จิตแพทย์พบคนไทยส่วนใหญ่กังวลโควิด-19 แนะเสพข่าวเหมาะสม

สธ.21มี.ค.-จิตแพทย์ชี้คนไทยร้อยละ 80 ส่วนใหญ่กังวลโควิด-19 มีทั้งกังวลน้อยใช้ชีวิตชิล กับกังวลมากเกิน แนะเสพข่าวแต่น้อย ขณะที่ังกังวลแต่พอดี มีน้อยแค่ร้อยละ 20 เชื่ออีก 2-3 สัปดาห์ เมื่อตัวเลขผู้ป่วยมากขึ้น คนตระหนักกังวลอย่างเหมาะสม พร้อมย้ำ14 วันกักตัวถือโอกาสทำอะไรให้กับตัวเอง แค่ลดกิจกรรมทางกาย แต่กิจกรรมทางใจเหมือนเดิม ไม่ต้องเครียดเพราะมีเทคโนโลยีสื่อสาร 


นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ ที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต กล่าวถึงสถานการณ์โรคโควิด-19ว่าขณะนี้กรมสุขภาพจิต เตรียมสำรวจสถานการณ์สุขภาพจิตของคนไทยในภาวะโควิด-19แต่หากจะประเมินด้วยจากสายตาและในโลกโซเชียลจะพบว่า คนไทยมีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภท คือ 1.กังวลน้อยเกินไป ไม่ได้ป้องกันตัว ไม่สวมหน้ากากอนามัย ไม่หมั่นล้างมือ ไม่ปฏิบัติระยะ ห่างที่เหมาะสม 1-2 เมตร ใช้ชีวิตปกติ , 2.กังวลมากเกินไป กลัวโรค ไปตรวจร่างกายโดยไม่จำเป็น ระแวงคนรอบข้าง ทำให้เกิดความเครียดและท้ายที่สุดของความกลัวในลักษณะนี้จะเป็นความโกรธและโทษกันเอง ตั้งแต่กักตุนอาการ โกรธและเกลียดคนไม่ปฏิบัติตัวให้ดี ว่ากล่าวกัน 


และ 3.กังวลแต่พอดี ถือปฏิบัติตำามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข ไม่ไปในสถานที่แออัด สวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ ป่วยหยุดงานและมีระยะห่างที่เหมาะสม 

นพ.ยงยุทธ กล่าวต่อไปว่า จากการสำรวจ 3 กลุ่มนี้ พบว่าส่วนใหญ่ร้อยละ80 อยู่ในกลุ่มที่ 1 กังวลน้อย และ 2 กังวลมาก แต่กลุ่มกังวลพอดี กลับมีน้อยแค่ร้อยละ 20 ซึ่งต้องพัฒนากลุ่ม คน 2 กลุ่มนี้ ให้มีระดับความกังวลแบบพอดี ทำได้ด้วยการบริโภคข่าวสารที่พอเหมาะ อย่าไปเพิ่มความขัดแย้ง และต้องคิดว่า เราต้องร่วมกันฝ่าวิกฤตนี้ไปด้วยกัน 


นพ.ยงยุทธ กล่าวอีกว่า เชื่อว่าอีก 2-3 สัปดาห์เมื่อสถานการณ์ของโรค  พบจำนวนผู้ป่วยมากขึ้น ความตระหนักในโรคนี้จะมีมากขึ้น ในกลุ่มคนกังวลน้อย ส่วนคนกังวลมากจากนี้ต้องปรับตัวบริโภคข่าวสารพอเหมาะสม แค่วันละ 2ชั่วโมง เลือกแหล่งข่าวสารที่น่าเชื่อถือ ความขัดแย้ง หรือผิดหวังที่เกิดขึ้น จนเป็นการโจมตีในโซเชียล ต้องยอมรับว่า ส่วนหนึ่งมาจากความขัดแย้งเดิม ไม่ชอบรัฐบาลเป็นตัวตั้ง แต่ท้ายสุดคนเราจะเข้าใจสถานการณ์และปฏิบัติตัว การปิดเมืองหรือไม่ปิดเมือง  ไม่มีความหมายเท่ากับเราต้องผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน 

นพ.ยงยุทธ กล่าวด้วยว่า ต่อไปเราจะเห็นคนไทยกักตัวเองอยู่กับบ้าน 14 วันมากกว่าในโรงพยาบาล เพราะโรงพยาบาลต้องเอาไว้สำหรับคนป่วย คนมีอาการน้อย หรือไม่มีอาการเลยต้องอยู่บ้าน 14 วันนี้ต้องมีความหมาย อยู่อย่างไรให้มีความสุข คิดเสียว่า ได้อยู่กับตัวเอง ทำอะไรในสิ่งที่ไม่ได้ทำใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่า จัดบ้าน อ่านหนังสือที่อยากอ่าน หรือเรียนออนไลน์ ดูซีรีย์ แต่ต้องไม่เสพข่าวสารมากขึ้นเกินไป จะเกิดความเครียด คิดถึงเพื่อน คนรัก คนใกล้ชิด เรามีเทคโนโลยีเชื่อมกันคุยกันได้เสมอ ไม่ได้อยู่คนเดียว เพียงแต่การทำกิจกรรมทางกายลดลง แต่กิจรรมทางใจยังเหมือนเดิม .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก