play ที่ได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการบริโภคภายในประเทศ พร้อมแนะนำหุ้นพื้นฐานแข็งแกร่ง ได้แก่
• AP – โดดเด่นด้านอสังหาฯ ที่อยู่อาศัย มีฐานรายได้มั่นคง
• CENTEL – ได้แรงหนุนตรงจากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว
• DIF – รายได้สม่ำเสมอจากโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล และปันผลสูง
• HMPRO – สอดรับกำลังซื้อและการปรับปรุงที่อยู่อาศัยในประเทศ
• MTC – ได้อานิสงส์จากดอกเบี้ยขาลงและสินเชื่อรายย่อยในภูมิภาค
สำหรับต่างประเทศ เน้นหุ้นเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมวัฏจักร เช่น TSLA, MSFT, NVDA, AAPL (สหรัฐฯ), ASML, LVMH (ยุโรป) และ Tencent, Alibaba (จีน) ซึ่งได้แรงหนุนจากดอกเบี้ยขาลงและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
ดร. รัฐศรัณย์ ธนไพศาลกิจ Head of Investment Strategy Department แนะนำให้นักลงทุนจัดพอร์ตอย่างรอบคอบ ดังนี้
• ตราสารหนี้ ลงทุนระยะสั้น–กลาง ลดความเสี่ยงความผันผวนของพันธบัตรยาว
• ทองคำ เป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงเงินเฟ้อและค่าเงิน
• REITs ไทยน่าสนใจกว่า REITs โลก ด้วย Dividend yield สูงและได้อานิสงส์จากดอกเบี้ยขาลง
• สินทรัพย์ดิจิทัล มีความน่าสนใจมากขึ้นหลังหลายประเทศออกกฎเกณฑ์ชัดเจน
กองทุนแนะนำประจำไตรมาส ได้แก่ KFCSI300-A (หุ้นจีน), ES-EG-A (หุ้นยุโรป), UOBSG-H (ทองคำ) และ MPDIVMF (REITs ไทย) รวมถึงการใช้ US Options และ USD Futures เพื่อเพิ่มผลตอบแทนและป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน
InnovestX เตือนนักลงทุนว่า แม้เศรษฐกิจโลกมีสัญญาณเชิงบวกมากขึ้น แต่ยังไม่ควรละเลยความเสี่ยงจากสงครามการค้า ภูมิรัฐศาสตร์ ราคาน้ำมัน และค่าเงินผันผวน จึงควรกระจายการลงทุนในหลายสินทรัพย์ เพื่อสร้างสมดุลระหว่างผลตอบแทนกับการลดความผันผวนในระยะยาว. -512-สำนักข่าวไทย