ผู้ว่าฯกทม.ออกมาตรการ 7 ข้อ ขอ ปชช.ร่วมสู้โควิด-19

สำนักข่าวไทย 23 มี.ค.-ผู้ว่าฯกทม.ออกมาตรการขอความร่วมมือ 7ข้อ “ไม่ออกนอกกรุงเทพฯ-อยู่ในที่พักอาศัย-ไปสนามมวย สถานบันเทิงให้พักสังเกตอาการตามสธ.แนะนำ-ขนส่งมวลชนลดแออัดผู้โดยสาร”ลั่นทำทุกทางป้องกันโรคโควิด-19 วอนคนกรุงเข้าใจมาตรการที่ออกไปอาจเร่งด่วนจนส่งผลกระทบ


พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) แถลงการณ์ทางเฟซบุ๊กไลฟ์ ในช่องทางเพจ ผู้ว่าอัศวินฯ โดยระบุว่า ตามที่ กทม.มีมาตรการขอความร่วมมือปิดสถานที่เสี่ยงหลายแห่ง  จนส่งผลให้มีคนเดินทางออกจากพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งเห็นได้จากเหตุการณ์ที่มีคนจำนวนมากที่สถานีขนส่งหมอชิต ตามที่สื่อต่างๆนำเสนอไปเมื่อวานนี้(22 มี.ค.)  แต่เมื่อดูสถิติตัวเลขจาก บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.)ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา พบว่ามีจำนวนผู้เดินทางออกนอกกรุงเทพฯเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาปกติเพียงแค่ร้อยละ 10 เท่านั้น และในจำนวนนี้ร้อยละ 90 เป็นพี่น้องแรงงานที่มาจากประเทศเพื่อนบ้าน  เนื่องจากต้องรีบเดินทางกลับเพราะมาตรการปิดด่านพรมแดนในวันนี้นั้นเอง  จึงอยากขอบคุณพี่น้องที่อยู่ในกรุงเทพฯทุกคน ถึงแม้ว่าตนเองจะไม่มีอำนาจสั่งไม่ให้ทุกคนเดินทางออกนอกพื้นที่กรุงเทพฯแต่ทุกคนก็ยังให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี


แต่เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนที่อยู่ในกรุงเทพฯ จึงอยากจะขอความร่วมมืออีกหลายอย่าง  จึงขอออกมาตรการขอความร่วมมือเพิ่มอีก 7 ข้อ ดังนี้


1.ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนไม่เดินทางออกนอกพื้นที่กรุงเทพมหานคร

1.1 หากยังไม่มีเชื้อในร่างกาย อาจได้รับเชื้อระหว่างการเดินทาง 

        1.2 หากมีเชื้อในร่างกายเพียงเล็กน้อยซึ่งอาจหายเองได้ การเดินทางอาจเป็นการเพิ่มเชื้อในร่างกายและทำให้มีอาการหนักขึ้น 

        1.3 หากมีเชื้อในร่างกาย จะเป็นพาหะและนำพาเชื้อไปสู่ผู้อื่นระหว่างการเดินทาง รวมถึงบุคคลในครอบครัวที่ภูมิลำเนา

2.ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน อยู่แต่ในที่พักอาศัย และหมั่นทำความสะอาดร่างกาย ที่พัก จุดเสี่ยง หรือจุดที่ต้องใช้ร่วมกัน  

3.ขอความร่วมมือหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ทุกแห่ง จัดทำมาตรการป้องกัน โควิด-19 ตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข ทั้ง การดูแลสุขภาพและป้องกันการติดเชื้อของพนักงานและบุคลากร เช่น การใช้หน้ากากอนามัย การจัดจุดบริการเจลล้างมือ และการจัดการขยะ รวมถึงขอให้เข้มข้นมาตรการเว้นระยะห่างระหว่างกัน 1-2 เมตรอย่างเคร่งครัดโดยทันที   และพิจารณามาตรการเหลื่อมเวลาการทำงาน การทำงานที่บ้าน 

4.ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน ผู้ที่เดินทางไปสนามมวย สถานบันเทิง หรือสถานที่ที่พบผู้ติดเชื้อ พร้อมผู้ใกล้ชิดที่สัมผัสผู้ติดเชื้อ ให้พักสังเกตอาการในที่พักตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข หากมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ หายใจหอบเหนื่อย หายใจลำบาก ให้ไปพบแพทย์ให้รีบพบแพทย์ทันที

5.ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน หลีกเลี่ยงไปยังสถานที่ที่มีคนจำนวนมาก และแออัด และให้เว้นระยะห่างระหว่างกัน 1-2 เมตร

6.ขอความร่วมมือทุกหน่วยงาน ทั้ง ภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ เอกชน งดการจัดกิจกรรมที่จะทำให้มีคนมารวมกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีความเสี่ยงสูงต่อการแพร่ระบาด เช่น การประชุมสัมมนาอบรม งานแสดงสินค้า อีเว้นท์ คอนเสิร์ต กองถ่ายทำละครและภาพยนตร์ และการเข้าชมรายการในห้องบันทึกเทปโทรทัศน์หรือห้องผลิตรายการสด 

7.ขอความร่วมมือหน่วยงานที่ให้บริการขนส่งมวลชนทุกแห่งลดความแออัดของผู้โดยสาร  เช่น เพิ่มช่องทางการจำหน่ายตั๋วโดยสาร จัดให้มีการเว้นระยะห่างไม่น้อยกว่า 1-2 เมตร จากผู้อื่น เพิ่มจำนวนเที่ยวการให้บริการ

ผู้ว่าฯกทม. กล่าวอีกว่า ขอความร่วมมือประชาชนทุกคน หน่วยงาน องค์กรทุกแห่งให้ความร่วมมือปฎิบัติตามมาตรการของกรุงเทพมหานครอย่างเคร่งครัด  ทั้งนี้เข้าใจดีว่ามาตรการที่ กทม.ได้ออกไปแล้วนั้นอาจเป็นมาตรการเร่งด่วน จนหลายคนไม่ทันตั้งตัว จนส่งผลกระทบ และเดือดร้อนในการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป แต่ขอให้ทุกคนมั่นใจว่า กทม.และรัฐบาล จะหาทางช่วยเหลือเยี่ยวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างเร็วที่สุด  

พร้อมย้ำว่า ขณะนี้เราทุกคนอยู่ในสถานการณ์ที่ร่วมต่อสู้กับศัตรู ที่ร้ายแรงยิ่งกว่าอาวุธ หรือกองกำลัง ศัตรูที่จะมีแต่ทวีคูณจำนวนเชื้อโรคไปทุกๆวัน ศุตรูที่ไม่มีวันจะเมตตาแม้ว่าเราจะมีมีทางต่อสู้ ศัตรูที่ได้เปรียบจากการที่เราไม่ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตประจำวัน  ทางเดียวที่เราจะเอาชนะศัตรูนี้ได้ คือ การที่เราทุกคนทำสิ่งง่ายๆ ด้วยการเว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ ไม่ไปอยู่ในที่ที่ผู้คนแออัด พร้อมขอให้ทุกคนมั่นใจว่า กทม.จะทำทุกวิถีทางที่จะป้องกันจากเชื้อโรคโควิด-19 ให้ได้.////

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร